การส่งเสริมการปลูกกล้วยน้ำว้า
โดย : นายมานัส บุญกาวิน ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-03-22-13:07:52ที่อยู่ : 19 ม.9 ต.บ่อแก้ว อ.นาหมื่น จ.น่าน
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
กล้วยน้ำว้าเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศ ผลสุกนอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้แล้ว ยังสามารถนำมาปรุงอาหารคาวหวาน และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปชนิดต่าง ๆ อีกหลายชนิด ได้แก่ กล้วยตาก กล้วยทอด กล้วยบวชชีกระป๋อง กล้วยในน้ำเชื่อมกระป๋อง เป็นต้น ส่วนใบตองสดสามารถนำไปใช้ห่อของ ทำงานประดิษฐ์ศิลปะต่าง ๆ ได้แก่ กระทง บายศรี ใบตองแห้งใช้ทำกระทงใส่อาหาร และใช้ห่อผลไม้ เพื่อให้มีผิวสวยงามและป้องกันการทำลายของแมลงก้านใบและกาบกล้วยแห้งใช้ทำเชือก กาบสดใช้สำหรับการแทงหยวกประกอบเมรุในการฌาปนกิจศพ หัวปลี (ดอกกล้วยน้ำว้า) ยังใช้รับประทานแทนผักได้ดีอีกด้วย สำหรับคุณค่าทางอาหาร กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินเอ แต่การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี ต้องเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา การปลูกกล้วยสามารถประกอบเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือน
วัตถุประสงค์ ->
มีการศึกษาดูงานพื้นที่จริง และมีการฝึกปฏิบัติ ตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
1. การเตรียมดิน ไถพรวน ตากดินทิ้งไว้ ๑ เดือน เพื่อลดการระบาดของศัตรูพืช คราดเก็บเศษวัชพืชออกจากแปลง
2. วิธีการปลูก
- ใช้หน่อพันธุ์ที่สมบูรณ์ในระยะที่มีใบแคบ ลำต้นสูง ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร
- ระยะปลูกระหว่างแถวและต้น ๒ x ๒ เมตร หรือ ๒.๕ x ๒.๕ เมตร
- ขุดหลุมปลูกขนาด ๕๐ x ๕๐ x ๕๐ เซนติเมตร
- รองก้นหลุมด้วยดินผสมกับปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้ว อัตรา ๕ กิโลกรัมต่อหลุม โดยสูงจากก้นหลุมประมาณ ๑ ใน ๓ ของหลุม หากต้องการไว้ตอ ๒ – ๓ ปี ควรเพิ่มหินฟอสเฟตอัตรา ๑๐๐ – ๒๐๐ กรัมต่อหลุม
- วางหน่อพันธุ์ที่ก้นหลุมให้ลึกประมาณ ๒๕ เซนติเมตร โดยจัดวางหน่อพันธุ์ให้ด้านที่ต้นแม่อยู่ในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้มีการออกดอกไปในทิศทางเดียวกัน สะดวกในการปฏิบัติดูแลรักษา
- กลบดินที่เหลือลงในหลุม กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่นและคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง
- รดน้ำให้ชุ่ม
3. การดูแลรักษา
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ๑ ครั้ง เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก่อนปลูก อัตรา ๓ – ๕ กิโลกรัมต่อหลุม ใส่ปุ๋ยเคมี ๔ ครั้ง และใส่ปุ๋ยเคมี ครั้งที่ ๑ และ ๒ หลังจากปลูก ๑ เดือน และ ๓ เดือน เป็นระยะที่กล้วยมีการเจริญเติบโตทางลำต้น ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร ๒๐–๑๐-๑๐ หรือ ๑๕-๑๕-๑๕ อัตรา ๑๒๕ - ๒๕๐ กรัมต่อต้นต่อครั้ง ครั้งที่ ๓ และครั้งที่ ๔ หลังจากปลูก ๕ เดือน และ ๗ เดือน เป็นระยะที่กล้วยเริ่มให้ผลผลิต ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร ๑๒-๑๒-๒๔ หรือ ๑๔-๑๔-๒๑ อัตรา ๑๒๕ - ๒๕๐ กรัมต่อต้นต่อครั้ง
- การให้น้ำในฤดูฝน เมื่อฝนทิ้งช่วง สังเกตหน้าดินแห้งและเริ่มแตก ควรรีบให้น้ำ ในฤดูแล้ง เริ่มให้น้ำตั้งแต่หมดฝน ประมาณปลายเดือนมกราคม – พฤษภาคม วิธีการให้น้ำ ชาวสวนนิยมปล่อยให้น้ำไหลเข้าไปในแปลงย่อยเป็นแปลง ๆ เมื่อดินมีความชุ่มชื้นดีแล้วจึงให้กับแปลงอื่นต่อไป ปริมาณน้ำที่ให้ สังเกตดินในแปลงเปียกชื้น แฉะเล็กน้อย จึงหยุดให้
