เทคนิคการส่งเสริมสัมมาชีพชุมชนให้บรรลุเป้าหมาย
โดย : นางสวงษ์ แสงทะมาต ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-07-01-20:53:42ที่อยู่ : บ้านปากคลองสอง หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การส่งเสริมการขับเคลื่อนการสร้างสัมมาชีพชุมชน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแผนยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็งของรัฐบาล ซึ่งตอบสนองนโยบายรัฐบาลเรื่อง การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงาน ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีกระบวนการพัฒนาที่เป็นขั้น
เป็นตอน ตั้งแต่ ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อมุ่งหมายให้ครัวเรือนที่ผ่านกระบวนการดังกล่าว มีความรู้
และปฏิบัติอาชีพได้จริง จนพัฒนาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับครัวเรือน ต่อยอดสู่การรวมกลุ่ม จัดตั้งกลุ่มอาชีพ
ที่มีความเข้มแข็ง ต่อไป
อำเภอบ้านสร้าง โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี มีเป้าหมายในการสร้างสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน จำนวน ๒๑ หมู่บ้าน (ซึ่งได้มีการสำรวจข้อมูลปราชญ์ชุมชน ซึ่งถือเป็นครู ก หมู่บ้านละ ๕ - ๑๐ คน ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ) ซึ่งครอบคลุมอยู่ในพื้นที่ครบทุกตำบล ซึ่งทีมงานพัฒนาชุมชนอำเภอบ้านสร้างนำโดยพัฒนาการอำเภอบ้านสร้าง ได้ร่วมกันออกแบบกระบวนการดำเนินการ ดำเนินงานตามโครงการเพื่อให้เกิดผลที่มีประสิทธิภาพ ทั้งผลลัพธ์ และผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ซึ่งจะได้นำเสนอในกระบวนการต่อไป
ในส่วนของปราชญ์(ครูใหญ่) หลังจากได้ประชุมรับทราบแนวทางจากพัฒนาการอำเภอและพัฒนากรประจำตำบล จึงได้ศึกษาเอกสาร คู่มือที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งรับผิดชอบอย่างเต็มตัว โดยทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ ให้ทีมวิทยากรของหมู่บ้าน 4 คน ดำเนินการตามโครงสร้างสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน จึงขอนำเสนอเทคนิค วิธีการในการกำกับ หรือเป็นที่ปรึกษาในลำดับต่อไป
วัตถุประสงค์ ->
ในส่วนที่ ๒ จะอธิบายให้เห็นภาพของเทคนิค วิธีการของปราชญ์ในฐานะผู้กำกับทีมวิทยากรหมู่บ้าน 4 คน ที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1. นัดประชุมวิทยากร 4 คนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการ ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ ให้คำปรึกษา และแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ วิทยากร 1 คน/ 4 ครัวเรือน
ขั้นตอนที่ 2. กำกับดูแลทีมวิทยากรให้ออกพบปะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครัวเรือนทั้ง 20 คน และแบ่งกลุ่ม เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการ การดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การทำบัญชีครัวเรือน การออมเงิน และการประกอบอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 3. สนับสนุนให้ครัวเรือน 20 ครัวเรือนศึกษาดูงานของครัวเรือนที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ขั้นตอนที่ 4. สนับสนุนให้มีการสาธิตอาชีพจากปราชญ์และฝึกอาชีพให้ครัวเรือนทั้ง 20 ครัวเรือน พร้อมทั้งศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่องทางการตลาด และแหล่งเงินทุน เป็นต้น
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
กระบวนการสร้างสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน โดยทีมวิทยากรหมู่บ้าน ๕ คน
ระยะเวลา ๕ วัน จะประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับ ๓ ส่วนหลัก คือ
๑. ปราชญ์ชุมชน (หัวหน้าทีม) คือตัวเราเอง ที่เข้าอบรมวิทยากรปราชญ์ชุมชนที่ศูนย์ฯ นครนายก ต้องมีใจรัก มีจิตสาธารณะ เชื่อมั่นในตนเอง และเป็นที่ยอมรับของคนในหมู่บ้าน เพราะจะต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้า
ปราชญ์ ส่วนที่ ๒ คือ ทีมปราชญ์อีก 4 คน ซึ่งทำหน้าที่เป็นวิทยากรจะต้องมีความพร้อม พร้อมที่จะทำงานเพื่อ
หมู่บ้าน (เพราะกระบวนการมีจำนวน ๕ วัน)
๒. ปราชญ์ชุมชน(ลูกทีม) คือปราชญ์คนที่ ๒ - 4 จะต้องมีการประสานงาน แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เกี่ยงงาน มีจิตสาธารณะพร้อมที่จะช่วยงานเพื่อส่วนรวมกันอย่างเต็มที่ งานที่ทำจะต้องชัดเจน ผู้ปฎิบัติเข้าใจง่ายและปฏิบัติตามได้
๓. พัฒนากร ซึ่งทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและเป็นที่ปรึกษาของวิทยากรปราชญ์ชุมชน
๔. ครัวเรือนเป้าหมายที่ต้องการฝึกอาชีพ จำนวน ๒๐ คน/ครัวเรือน จะต้องมีความสมัครใจ ไม่ได้มาด้วยการบังคับ พร้อมที่จะร่วมมือกระบวนการตลอดโครงการ และเข้าใจกระบวนการของโครงการด้วย
อุปกรณ์ ->
ข้อพึงระวังในการดำเนินการตามโครงการนี้ คือ ปราชญ์จะต้องศึกษากระบวนการของโครงการให้ละเอียดเข้าใจถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายให้ชัดเจน อย่าปล่อยทีมวิทยากร 4 คน ดำเนินงานโดยขาดการติดตาม เยี่ยมเยือน ให้ระลึกเสมอว่า “ปราชญ์(ครูใหญ่) คือคนที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น”
กระบวนการ/ขั้นตอน->
๑. การให้ความสำคัญกับงานตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
๒. การออกแบบงาน หรือโครงการ หรือกระบวนการให้ง่ายต่อการปฏิบัติของผู้ปฏิบัติ
๓. ครูใหญ่ คือคนที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
๔. การเดินทางถึงเป้าหมายสามารถเดินได้หลายทาง ให้เลือกทางเดินที่ดีที่สุด ง่ายที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด และได้รับประโยชน์สูงสุด
ข้อพึงระวัง ->