ปลูกข้าวปลอดสาร
โดย : นายบรรเจษฏ์ รำพึงจิต ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-04-08-14:11:01ที่อยู่ : ๒๕/๑ หมู่ที่ ๙ ตำบลกบเจา
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
นายบรรเจษฏ์ รำพึงจิต เป็นเกษตรกรที่ทำนาเหมือนเกษตรกรทั่วไปที่ใช้สารเคมีในการทำนาในที่นา ๑๕ ไร่ จนกระทั่งปี ๒๕๕๘ ผลจากการใช้สารเคมีในการทำนาทำให้เกิดอาการแพ้สารเคมีอย่างรุนแรง จนต้องเลิกทำนาไป ๑ ปี และได้ปรึกษาเกษตรอำเภอบางบาล ว่าพอจะแนวทางใดบ้างที่ทำนาโดยไม่ใช้สารเคมี เกษตรอำเภอได้แนะนำการใช้เชื้อราบิวเวอร์เรียกำจัดศัตรูพืช และได้ไปศึกษาดูงานที่อำเภอบางไทร ได้นำความรู้มาใช้ในการทำนาปลอดสาร
จากนั้นนายบรรเจษฎ์ฯ ก็ได้ทำนาปลอดสาร โดยเริ่มทำจริงจังก็ปี ๒๕๔๙ ถึงถึงปัจจุบัน มีการขยายพื้นที่การทำนาเพิ่มเป็น ๔๘ ไร่ ผลตอบแทนที่ได้คือขายได้ได้เท่ากับคนทำนาทั่วไป แต่จะเหลือกำไรมากกว่าเนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้สารเคมี และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้มีสุขแข็งแรงปลอดจากสารเคมี ข้าวที่ได้ก็สีเป็นข้าวสารขายให้คนในชุมชน ที่เหลือก็จำหน่ายให้คนนอกชุมชน นอกจากเชื้อราบิวเวอร์เรียแล้ว นายบรรเจษฎ์ ยังศึกษาประโยชน์ และการเพาะเชื้อราตัวอื่นๆมาใช้ในการทำการเกษตรอื่นๆ ได้แก่เชื้อ เมทาไรเซียม ใช้กำจัดปลวกและแมลง , สารเมตตาไรเซียม บำรุงพืช , จุลินทรีย์โพโต้เซเนติก จำกัดก๊าชไข่เน่า ใส่ห้องน้ำป้องกันกลิ่นเหม็น , โฮร์โมนไข่ บำรุงใบ ผล ดอกของพืช
ปัจจุบันสถานที่บ้านของนายบรรเจษฏ์ฯ เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง การเกษตรปลอดสาร เป็นวิทยากรบรรยายความรู้ในด้านต่างๆ ให้คนสนใจทั่วไป เป็นประธานกลุ่มข้าวพันธุ์ชุมชน
วัตถุประสงค์ ->
การผลิตข้าวปลอดสารใช้ข้าวพันธุ์หอมปทุม พันธุ์ปทุมธานี ๑ (กข.๓๑) การปลูกต้องปลูกสลับกันเพื่อเพิ่มผลผลิตของแต่ละฤดูกาล และป้องกันเชื้อโรค การใช้เชื้อบิวเวอร์เรียโดยคุณสมบัติของเชื้อฯ คือเมื่อฉีดพ่นไปที่ต้นข้าวแล้วสปอร์จะไปจับที่ตัวแมลงหรือเพี้ยที่เกาะตามต้นข้าว จากนั้น เชื้อบิวเวอร์เรีย จะซึมผ่านเซลล์ของตัวแมลง
ทำให้ภายในของแมงติดเชื้อรา และแห้งตายไปในที่สุดโดยจะใช้ระยะเวลา ๓ – ๔ วัน และเชื้อจะสามารถแพร่ไปยังแมลงตัวอื่นที่มาใกล้ซากแมลงที่ตาย หรือสัมผัสกันเป็นการกระจายของเชื้อบิวเวอร์เรีย โดยอัตโนมัติ