- การตัดแต่งและดูแลต้นกล้วย หลังปลูกกล้วย ๑ เดือน พรวนดินเพื่อให้ดินโปร่ง เก็บความชื้นได้มาก และดายหญ้าสม่ำเสมอ การพูนโคน ในขณะที่ดายหญ้าและพรวนดิน โดยดินเข้าหากอกล้วย ช่วยลดปัญหาโค่นล้มของต้นกล้วยและป้องกันรากของหน่อตาม โดยเฉพาะกล้วยตอที่เกิดจากหน่อตาม ปีที่ ๒ และปีที่ ๓ หลังจากปลูกกล้วยประมาณ ๕ เดือน แต่งหน่อตามเพื่อให้ต้นแม่มีความ
4. การเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวหลังตัดปลีประมาณ ๔๕ วัน กล้วยที่ตกเครือช่วงฤดูหนาวผลจะแก่ช้า อายุเก็บเกี่ยวประมาณ ๕๐ – ๕๕ วัน หลังจากตัดปลี วิธีการเก็บเกี่ยวใช้มีดคมตัดเครือกล้วย
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
การดูแลเอาใจใส่ทุกขั้นตอน
อุปกรณ์ ->
โรคและแมลงศัตรูที่เกิดขึ้นกับต้นกล้วย ได้แก่
1. โรคใบลาย เกิดจากเชื้อรา เข้าทำลายใบกล้วยตั้งแต่อายุ ๒ – ๓ เดือน จะเห็นอาการด้านบนของใบล่างมีลักษณะเป็นปื้นหรือแถบสีส้มปนน้ำตาล ส่วนด้านใต้ใบพบกลุ่มเส้นใยและสปอร์จำนวนมาก ต่อมาใบที่เป็นโรคเปลี่ยนเป็นสีสนิมทั้งใบ และแห้งเป็นสีน้ำตาล จะระบาดช่วงฝนตกชุก ป้องกันโดยกำจัดตัดแต่งใบกล้วยให้มีจำนวนใบต่อต้นที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีใบแน่นทึบ เกิดความชื้นสูง ซึ่งเหมาะสมกับการระบาดของโรค ใบที่เป็นโรคควรตัดออก นำไปนอกแปลงปลูกและเผาทำลายเมื่อแห้ง
2. ด้วงงวงกล้วย ระยะหนอนทำความเสียหายแก่ต้นกล้วยมากที่สุด ตัวหนอนเจาะกัดกินและไชชอนอยู่ภายในเหง้าของกล้วยใต้ระดับผิวดินบริเวณโคนต้น จึงไม่เห็นการทำลาย หนอนสามารถทำลายต้นกล้วยได้ทุกระยะ
ระบาดตลอดฤดูปลูก การป้องกันกำจัดโดยเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีการระบาดของแมลงศัตรูชนิดนี้ ขยายพันธุ์จากหน่อพันธุ์ที่สมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากแมลงศัตรูและโรค รักษาความสะอาดของแปลงปลูกอยู่เสมอ หากพบกล้วยที่ตายควรเก็บรวบรวมเผาทำลาย การปลูกพืชหมุนเวียนสลับ ๑ ปี หลังปลูกกล้วยติดต่อกันนานกว่า ๓ ปี จะช่วยลดปริมาณแมลงศัตรูชนิดต่าง ๆ ได้
3. ด้วงเจาะลำต้น ตัวเต็มวัยวางไข่ตามบริเวณกาบกล้วย ส่วนของลำต้นที่เหนือพื้นดินขึ้นไปจนถึงประมาณกลางต้น ตัวหนอนกัดกินเซลล์ต้นกล้วยเข้าไปถึงไส้กลางของต้น มองเห็นข้างนอกรอบต้นเป็นรูพรุนทั่วไป ทำให้ต้นกล้วยตาย หากเข้าทำลายในระยะใกล้ออกปลีจนถึงตกเครือ จะทำให้เครือหักพับกลางต้น หรือเหี่ยวเฉายืนต้นตายระบาด ระยะกล้วยที่โตแล้วหรือระยะกล้วยออกปลีจนถึงตกเครือ ป้องกันกำจัดโดยเลือกพื้นที่ปลูกกล้วย ที่ไม่เคยมีการระบาดของโรคและแมลงศัตรู ขยายพันธุ์จากหน่อที่สมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลงศัตรู ไม่ควรวางหน่อกล้วยที่ขุดใหม่บนพื้นดินข้ามคืนเพราะแมลงจะเข้าวางไข่ได้ รักษาความสะอาดของแปลงปลูกเสมอ เก็บฝังหรือเผาทำลายต้นกล้วยหรือปลีที่เน่า การปลูกพืชหมุนเวียนสลับ ๑ ปี หลังปลูกกล้วยติดต่อกันนานกว่า ๓ ปี จะช่วยลดปริมาณแมลงศัตรูชนิดต่าง ๆ ได้
4. หนอนม้วนใบกล้วย หนอนวัยแรกจะกัดกินอยู่ใต้ใบ โดยเริ่มจากขอบใบก่อนและขยายเป็นแถบกว้างเพื่อใช้ม้วนห่อตัว ระยะหนอน ๒๓ – ๒๕ วัน เข้าดักแด้ภายในหลอดประมาณ ๑๐ วัน และเป็นผีเสื้อ ใบกล้วยที่ถูกหนอนกัดกินมากทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากใบกล้วยได้ ระบาดตลอดฤดูปลูก การป้องกันกำจัดโดยเก็บทำลายตัวหนอนม้วนที่พบตามใบกล้วย
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ควรมีการนำผลผลิตที่ได้มาแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่า
ข้อพึงระวัง ->