เทคนิคส่งเสริมสัมมาชีพ

การเลี้ยงโค

โดย : นายสมเภท สุทธิรักษา ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-06-29-23:39:20

ที่อยู่ : ๓๖๘ หมู่ที่ ๒ ตำบลหัวนาคำ

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงโคเนื้อ ของนายสมเภท  สุทธิรักษา คือ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมีเงินลงทุนประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท จึงซื้อโคมาจากตลาดนัด โค-กระบือ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น จำนวน ๔ ตัว มาเลี้ยงขุนระมาณ ๒ – ๓ เดือน ก็สามารถขายได้ จากราคาต้นทุนตัวละ ๑๐,๐๐๐ บาท ขายได้ตัวละ ๑๕,๐๐๐ ถึง ๑๗,๐๐๐ บาท เห็นว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้เป็นอย่างดี จึงเลี้ยงต่อเนื่องมาเรื่อยๆ การเลี้ยงในแต่ละรุ่นจะเลี้ยงในปริมาณไม่มาก รุ่นละไม่เกิน ๑๐ ตัว โดยเลือกซื้อวัวที่ผอม แต่โครงสร้างดี มาขุนจนอ้วนท้วนสมบูรณ์ จากนั้นจึงนำไปขายเพื่อสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ ->

วิธีการเลี้ยงโคเนื้อ
๑)การคัดเลือกโคมาเลี้ยงขุนและการจัดการโรงเรือน 
ซื้อโคอายุประมาณ ๑ ปีที่มีโครงสร้างลักษณะดี ไม่แคระแกรน โดยเน้นโคเพศผู้เป็นหลัก เพราะจะโตเร็ว

และอัตราการแลกเนื้อสูง อีกทั้งใช้ระยะเวลาในการขุนให้อ้วนท้วนสมบูรณ์สั้นกว่าเพศเมีย โดยซื้อมาครั้งละประมาณ ๔ – ๕ ตัว ที่ตลาดนัดโค-กระบือ จากนั้นนำมาเลี้ยงในคอกที่เตรียมไว้ ซึ่งคอกที่เลี้ยงจะเป็นพื้นดิน มุงด้วยจาก ตีไม้กั้นทำเป็นล็อกๆ มีรางน้ำอยู่ข้างหลัง และรางอาหารอยู่ข้างหน้า 

๒)การให้อาหาร 
การให้อาหาร โคที่เลี้ยงขุนจะให้อาหารวันละ ๒ ครั้ง เช้า-เย็น โดยจะให้ฟางข้าวที่ราดด้วย EM เจือจาง

(EM เจือจาง : Em ๒-๓ ช้อนโต๊ะ/น้ำ ๑๐ ลิตร ผสมให้เข้ากันจากนั้นสามารถนำไปใช้ได้ทันที) และอาหารโคขุนที่ทำเอง โดยให้กินไปพร้อมๆกัน 
          ๓)การให้น้ำ 
          ให้โคมีน้ำกินตลอดเวลา โดยให้กินน้ำ EM เจือจาง (EM เจือจาง : Em ๒-๓ ช้อนโต๊ะ/น้ำ ๑๐-๒๐ ลิตร ผสมให้เข้ากันจากนั้นสามารถนำไปให้โคกินได้ทันที) เพื่อให้โคสุขภาพจิตดี ระบบขับถ่ายดี และมูลไม่มีกลิ่นเหม็น สามารถเลี้ยงในพื้นที่ใกล้ชุมชนได้ ไม่เป็นที่รังเกียจของเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียง 

๔)การดูแลเลี้ยงดู 
          ผู้เลี้ยงต้องคอยหมั่นเดินตรวจดูรางน้ำ รางอาหาร และความสะอาดภายในคอกทุกวัน วันละ ๓ ครั้ง (เช้า-กลางวัน-เย็น) เพื่อให้โคมีอาหารกินตลอดเวลาและอยู่ในพื้นที่ๆสะอาด โคที่เลี้ยงก็จะมีสุขภาพจิตดี เลี้ยงง่าย โตเร็ว และเปอร์เซ็นต์เนื้อแดงสูง 
 

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ข้อดีของการเลี้ยงโค คือ 
-ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงสั้น เพียงรุ่นละ ๒-๓ เดือนก็สามารถจับขายได้ ปีหนึ่งสามารถเลี้ยงได้ ๓-๔ รุ่น 
-สามารถเลี้ยงได้ตลอดทั้งปี ทำให้เกษตรกรมีรายได้ต่อเนื่อง 
-ประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากใช้อาหารที่ผสมเองจากวัตถุดิบหาง่ายในท้องถิ่นเป็นหลัก 
-โคสุขภาพจิตดี และมูลไม่เหม็น เนื่องจากมีการผสมจุลินทรีย์ในอาหารและน้ำ 
-นอกจากจะมีรายได้จากการขายโคขุนแล้ว มูลโคยังสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยสำหรับ 
พืชได้อีกด้วย 

อุปกรณ์ ->

ส ำหรับลูกโคตัวผู้ที่ควรจะเลือกเพื่อใช้เป็นโคพ่อพันธุ์นั้นควรเลือกจำกโคที่ มีลักษณะ เมื่อหย่านม ไม่ควรเลือกลูกโคที่แคระแกร็น หรือเกิดจำกแม่โค ที่มีปัญหำในกำรเลี้ยงดูจนต้องแยกลูกโคมำเลี้ยงดูต่ำงหำก เพรำะถึงแม้ลูก โคจะโตเร็วก็โตเนื่องจำกกำรเลี้ยงดูเป็นพิเศษท ำให้ได้เปรียบลูกโคตัวอื่น แม้ว่ำลูกโคตัวอื่นจะมีพันธุกรรมดีกว่ำ

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ซื้อโคพ่อพันธุ์ หรือลูกโคในฝูงที่จะเป็นพ่อพันธุ์ ควรใช้ หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1.) เกิดจำกพ่อแม่พันธุ์ที่มีลักษณะดี ให้ลูกดกหรือให้ลูกทุกปี 2.) มีอำยุระหว่ำง 3 ปี ถึง 10 ปี หำกจ ำเป็นใช้พ่อพันธุ์เร่งด่วน อำจใช้พ่อโคหนุ่มอำยุ 2 ปีขึ้นไป 3.) มีสัดส่วนร่ำงกำย โดยมีควำมสูงเมื่อวัดที่ส่วนสูงขำหลัง 130 เซนติเมตร ขึ้นไป และมีควำมยำวรอบ อกเมื่อวัดตรงซอกขำหน้ำไม่ต่ ำกว่ำ 195 เซนติเมตร 4.) มีอวัยวะเพศสมบูรณ์ ลึงค์ไม่คดงอ บิดเบี้ยว หรือไม่ผิดปกติ 5.) อำรมณ์ดี เชื่อง ไม่ดุร้ำย 6.) มีลักษณะตรงตำมแนวพันธุ์ และโครงร่ำงของร่ำงกำยแข็งแรง โดยเฉพำะในส่วนของขำหน้ำและขำหลัง ลูกอัณฑะควรมีขนำดใหญ่ ทั้ง 2 ข้ำงควรมีขนำดเท่ำกันหรือใกล้เคียงกัน

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดขอนแก่น
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา