ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

    ประชาชนในหมู่บ้านไม่มีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ นางสุภาพร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน จึงได้หาอาชีพให้ทำ โดยการศึกษาข้อมูลจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ และเห็นว่าในปัจจุบันการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงเป็นที่นิยม และขายได้ราคา จึงนำมาทดลองเลี้ยงและสามารถขายได้มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงเลี้ยงมาจนถึงปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ ->

  1. การเตรียมน้ำ  ใส่น้ำประมาณ 50 ลิตร เติมเกลือแกงไปประมาณ 2-4 ช้อนโต๊ะ เปิดออกซิเจนทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง ไม่ต้องใส่น้ำยาลดคลอรีน ก่อนนำกุ้งลงตู้ให้เอาถุงใส่กุ้งลอยน้ำทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิให้กับกุ้ง

            2.ปรับอุณหภูมิการเลี้ยงไว้ที่ 20-30 องศาเซลเซียส

            3.สังเกตการลอกคราบของกุ้ง ซึ่งช่วงเวลานี้กุ้งจะบอบบางและอ่อนแอมาก จะสังเกตอย่างไร แบ่ง               

               ออกเป็นข้อๆได้ตามนี้
             - ปริมาณการกินอาหารน้อยลง
             - รอยต่อของลำตัวจะเปิด
             - จับดูที่เปลือกหัวจะนุ่มนิ่มแสดงว่าใกล้ลอกคราบ

 

 

 

                - แต่ถ้าห้วเปิดแล้วตัวยังแข็งอยู่แสดงว่ายังไม่ลอกคราบ อาจจะเกิดจากการที่กุ้งกินอาหารมากเกินไป ทำให้เปลือกบริเวณรอยต่อยกขึ้นเหมือนลอกคราบ
            4. การถ่ายน้ำในกรณีเลี้ยงตู้ควรถ่ายทุกๆ 7-10 วันไม่ควรเปลี่ยนน้ำทิ้งทั้งหมด จะทำให้กุ้งน็อคน้ำได้

 5.อาหาร สำหรับกุ้งชนิดนี้กินได้ทั้งพืชและสัตว์และอาหารเม็ด ยกตัวอย่างอาหารของกุ้งก้ามใหญ่ เช่น

สาหร่ายหางกระรอก แครอท และพืชน้ำอื่นๆ ประเภทเนื้อสัตว์จะเป็นพวก กุ้งฝอยต้ม เนื้อปลาตัวเล็กๆ 

 6.การเพาะพันธุ์ กุ้งก้ามใหญ่ จะเริ่มผสมพันธุ์ที่ขนาดประมาณ 3 นิ้วขึ้นไป ( ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และสายพันธุ์ ) หลังจากผสมแล้ว ตัวเมียจะปล่อยไข่ออกมาใต้หาง และใช้เวลา 30 วันลูกจะเป็นตัว อัตราการผสม ตัวผู้ 1 ตัว ต่อ ตัว เมีย 3 ตัว เพาะเลี้ยงให้ได้ขนาดตัวได้ 2 เซนติเมตรก็สามารถจำหน่ายได้แล้ว          

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ต้องศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา ดูงานจากสถานที่ต่าง ๆที่ประสบความสำเร็จ และนำความรู้มาปรับปรุง

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ข้อพึงระวัง ->