การนํ้าหมักชีวภาพ
โดย : นายคำใส กันภัย ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-09-26-00:07:42ที่อยู่ : 58 ม.7 บ.โคกสะอาด ต.โคกนาโก
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
นํ้าหมักชีวภาพ คือ น้ำหมักชีวภาพที่ได้จากการหมักเศษซากพืช ซากสัตว์ หรือสารอินทรีย์ชนิดต่างๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นด้วยจุลินทรีย์จำเพาะ ซึ่งอาจหมักร่วมกับกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดงกระบวนการหมักของน้ำหมักชีวภาพจะเกิดจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ โดยใช้กากน้ำตาล และน้ำตาลจากสารอินทรีย์เป็นแหล่งพลังงาน
วัตถุประสงค์ ->
1. น้ำหมักชีวภาพจากปลา
ส่วนผสม : เนื้อปลา น้ำกรดเข้มข้น 3% กากน้ำตาล 20% และหัวเชื้อจุลินทรีย์
วิธีทำ : นำมาผสมรวมกันหมักทิ้งไว้ 1 เดือน นำมากรองกากมาทำปุ๋ย และน้ำไปฉีดพ่น
2. น้ำหมักชีวภาพจากเศษซากพืช
ส่วนผสม : เศษพืช 3 ส่วน น้ำตาลทรายแดง หรือกากน้ำตาล 1 ส่วน
วิธีทำ : นำส่วนผสมรวมกันหมักทิ้งไว้นาน 3 เดือน
3. น้ำหมักสมุนไพร
3.1 พืชผักสวนครัว
ส่วนผสม : เมล็ดสะเดา 2 ก.ก หัวข่าแก่ 1 ก.ก. ตะไคร้หอม 1 ก.ก. และน้ำหมักชีวภาพ 10 ลิตร
วิธีทำ : นำส่วนผสมมาผสมรวมกัน3.2 สวนไม้ผล
ส่วนผสม : เมล็ดสะเดา 2 ก.ก หัวข่าแก่ 1 ก.ก. ตะไคร้หอม 1 ก.ก. และน้ำหมักชีวภาพ 20 ลิตรวัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. น้ำหมักชีวภาพจากปลา
การใช้ประโยชน์ : ใช้อัตรา 100 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อปรับสภาพดินให้ร่วนเหมาะแก่การเจริญเติบโต ลดการใช้ปุ๋ยเคมี หรือใช้ในนาข้าวช่วงก่อนหว่านข้าวฉีดพ่นพร้อมสารควบคุมวัชพืช อัตรา 100 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร และหลังหว่านข้าว 20 วัน อัตรา 50 - 60 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ช่วยเร่งการแตกกอ และเพิ่มจำนวนต้น ต่อกอ รวมทั้งใช้ฉีดพ่นข้าวระยะตั้งท้องและน้ำนมด้วย2. น้ำหมักชีวภาพจากเศษซากพืช
การใช้ประโยชน์ : ใช้เป็นปุ๋ยให้กับผัก หรือฉีดพ่นขับไล่แมลง และป้องกันกำจัดโรคบางชนิด3. น้ำหมักสมุนไพร
3.1 พืชผักสวนครัว
การใช้ประโยชน์ : ป้องกันเพลี้ยอ่อน หนอนใยผัก หนอนกระทู้ หนอนคืบ เพลี้ยไฟในถั่วฝักยาว ถั่วพู แค คะน้า ฯลฯ3.2 สวนไม้ผล
การใช้ประโยชน์ : นำน้ำเชื้อที่ได้ 1 ลิตร ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นไม้ผลขณะแตกใบอ่อน ระยะออกดอก และมีผล เพื่อป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ หนอนแก้วส้ม แมลงวันทอง ด้วงงวงมะพร้าวความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอส่งเสริมและสนับสนุนการจัดประชุมเตรียมความพร้อมทีมวิทยากรสัมมาชีพระดับหมู่บ้าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้านให้มีความพร้อม สามารถจัดการฝึกอบรมอาชีพ ให้กับประชาชนในหมู่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ ->
1. ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนรับสมัครครัวเรือนที่มีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการ จำนวน 20 ครัวเรือน
2. ประชุมครัวเรือนเป้าหมาย (20 ครัวเรือน) เพื่อเลือกอาชีพที่ตนเองสนใจและต้องการที่จะฝึกอบรม คือการทำปุ๋ยหมักอินทรีย์
3. ร่วมกับทีมวิทยากรกำหนดแผนการอบรม ในห้วงเดือน กุมภาพันธ์ 2560
4. ดำเนินการอบรมวิธีการทำปุ๋ยหมักอินทรีย์และน้ำหมัก แก่ครัวเรือนเป้าหมาย จำนวน 3 วัน จากนั้น ศึกษาดูงานสวนเกษตรพอเพียง ของนายสุรชัย ไทยใหม่ ม.6 ต.บ้านปวง เพื่อศึกษาการปลูกผักปลอดสาร การเลี้ยงวัวและการเกษตรแบบผสมผสาน
5. จัดกิจกรรมการสาธิต ให้แก่ครัวเรือนสัมมาชีพ โดยทีมวิทยากรสัมมาชีพทุกคนต้องมีความรู้และสามารถแนะนำเกี่ยวกับเทคนิค หรืออาชีพของตนเองที่เป็นจุดเด่น
5. ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน ติดตามสนับสนุนครัวเรือนเป้าหมาย ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน 1 คน ต่อ ครัวเรือนเป้าหมาย 4 ครัวเรือน พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่ครัวเรือนสัมมาชีพ
6. ครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน จำนวน
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
การคัดเลือกครัวเรือนสัมมาชีพชุมชนต้องคัดเลือกครัวเรือนที่มีความสนใจในการฝึกอาชีพมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเข้าร่วมโครงการ
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อพึงระวัง ->