การนวดแผนไทย
โดย : นางจิดาภา ไชยวุฒิ ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-03-17-01:44:18ที่อยู่ : 196 หมู่ที่ 12 ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
นางจิดาภา ชัยวุฒิ เริ่มประกอบอาชีพนวดแผนไทยตั้งแต่ ปี พ.ศ 2540 เป็นผู้มีความรู้ด้านแพทย์แผนไทย เช่น การใช้ยาสมุนไพร การนวด การประคบ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ และต่อมาได้มาเรียนรู้เพิ่มเติมอีกหลายหลักสูตร
ความสำเร็จในการประกอบอาชีพ
1.สอนการนวดขั้นพื้นฐานให้คนต่างชาติเพื่อเป็นวิชาพื้นฐานในการอบรมต่อเพื่อรับใบประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบันได้เปิดกิจการนวดแผนไทยในประเทศสวีเดน
2.สอนนักเรียน ชั้น ป.4-ป.6 จากโรงเรียนบ้านร้องขี้เหล็ก โรงเรียนบ้านเชิงดอย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน
3.สอนการนวดแผนไทยให้แก่กลุ่มแม่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพร่วมกับผู้สูงอายุที่ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล กาดสวนแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
4.ปรับปรุงบ้านของตนเอง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของ สสส. ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น
5.นำความรู้เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการเยี่ยมบ้าน ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง เช่นการนวด การใช้พืชสมุนไพรพื้นบ้าน ร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน
6.เป็นประธานผู้สูงอายุจัดตั้งกลุ่มหารายได้ เช่นการทำพวงหรีดในงานฌาปนกิจศพ การทำดอกไม้จันทน์ จัดแต่งดอกไม้ในงานศพ งานมงคลต่างๆ การทำลูกประคบ หมอนใบชาสมุนไพร สมุนไพรสำหรับอบตัวหลังคลอด
7.เป็นวิทยากรสอนการตัดตุง เครื่องครัวสืบชะตา เท้าทั้งสี่ การทำสวยดอก กระทงใบตองในโรงเรียน ชราบาล โรงเรียนดอยสะเก็ดวิทยาคม และกลุ่มเยาวชนที่สนใจ
8.แนะนำแม่หลังคลอดในเรื่องการอยู่ไฟ การอบสมุนไพร การใช้ผักพื้นบ้านเพิ่มปริมาณน้ำนมในหญิงให้นมบุตรด้วยนมแม่
9.เป็นผู้นำในการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร และนำไปจำหน่ายที่โรงเรียนชราบาลทุกวันพุธ เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และชุมชน
วัตถุประสงค์ ->
วิธีการนวดแผนโบราณ
เราสามารถนวดบนร่างกาย โดยใช้วิธีการนวดต่าง ๆ ดังนี้
- การนวด การใช้น้ำหนัก กดลงบนส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย น้ำหนักที่กดจะทำให้ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น พังผืดคลาย การนวดไทยเน้นมักจะใช้น้ำหนักของร่างกายเป็นแรงกด
- การบีบ เป็นการใช้น้ำหนัก กดลงบนส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ในลักษณะ 2 แรงกดเข้าหากัน
- การคลึง การใช้น้ำหนัก กดคลึง เป็นการกระจายน้ำหนักกดบนส่วนนั้น การคลึงให้ผลในการคลายใช้กับบริเวณที่ไวต่อการสัมผัส เช่น กระดูก ข้อต่อ
- การถู การใช้น้ำหนักถู เพื่อทำให้ผิวหนังเกิดการยืดขยายรูขุมขนเปิด วิธีนี้นิยมใช้กับยาหรือน้ำมันเพื่อให้ตัวยาซึมเข้าได้ดี
- การกลิ้ง การใช้น้ำหนักหมุนกลิ้ง ทำให้เกิดแรงกดต่อเนื่องไปตลอดอวัยวะ ทั้งยังเป็นการยืด กล้ามเนื้ออีกด้วย
- การหมุน การใช้น้ำหนักหมุนส่วนที่เคลื่อนไหวได้คือ ข้อต่อ เพื่อให้พังผืด เส้นเอ็นรอบ ๆ ข้อต่อ ยืดคลายการเคลื่อนไหวดีขึ้น
- การบิด จะมีลักษณะคล้ายกับการหมุน
- การดัด การใช้น้ำหนักยืด ดัดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นพังผืดให้ยืดกว่าการทำงานปกติ เพื่อให้เส้นหย่อนคลาย
- การทุบ การใช้น้ำหนักทุบ ตบ สับ ลงบนกล้ามเนื้อให้ทั่ว
- การเขย่า การใช้น้ำหนักเขย่ากล้ามเนื้อ เพื่อกระจายความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อให้ทั่ว
ลักษณะการนวดแผนโบราณ แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ
1.การนวดยืด ดัด ลักษณะการนวดแบบนี้คือ การยืด ดัดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น พังผืด ให้ยืดคลาย2การนวดแบบจับเส้น ลักษณะการนวดคือ การใช้น้ำหนักกดลงตลอดลำเส้นไปตามอวัยวะต่าง ๆ การนวดชนิดนี้ต้องอาศัยความเชื่ยวชาญของผู้นวด ซึ่งได้ทำการนวดมานานและสังเกตถึงปฏิกิริยาของแรงกดที่แล่นไปตามอวัยวะต่าง ๆ
3.การนวดแบบกดจุด ลักษณะการนวดคือ การใช้น้ำหนักกดลงไปบนจุดของร่างกาย การนวดนี้เกิดจากประสบการณ์และความเชื่อว่าอวัยวะของร่างกายมีแนวสะท้อนอยู่บนส่วนต่าง ๆ และเราสามารถกระตุ้นการทำงานของอวัยวะนั้นโดยการกระตุ้นจุดสะท้อนที่อยู่บนส่วนต่าง ๆ บนร่างกาย
วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน
"นวดเอวและหลัง"ท่านวดเอวและหลัง ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลดอาการเคล็ดขัดยอก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ปรับสมดุลของฮอร์โมน กระตุ้นให้ระบบต่างๆ ทำงานดีขึ้นและผ่อนคลายความเครียด เพื่อสุขภาพที่ดีและอารมณ์ดี
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1.เป็นประธานชมรมผู้สูงอายุบ้านประทุมนิเวศน์ ม.12 ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
2.ได้รับการคัดเลือกจาก สสส.ให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556
จนถึงปัจจุบัน
3.ได้รับการยกย่องให้เป็นปราชญ์ชาวบ้านเรื่องการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับคนในชุมชน และหน่วยราชการต่างๆ
4.เป็นครูสอนในโรงเรียน อสม.ตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
5.ได้ให้ความรู้และช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยในการใช้สมุนไพรและภูมิปัญญาท้องถิ่น
8.เกียรติคุณ/รางวัลที่ได้รับ
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อพึงระวัง ->