ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

การทอเสื่อกก เป็นองค์ความรู้ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน ประโยชน์ใช้ปูนั่งและนอน อีกทั้งยังสามารถจำหน่ายแก่ผู่ที่สนใจได้

วัตถุประสงค์ ->

ขั้นตอนการทอเสื่อกก    

นำไหลมาตัดให้เท่ากัน ไหลที่นำมาตัดนั้นจะต้องเป็นลำที่สวยงาม ไม่แก่มาก และไม่อ่อนมากจนเกินไป หลังจากนั้นนำไหลมาสอย เอาไส้ทิ้งเอาแต่เส้น ไหล 1 ลำ จะได้ 4 เส้น เมื่อสอยไหลแล้วก็จะออกมาเป็นลักษณะแบบนี้ ไหลทั้ง4เส้นจะต้องเท่ากัน ห้ามมีเส้นใดเส้นหนึ่งเล็กและใหญ่กว่า ความหนาบางต้องเท่ากัน 0.5 เซนติเมตร เพื่อทอเสื่อออกมาให้สวยงาม นำไหลมาตากให้แห้ง จะย้อมได้สวยตากแดดประมาณ 1 อาทิตย์ ต้องใช้สมาธิในการจัดเส้น เส้นต้องเสมอกัน จัดให้แน่นเรียบละเอียด นำไหลมาย้อมสีตามที่ต้องการโดยสีที่ย้อมเป็นสีเคมีอย่างดี

วิธีการย้อม

1.เลือกสีสำหรับย้อมที่มีสีสันสวยงาม เช่น สีแดง สีบานเย็น สีม่วง

2. ก่อไฟแล้วนำปี๊ป หรือกระทะใส่น้ำพอประมาณท่วมเส้นกกนำมาตั้งบนเตารอให้น้ำเดือด

ก็นำสีที่เลือกมาเทลง จากนั้นกำไหลลงย้อม

3.นำเส้นกกที่ย้อมสีแล้วลงล้างในน้ำเปล่าเพื่อให้กกอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น เหนียว และไม่ขาด ซึ่งจะง่ายต่อการทอ ทอแล้วนำไปตากแดดที่จัดจนแห้ง นำเส้นกกที่ย้อมสีตากแห้งแล้วมากเก็บมัดรวมกัน โดยแยกเป็นสี แต่ละสี     นำเชือกไนลอนหรือเชือกเอ็นขึงที่โฮมทอเสื่อให้เป็นเส้นตามโฮมและฟืมนำกกหรือไหลสอดเข้ากับไม้สอดเพื่อที่จะสอดเข้ากับโฮมทอเสื่อ  เมื่อสอดกกหรือไหลเข้าไปแล้วผลักฟืมเข้าหาตัวเองให้กกหรือไหลแน่นติดกัน เป็นลายต่าง ๆ ขั้นตอนสุดท้ายคือการเย็บขอบเสื่อ ตัดขอบเสื่อกกที่ทอเสร็จแล้วให้เท่ากัน  ผ้าที่ใช้ในการเย็บขอบต้องเป็นผ้าร่มเลือกสีขอบตามที่ต้องการ การเย็บขอบจะต้องใช้เครื่องจักรไฟฟ้า เสื่อที่ทอออกมาก็จะได้เป็นเส้นเล็กๆสวยงามการทอเสื่อที่สวยงามนั่นต้องใช้คามปราณีตและความอดทนสูงเพราะการทอเสื่อ ต้องใช้ระยะเวลาในการทอมาก จึงจะได้เสื่อที่สวยงามมาก และอีกอย่างหนึ่งก็คือการใช้สีในการใส่ลวดลายให้เกิดสีสรรค์สวยงามตามใจผู้ทำ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชน การดำเนินตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การหาตลาดจำหน่ายและหาองค์ความรู้ใหม่ๆ 

ข้อพึงระวัง ->