การปลูกแตงร้านให้ได้คุณภาพ
โดย : นางเนืองนอง อัคราช ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-04-01-22:47:17ที่อยู่ : 27/1 บ้านน้อยทวย หมู่ที่ 11 ตำบลโนนตาล
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
แตงร้าน เป็นแตงกวาชนิดหนึ่ง เป็นไม้เลื้อย มีอายุสั้น ลำต้นเป็นเถาเลื้อย เถาแข็งและเหนียว ผลมีลักษณะทรงกลม ทรงกระบอก เรียวยาว ผลอ่อนมีหนามสั้นๆ ผลมีสีเขียวเข้ม มีไส้ภายในผล อ่อนนุ่มลื่นคล้ายเจล มีเมล็ดเรียงกันอยู่ เนื้อแน่นฉ่ำน้ำ มีรสชาติกรอบอร่อย มีกลิ่นเฉพาะตัว ผลมีขนาดใหญ่ยาวกว่า พันธุ์พื้นเมืองของไทย ใช้รับประทานเมื่อยังอ่อน มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย มีการปลูกเขตร้อนในหลายประเทศทั่วโลก มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง นำมาประกอบอาหารเมนูต่างๆ ได้หลายเมนูแตงร้านเป็นพืชเถาเลื้อย ในประเทศไทยสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
* ช่วงที่เหมาะสมที่สุดคือ ให้การเจริญเติบโตทางลำต้นอยู่ในช่วงปลายฤดูฝน และติดผลในระยะ
เริ่มฤดูหนาวจะให้ผลผลิตดี
* ฤดูร้อน บางช่วงอาจจะพบปัญหาดอกร่วง ทำให้ผลผลิตลดลง
* ฤดูหนาว ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส แตงร้านจะมีอาการชะงักการเจริญเติบโต
* เพาะกล้า ใช้เมล็ด 150-200 กรัม/ไร่ (หยอดเมล็ด 300 กรัม/ไร่)
* ผลผลิต 3.5 - 4 ตัน/ไร่
วัตถุประสงค์ ->
เตรียมดิน
1. ไถดินลึก 30-35 ซม.
2. ตากแดดทิ้งไว้ 7-10 วัน
3. ใส่ปุ๋ยคอกในอัตรา 1-2 ตัน/ ไร่ และปุ๋ยสูตร 15-15-15 รอก้นหลุมก่อนปลูก
4. คลุมแปลงด้วยพลาสติกเพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้น และลดการระบาดของแมลงการปลูก แบบขึ้นค้าง
1. ระหว่างต้น 40-50 ซ.ม.ระหว่างแถว 80-100 ซ.ม. เว้นร่องน้ำระหว่างแปลง 50 ซ.ม.
2. หยอดเมล็ดหลุมละ 1-2 เมล็ด
3. เมื่อมีใบจริง 2-3 ใบ ถอนแยกให้ เหลือ 1 ต้น/ หลุม
4. จัดการง่าย ผลผลิตมีคุณภาพและผลผลิตสูงกว่าวิธีปลูกแบบเลื้อยตามดินการใส่ปุ๋ย
1. เตรียมดินปลูก (ใส่รองก้นหลุม) 15-15-15
2. ระยะต้นกล้า (อายุ 15 วัน) 15-15-15 หรือ 25-7-7
3. ระยะดอกบาน ( อายุ 30 วัน) 15-15-15 หรือ 8-24-24
4. ระยะบำรุงผล (อายุ 35 วัน) 15-15-15การให้น้ำ
1.ให้น้ำพอดีจะทำให้มีผลผลิต สูงสุด และคุณภาพดีที่สุด
2. แตงร้านเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก แต่ไม่ชอบน้ำท่วมขัง
3. ช่วงเริ่มให้ผลผลิต ไม่ควรให้เกิดการขาดน้ำ
4. ไม่ควรให้น้ำช่วงเย็นจะทำให้เกิดโรคทางใบได้ง่ายการใช้ฮอร์โมน
1.กระตุ้นการแตกแขนงใช้สาหร่ายทะเลผสมธาตุอาหารเสริมฉีดพ่นตั้งแต่ระยะแตงร้านมีใบจริง 3-5 ใบโรคที่สำคัญ
1.โรคราน้ำค้าง ป้องกันโดยฉีดพ่นคาร์เบนดาซิมแมนโคเซ็ปหรือริโดมิลแมลงที่สำคัญ
1. เพลี้ยไฟ ป้องกันโดยฉีดพ่นสารอะบาเม็กตินหรือไซเปอร์เมทริล
2. แมลงเต่าต่างๆ ใช้ คาร์บาเมท หรือออร์แกโนฟอสเฟต
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
จะต้องมีความขยัน อดทน มุ่งมั่น และพัฒนาทักษะ ถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรรุ่นหลัง
อุปกรณ์ ->
ต้องชี้แจงการดำเนินงานให้เข้าใจ ทุกเป็นขั้นตอน
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การพัฒนาต่อยอดควรเริ่มจากสิ่งที่มีอยู่ภายในชุมชน และทำได้ง่าย
ข้อพึงระวัง ->