เทคนิคส่งเสริมสัมมาชีพ

image1

การปลูกคะน้าอินทรีย์

โดย : นางจันทร์ดี กุดูปือ ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-03-17-01:46:10

ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 19 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

การส่งเสริมการปลูกผักอินทรีย์ในพื้นที่สูงของโครงการหลวง ที่เข้ามาสนับสนุนชาวบ้านให้มีงานทำ มีรายได้จากการปลูกผักอินทรีย์ ทำให้มีอาชีพที่แน่นอน มีรายได้ที่มั่นคง และเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

วัตถุประสงค์ ->

 1. วิธีการขั้นตอน/เทคนิค

          การปลูกคะน้าอินทรีย์

          1. การเตรียมดิน

การเตรียมดินแปลงปลูกผักคะน้า ควรขุด/ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ให้ ตากดินทิ้งไว้ประมาณ ๕ – ๗ วัน แล้วย่อยหน้าดิน ให้ละเอียด แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วให้มากและใส่ปูนขาวต่อมาให้ คลุกเคล้าให้เข้ากับดินหรือให้ทั่วพื้นที่

          2. การเพาะกล้า

1. การเตรียมแปลงเพาะ แปลงเพาะกล้าควรมีขนาดกว้าง ๑ เมตร ส่วนความยาวตามความเหมาะสม       ๒. การเตรียมดินบนแปลงเพาะกล้า ควรขุดไถพรวนดินอย่างดี ตากดินไว้ประมาณ ๕ – ๗ วัน ย่อยน้ำดิน ให้ละเอียด แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วหมาก คลุกเคล้าให้เข้ากับดินให้ทั่ว

          ๓. การเพาะ หว่านเมล็ดให้กระจายสม่ำเสมอทั่วแปลง กลบเมล็ดด้วยดินหรือปุ๋ยคอกที่สลายตัวดีแล้วให้หนำประมาณ ๐.๖ – ๑ เซนติเมตร คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง รดน้ำให้ชุ่มด้วยบัวรดน้ำ

          ๔. การดูแลต้นกล้า ต้นกล้าจะงอกภายใน ๗ วัน ควรดูแลต้นกล้า ถอนต้นที่อ่อนแอ ไม่แข็งแรง หรือเบียดกันแน่นทิ้งไป ผสมสารละลายสตาร์ทเตอร์โวลูชั่นในน้ำแล้วนำไปรด เพื่อให้ต้นกล้าแข็งแรงสมบูรณ์ ดูแลป้องกันโรคแมลงที่เกิดขึ้น เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ ๒๕ – ๓๐วัน จึงทำการย้ายไปปลูกในแปลงปลูกต่อไป

                   3. วิธีการปลูก

          การปลูกคะน้านิยมปลูก ๒ แบบ

          ๑. แบบหว่านกระจายทั่วแปลง เหมาะสำหรับแปลงปลูกขนาดใหญ่ ทำเป็นการค้า

          ๒. แบบแถวเดียว เหมาะสำหรับแปลงปลูกขนาดเล็กหรือผักสวนครัว เตรียมดินโดยการใช้แรงงานคนให้น้ำโดยใช้บัวรดน้ำหรือสายยาง ระยะปลูกคะน้าควรให้มีระยะปลูกระหว่างต้นและระหว่างแถวประมาณ

๒๐ X ๒๐ เซนติเมตร

          การเตรียมแปลงปลูก มีวิธีการดังนี้

          ๑. ขุดดินให้ลึกประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร

          ๒. ตากดินทิ้งไว้ประมาณ ๗ – ๑๐ วัน

          3. นำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วนำใส่ คลุกเคล้าให้เข้ากับดินเป็นการปรับปรุงสภาพทางกายภาพและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน

          ๔. พรวนย่อยหน้าดินให้มีขนาดเล็ก โดยเฉพาะการปลูกแบบหว่านลงในแปลง เพื่อไม่ให้เมล็ดตกลงไปในดิน เพราะจะไม่งอกหรืองอกยากมาก

          ๕. ถ้าดินเป็นกรดควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับปรุงดินให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม

การปลูกคะน้าแบบนิยมหว่านเมล็ดลงบนแปลงปลูกโดยตรงมากกว่าย้ายกล้า มีขั้นตอนดังนี้

          ๑. หว่านเมล็ดให้กระจายทั่วทั้งผิวแปลงโดยให้เมล็ดห่างกันประมาณ  ๒ – ๓ เซนติเมตร

          ๒. ใช้ดินผสมหรือปุ๋ยคอกที่สลายตัวดีแล้วหว่านกลบเมล็ดให้หนาประมาณ ๐.๖ – ๑ เซนติเมตร เพื่อเก็บรักษาความชื้นและป้องกันเมล็ดถูกน้ำกระแทกกระจาย

