การขับเคลื่อนสัมมาชีพชุมชนอำเภอเมืองจันทร์
โดย : นายวิทยา ราเต ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-03-24-14:44:19ที่อยู่ : สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองจันทร์
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เป้าหมายการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” นำไปสู่การพัฒนาให้คนในประเทศมีความสุขและตอบสนองต่อการบรรลุซึ่งผลประโยชน์ชาติ กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง
กรมการพัฒนาชุมชน ได้มีแนวทางในการส่งเสริม “สัมมาชีพชุมชน” เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยให้ชาวบ้านสอนชาวบ้านในสิ่งที่เขาอยากทำ ฝึกปฏิบัติจริง ให้สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ เพราะข้อเท็จจริงในทุกพื้นที่จะมีคนเก่งและประสบผลสำเร็จในแต่ละอาชีพอยู่แล้ว ซึ่งจะคัดเลือกและจัดเวทีฝึกทักษะการสอน การถ่ายทอดความรู้ให้กับคนเก่งเหล่านี้ ยกให้เป็น “วิทยากรสัมมาชีพชุมชน” อำเภอเมืองจันทร์มีพื้นที่เป้าหมายดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมสัมมาชีพชุมชน จำนวน ๑๙ หมู่บ้าน
วัตถุประสงค์ ->
กระบวนการขับเคลื่อนสัมมนาชีพชุมชน
๔.๑ พัฒนากรประจำตำบล จัดเวทีประชาคมหมู่บ้านพื้นที่เป้าหมาย ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการ
ดำเนินงานตามโครงการ “สัมมาชีพชุมชน” เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วม
๔.๒ จัดเวทีประชาคมคัดเลือกปราชญ์ชุมชนจากผู้ที่ประสบผลสำเร็จจากการประกอบอาชีพในหมู่บ้านๆละ ๕
คนหรือ ๕ อาชีพ โดยให้พิจารณาจากอาชีพที่มีความสนใจมากที่สุดเรียงลำดับ ๑-๕
๔.๓ คัดเลือกปราชญ์ชุมชน ลำดับที่ ๑ เข้ารับการฝึกอบรมตามหลักสูตรวิทยากรผู้นำสัมมาชีพ สร้างวิทยากร
ผู้นำสัมมาชีพ จากศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี เพื่อรับการถ่ายทอดความรู้เป็นวิทยากร
กระบวนการชุมชน
๔.๔ เตรียมความพร้อมวิทยากรผู้นำสัมมาชีพที่ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรหมู่บ้านละ ๑ คน และปราชญ์
ชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกตามข้อ ๒ หมู่บ้านละ ๔ คน รวมหมู่บ้านละ ๕ คน โดยให้ปราชญ์ที่ผ่านการ
ฝึกอบรมจากศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี หรือที่เรียกว่า “ครูใหญ่” เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้
ให้ปราชญ์ชุมชน ๔ คนหรือที่เรียกว่า “ครูน้อย” ถ่ายทอดความรู้เทคนิคการเป็นวิทยากรกระบวนการ
และร่วมกันวางแผน ออกแบบเนื้อหาหลักสูตรที่จะถ่ายทอดแก่ครัวเรือนเป้าหมาย ๒๐ ครัวเรือน
๔.๕ จัดเวทีประชาคม เปิดรับสมัครครัวเรือนสัมมาชีพเพื่อเข้าร่วมโครงการ พิจารณาคัดเลือกโดย
คณะกรรมการหมู่บ้านร่วมกับครูใหญ่ ครูน้อย และพัฒนากรประจำตำบล เน้นครัวเรือนที่ตกเกณฑ์ จปฐ.
และผู้มีรายได้ตามเกณฑ์ จปฐ. ต่ำที่สุดเป็นอันดับแรก จำนวน ๒๐ ครัวเรือน
๔.๖ ดำเนินการให้ความรู้ครัวเรือนตามโครงการสร้างสัมมาชีพชุมชนในระดับหมู่บ้านโดยทีมวิทยากรผู้นำ
สัมมาชีพ หมู่บ้านละ ๕ คน (ครูใหญ่/ครูน้อย) ถ่ายทอดความรู้ด้านการประกอบอาชีพให้ครัวเรือน
สัมมาชีพที่ได้รับการคัดเลือก จำนวน ๒๐ ครัวเรือน โดยการแบ่งกลุ่มย่อยตามความต้องการด้านอาชีพ
สาธิตการประกอบอาชีพ ศึกษาดูงาน และฝึกปฏิบัติ
๔.๗ แต่งตั้งคณะทำงานติดตามสนับสนุนการส่งเสริมสัมมาชีพชุมชนระดับอำเภอ ประกอบด้วย หัวหน้าส่วน
ราชการอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำ อช. ภาคประชาสังคม เพื่อออกให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ
ในการประกอบอาชีพ
๔.๘ คัดเลือกสัมมาชีพดีเด่น จากอาชีพที่ประสบผลสำเร็จ เพื่อเตรียมเป็นข้อมูลจัดตั้งกลุ่มอาชีพ และพัฒนาต่อ
ยอดเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ในโอกาสต่อไป
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
การดำเนินการส่งเสริมสัมมาชีพชุมชน เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับชุมชน ในการพัฒนาอาชีพของตนเอง สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน เกิดความสามัคคีปรองดองในหมู่บ้าน ใช้ทุนทางสังคมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประชาชนได้รับการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพตามความต้องการและเหมาะสมกับสภาพบริบทของพื้นที่ เกิดรายได้ในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง และพึ่งตนเองได้ในที่สุด
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
๑) การคัดเลือกอาชีพครัวเรือนเป้าหมาย ๒๐ ครัวเรือน ต้องเป็นอาชีพที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ มีตลาดจำหน่าย ตรงกับความต้องการของชุมชน และมีช่องทางในการรวมกลุ่มต่อยอดสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP
๒) มีการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นโครงการใหม่เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารัฐ”
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ความคิดครัวเรือนเป้าหมาย ๒๐ ครัวเรือน มองว่า เมื่อฝึกอาชีพแล้ว จะประสบผลสำเร็จทันที ต้องสร้างความเข้าใจให้ยึดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลิตเพื่อบริโภค ลดรายจ่ายในครัวเรือน แบ่งปัน และจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ โดยทำตามกระบวนการค่อยเป็นค่อยไป
ข้อพึงระวัง ->