ขั้นตอนการใช้เชื้อบิวเวอร์เรีย
๑.นำเชื้อบิวเวอร์เรียที่อยู่ในถุงเพาะเชื้อฯ ๑ ถุง ขยี้กับน้ำเปล่าให้เชื้อบิวเวอร์เรียออกมาโดยใช้น้ำ ๒ ลิตร
๒ จากนั้นนำน้ำที่ได้ผสมกับน้ำเปล่า ๒ ลิตร (เรียกว่าหัวเชื้อ) จากนั้นนำหัวเชื้อ ๒ ลิตร ผสมน้ำ ๘๐ ลิตร
ฉีดพ้นต้นข้าว โดยครั้งแรกเมื่อหว่านข้าวลงแปลงนา ก็ฉีดพ่นเลย และฉีดพ่นอีกจำนวน ๓ ครั้ง เดือนละครั้ง รวมเป็นต่อการทำนา ๑ รุ่น จะฉีดพ่น จำนวน ๔ ครั้ง จนกระทั่งเก็บเกี่ยว ซึ่งเชื้อบิวเวอร์เรีย ๑ ถุง ใช้ฉีดพ่นได้ ๔ ไร่ รวมต้นทุนทุกอย่างของการทำนาทั้งค่าไถ ค่าหว่าน ค่าเชื้อบิวเวอร์เรีย ฯลฯ ต้นทุนเฉลี่ยไร่ละ ๑,๐๐๐ บาท เมื่อเทียบกับการทำนาที่ใช้สารเคมี ไร่ละ ๖,๐๐๐ บาท
ขั้นตอนการผลิตเชื้อบิวเวอร์เรีย(จำนวน ๑ ถุง )
วัตถุอุปกรณ์ที่ใช้
๑.ข้าวสาร ๒ ถุง
๒.น้ำสะอาด ๖๐ CC
๓. ถุงร้อนกันน้ำได้
๔.สำลี
๕.คอขวดเพาะเห็ด
๖.หนังยาง
การผลิตเชื้อบิวเวอร์เรีย
๑.เปิดถุงใส่ข้าวสารและน้ำเปล่าลงไป ใส่คอขวด อุดสำลีให้แน่น
๒.เขย่าให้เข้ากัน แล้วนำไปนึ่งในซึ่งนาน ๔๕ นาที พอครบนาทีเขย่าให้เข้ากัน ปล่อยรอให้เย็น
๓.นำถุงเชื้อเข้าตู้เขี่ยเชื้อ เปิดแสงทิ้งไว้ ๔๕ นาที
๔.เริ่มเขี่ยเชื้อ ซึ่งหัวเชื้อบิวเวอร์เรีย ( ผสมกับเม็ดข้าวสาลีที่อยู่ในขวดแก้ว หาได้จากเกษตรอำเภอทุกแห่ง ) โดยเปิดสำลีออกเขี่ยหัวเชื้อลงไปปิดสำลีให้แน่น จากนั้นนำไปวางที่อุณหภูมิห้อง โดยเชื้อบิวเวอร์เรียจะใช้เวลาเพาะเชื้อราว ๗ – ๑๕ วัน ก็นำไปใช้ได้ แต่จะมีอายุไม่เกิน ๑ เดือน
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
การพึ่งตนเองของเกษตรกรที่คิดค้นหาวิธีใหม่กำจัดศัตรูพืช จนสามารถปลูกข้าวปลอดสารได้ประสบผลสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป หากมีความตั้งใจจริงในการพัฒนาตนเอง และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ และต้องใช้เวลาในการอดทนต่อการใช้สารชีวภาพ เพราะมันจะไม่เห็นผลในทันตาทันใดเหมือนสารเคมี และจะค่อยเป็นค่อยไป ปรับสมดุลทางธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ผู้ใช้ปลอดภัย สุขภาพร่างกายแข็งแรง ผลผลิตที่ได้ก็มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนายบรรเจษฏ์ฯ มีความรู้แล้ว ยังถ่ายทอดให้บุคคลทั่วไป เพื่อต้องการให้คนนำไปใช้ อย่าแพร่หลาย เป็นผลดีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อพึงระวัง ->