          ๓. คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งบางๆ

          ๔. รดน้ำให้ทั่วถึงและสม่ำเสมอ ต้นกล้าจะงอกภายใน ๗ วัน

          ๕. หลังจากต้นคะน้างอกแล้วประมาณ ๒๐ วัน หรือต้นสูงประมาณ ๑๐ เซนติเมตร ให้เริ่มถอนแยก โดยเลือกต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก ทิ้งระยะห่างระหว่างต้นประมาณ ๑๐ เซนติเมตร ต้นอ่อนของคะน้าที่ถอนแยกออกมาในวัยนี้เมื่อเด็ดรากออกแล้วส่งขายตลาดเป็นยอดผักได้

          ๖. เมื่อคะน้ามีอายุประมาณ ๓๐ วัน ให้ถอนแยกครั้งที่ ๒ ให้เหลือระยะห่างระหว่างต้น ๒๐ เซนติเมตรต้นอ่อนของคะน้าที่ถอนแยกออกมาในวัยนี้เมื่อเด็ดรากออก แล้วส่งขายตลาดเป็นยอดผักได้          

     ๗. ในการถอนแยกคะน้าแต่ละครั้งควรกำจัดวัชพืชไปด้วย

 

       

          4. การให้น้ำ

           ๑. คะน้าต้องการน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ เนื่องจากมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรปลูกในแหล่งที่มีน้ำอย่างเพียงพอ

          ๒. การให้น้ำให้ใช้ฝักบัวฝอยรดให้ทั่วและให้ชุ่ม ในเวลาเช้าและเย็น    

5. การใส่ปุ๋ย

          คะน้าต้องการปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูง อาจใส่ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ทำจากพืชสดหรือพืชสีเขียว ในอัตราประมาณ ๑๐๐ ซีซี.ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินและปริมาณปุ๋ยคอกที่ใช้ควรพ่นปุ๋ยน้ำชีวภาพผสมสารสมุนไพรไล่แมลงทางใบ อาทิตย์ละครั้ง พร้อมการราดน้ำหมักจุลินทรีย์บนพื้นแปลงปลูก   คะน้า

                   6. การเก็บเกี่ยวผลผลิต

          อายุการเก็บเกี่ยวของคะน้าอยู่ที่ประมาณ ๔๕ – ๕๕ วันหลังปลูก คะน้าที่ตลาดต้องการมากที่สุดคือ คะน้าที่มีอายุ ๔๕ วัน แต่คะน้าที่มีอายุ ๕๐ – ๕๕ วัน เป็นระยะที่เก็บเกี่ยวได้น้ำหนักมากกว่า

          วิธีการเก็บเกี่ยวคะน้า ให้ทำได้ดังนี้

                    ๑. ใช้มีดคมๆ ตัดต้นคะน้าให้ชิดโคนต้น

                    ๒. ตัดคะน้าให้เป็นหน้ากระดานไปตลอดทั้งแปลง

          การเก็บเกี่ยวคะน้าให้ได้คุณภาพดี รสชาติดี และสะอาด ควรปฏิบัติดังนี้

                    ๑. เก็บในเวลาเช้าดีกว่าเวลาบ่าย

                    ๒. ใช้มีดเล็กๆ ตัด อย่าเก็บหรือเด็ดด้วยมือ

                    ๓. อย่าปล่อยให้ผักมีอายุมากหรือแก่เกินไป

                    ๔. หลังเก็บเกี่ยวเสร็จควรนำผักเข้าที่ร่ม วางในที่โปร่งและอากาศเย็น

                    ๕. ภาชนะที่บรรจุผักควรสะอาด

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. การจัดการระบบการผลิตที่เหมาะสมและมีความรู้ความเข้าใจในการปลูกผักอินทรีย์

 2. ผู้บริโภคมีความต้องการและเชื่อมั่นในคุณภาพผักอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น

          3. กลุ่มและเครือข่ายผักอินทรีย์ที่ครอบคลุมและเข้มแข็ง

          4. การสนับสนุนจากโครงการหลวงในพื้นที่ และหน่วยงานภาครัฐ

          5. มาตรฐานและระบบการรับรองผักอินทรีย์ที่ชัดเจนเหมาะสม

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. หน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ควรส่งเสริมในเรื่องของงบประมาณสนับสนุน
2.ควรมีการประชาสัมพันธ์ เพื่อสามารถเป็นจุดศึกษาดูงานได้

ข้อพึงระวัง ->

รูปประกอบ -> image1

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา