ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ผ้าไหมกับชุมชนบ้านตาหยวกนับได้ว่าเป็นสิ่งคู่กันมานานจนไม่สามารถแยกจากกันได้โดยสิ้นเชิง  ซึ่งนั่นหมายถึงเป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชน เนื่องจากมีการสั่งสมแนวคิดและถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่งสืบทอดมาจนถึงลูกหลานในปัจจุบัน  ผ้าไหมได้กลายเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์โดยผ่านการจัดเวทีประชาคมหมู่บ้านเมื่อปี 2545  ผ่านการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับ  5 ดาวของจังหวัดและ 3 ดาว ระดับภาค และเป็นสินค้าเศรษฐกิจสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างมหาศาล

วัตถุประสงค์ ->

องค์ประกอบ

1.      อุปกรณ์ในการทอผ้า เช่น  กี่  กง  หลักเฟือ  อัก  หลักตีนกง  ไน  หลอด  ฟืม  ไม้เหยียบหูก โฮงค้นหมี่ ไม้คอนอัก  กระสวย  หวีแปลงไหม

2.      เส้นไหมทั้งไหมเลี้ยและไหมโรงงาน

3.      สีย้อมไหมเคมี

4.      ด่างย้อมไหม

5.      ผู้ชำนาญการออกแบบ ลวดลาย

การทอผ้าในสมัยก่อน

1.      ผู้ทอต้องเลี้ยงไหมเองใช้เวลาประมาณ 30 วัน

2.      นำฝักไหมมาสาวเป็นเส้น 

3.      นำเส้นไหมที่ได้ไปด่อง (ฟอกกาวไหม) น้ำยาที่ใช้ฟอกได้จากการนำเหง้ากล้วย ต้นหญ้างู ต้นผักขมไปเผานำขี้เถ้าที่ได้ไปกรองน้ำ เมื่อได้น้ำที่ผ่านการกรองของขี้เถ้าและมีปริมาณเพียงพอแล้วจึงนำน้ำไปต้มกับเส้นไหม จนเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีขาวนวล ขั้นตอนนี้จะทำให้เส้นไหมนุ่ม ย้อมติดสีง่าย ทนนาน  เวลาทอเนื้อจะแน่น และนุ่ม

4.      กวักไหมใส่อัก เตรียมนำไปมัดลวดลายและทำเป็นด้ายยืน

5.      ค้นหูก จะใช้หลักเฟือค้นเส้นไหมเพื่อวัดระยะความยาวในทอแต่ละครั้งและการวัดความถี่ของฟืมที่จะใช้ทอ

6.      ย้อมสี สมัยก่อนจะทอผ้าพื้นเรียบใช้สีของเส้นไหมคือสีขาวนวล หรือสีงาช้าง และจะใช้สีจากเปลือกไม้ที่หาได้ในชุมชน เช่น สีแดง จากครั่ง  สีเหลืองจากต้นเข  สีเขียวอ่อนจากต้นลิ้นฟ้า สีดำจากลูกมะเกลือ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ประโยชน์

1.      ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม ลายหมี่โฮลเปราะ(ลายปูม)กลายเป็นเอกลักษณ์ของคนในชุมชนบ้าน      ตาหยวก ตำบลทุ่งหลวง

2.      สร้างรายได้ให้กับสมาชิกได้เป็นอย่างดี  โดยเฉพาะสมาชิกนำไปขายที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ทำรายได้ให้กับชุมชนหลายล้านบาทในแต่ละปี

3.      สร้างงานให้กับชุมชน กลายเป็นอาชีพรองของบ้านตาหยวก

4.      สร้างความรักสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะ

เป็นของฝากอันล้ำค่าสำหรับผู้รับ

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ข้อพึงระวัง ->