การปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย
โดย : นางจันทร์เพ็ญ ไชยเทพ ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-03-17-01:44:43ที่อยู่ : 15 หมู่ที่ 3 ตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ในปัจจุบันสภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไปมาก พอเข้าสู่ฤดูร้อนอากาศก็จะร้อนจัดมากและจะไม่มีฝนตกเลยทำให้แม่น้ำลำคลองแห้งขอด ตลอดจนถึงบ่อน้ำที่ใช้ตามบ้านเรือนก็จะแห้ง จนเห็นดินที่ก้นบ่อชาวบ้านจึงหันมาใช้ประปาหมู่บ้านกันหมด ซึ่งในแต่ละวันจะไหลบ้างไม่ไหลบ้างจึงจำเป็นต้องหาภาชนะมารองน้ำเก็บไว้ในยามจำเป็น ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านมีค่าครองชีพสูงขึ้นเพราะต้องซื้อทุกอย่างแม้กระทั่งผักเพราะจะปลูกไม่ได้ผล ขาดแคลนน้ำเหี่ยวเฉาตาย จึงทำให้ข้าพเจ้าต้องหันมาปลูกพืชผักที่ใช้น้ำน้อยตามสถานการณ์ภัยแล้ง โดยการหาภาชนะที่เหลือใช้ เช่น ตะกร้า กะละมัง ยางรถยนต์ ขวดน้ำ ฯลฯ ที่สามารถปลูกผักได้ จึงทำให้ครอบครัวของข้าพเจ้าได้มีผักรับประทานโดยที่ไม่ต้องไปซื้อจากตลาด
วัตถุประสงค์ ->
๒.๑) เตรียมดินปลูก โดยการทำกองปุ๋ยหมักจากเศษหญ้า ฟางหรือผักตบชวาที่หาได้ในชุมชนและมูลวัวมากองรวมกันพร้อมรดน้ำอย่างสม่ำเสมอจุลินทรีก็จะทำการย่อยสลายซึ่งจะเห็นจากการเกิดความร้อนขึ้นในกองปุ๋ยหมักและเมื่อความร้อนลดน้อยลงแสดงว่าปุ๋ยหมักพร้อมใช้งานแล้วตักเก็บไว้ในกระสอบสำหรับ ผู้ที่ไม่มีเวลาก็สามารถซื้อดินปลูกสำเร็จได้ตามร้านขายสินค้าการเกษตรได้ สะดวก รวดเร็ว
๒.๒) เตรียมหาภาชนะเหลือใช้สำหรับปลูกพืชผัก ใส่เศษหญ้าฟางรองก้นพอประมาณแล้วใส่ดินที่เตรียมไว้ลงไป รดน้ำให้ชุ่มหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไปเสร็จแล้วหาเศษหญ้า ฟางที่แห้งคลุมไว้บางๆเพื่อป้องกันนกมาจิกหรือเพื่อให้อมน้ำไว้ทำความชุมชื่นให้กับเมล็ดพันธุ์ผัก รดน้ำให้ชุ่มอีกรอบ(เมล็ดพันธุ์บางอย่างต้องห่อผ้าแช่น้ำทิ้งไว้ ๑ คืนบก ๑ วัน เช่น ผักชี ผักบุ้งจีน แล้วถึงหว่านลงไปเพราะจะทำให้เมล็ดขึ้นอืดออกงอกเร็ว )
* เมล็ดผักชี ก่อนจะห่อผ้าแช่ในน้ำควรใช้ไม้ปล้องทรงกลมนวดก่อนเพื่อให้เมล็ดแตกจะได้ออกงอกเยอะ
๒.๓) สำหรับขวดน้ำที่เหลือใช้เราสามารถนำเอามาปลูกผักไผ่หรือผักแพว โดยนำเอากิ่งผักไผ่รวมกันแล้วแช่ลงไปในปากขวด ที่มีน้ำอยู่เต็มขวดให้แน่นกันยูงเข้าไปวางไข่หรือถ้าหากหลวมมันอาจจะโยกไปมาและหลุดออกจากขวดได้ แล้วนำไปแช่ไว้ในถังน้ำอีกทีเพื่อที่จะทำให้อุณหภูมิเย็นเก็บไว้ที่ร่ม ประมาณ ๔ คืนรากก็จะงอกออกมา ถ้าไม่นำไปแช่ในถังน้ำอีกทีจะทำให้งอกช้าหรือไม่งอกเลยเพราะอุณหภูมิในขวดน้ำจะสูงกว่าปกติ และยังสามารถปลูกหอมแดงโดยการนำเอาหัวหอมด้านรากมาวางไว้บนปากขวดทีมีน้ำเต็มขวด ประมาณ ๑๐ วัน หัวหอมก็จะออกใบไว้ให้เราเก็บกินได้
๒.๔) ถ้าหากว่าผักที่หว่านงอกและออกต้นกล้าเป็นจำนวนมากจะทำให้แย่งอาหารลำต้นไม่โต ควรคัดแยกต้นที่โตและแข็งแรงกว่าไปปลูกในภาชนะที่เตรียมไว้อีกที ควรใช้บัวรดน้ำรดทุกเช้าเย็นจะทำให้พืชผักเจริญเติบโตเร็ว และใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพในอัตราส่วน ๑ ช้อนแกงต่อน้ำ ๑ บัวทุกๆ ๑ อาทิตย์ (น้ำ ๑ บัว สามารถรดได้ถึง ๕ ยางล้อรถยนต์)
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
๓) ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
๓.๑) สามารถมีผักไว้กินตลอดปี ทำให้ลดรายจ่ายในครัวเรือน/ขายเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน
๓.๒) เป็นต้นแบบให้กับคนในชุมชน
๓.๓) ในช่วงฤดูฝนควรยกตะกร้าไว้ในที่สูงเพราะจะมีหอยมารบกวนชอบกัดกินใบผักเสียหาย
๓.๔) การใส่ปุ๋ยคอกควรผสมไว้ในดินปลูกก่อนหว่านเมล็ดพันธุ์ซึ่งจะทำให้พืชชินกับดินก่อนที่จะงอกและเจริญเติบโต ดีกว่าที่จะใส่ภายหลังถ้าใส่มากอาจจะเค็มไปทำให้พืช ปรับตัวไม่ทันแล้วก็จะเหี่ยวเฉาและตายไปในที่สุด
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อพึงระวัง ->