เทคนิคส่งเสริมสัมมาชีพ

การทำนาปลูกข้าว

โดย : นายบุญทัย ดาวเสด็จ ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-06-29-23:15:28

ที่อยู่ : ๑๗๔ หมู่ที่ ๒ ตำบลหนองกุงใหญ่

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

          การทำนา ปลูกข้าว คนในชุมชนส่วนใหญ่ทำนา ปลูกข้าว การเลือกพันธุ์ข้าวและช่วงเวลาปลูกข้าวของเกษตรกรในชุมชนมีพันธุ์ข้าวที่นิยมปลูก มีอาชีพทำนา ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 

วัตถุประสงค์ ->

๑. พันธุ์ข้าวชนิดไม่ไวแสง เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรัง โดยมีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ ๔ เดือน ส่วนมากให้ผลผลิตต่อไร่ ประมาณ ๑๐๐ ถัง เนื่องจากข้าวชนิดนี้มีการตอบสนองต่อปุ๋ยดี ตัวอย่าง เช่น ข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี, ข้าวพันธุ์ชัยนาท, ข้าวพันธุ์กข. ๒๓ ช่วงเวลาปลูกทำได้ตลอดทั้งปีขึ้นอยู่กับสภาพน้ำ แนะนำให้เขตชลประทานด้วยวิธีทำนาโดยการปักดำ หรือการหว่านข้าวตม อย่างไรก็ดี ขอไม่แนะนำให้ปลูกข้าวติดต่อกันตลอดทั้งปีเป็นเวลานานเกษตรกรมีการปลูกคั่นด้วยพืชหมุนเวียนบ้างในบางฤดูกาล ซึ่งจะช่วยให้ตัดวงจรศัตรูพืชและรักษาสภาพพื้นดินที่ใช้ในการเพาะปลูกข้าว ให้คงความสมบูรณ์อยู่ตลอด
       2. พันธุ์ข้าวชนิดไวแสง โดยเกษตรกรปลูกได้เฉพาะนาปี มีวันเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ค่อนข้างแน่นอน ไม่ว่าเกษตรกรจะเพาะปลูกเมื่อใด ส่วนมากจะให้ผลผลิตที่ไม่สูงมากนักเพราะการปลูกข้าวประเภทนี้ตอบสนองต่อปุ๋ยต่ำ ตัวอย่าง เช่น ข้าวพันธุ์หอมมะลิ, ข้าวพันธุ์กข.15, ข้าวพันธุ์ขาวตาแห้ง 17, ข้าวพันธุ์เหลืองประทิว 123 , และ ข้าวพันธุ์ปิ่นแก้ว 56 ช่วงเวลาในเพาะปลูกที่เหมาะสมต่อเกษตรกรประมาณเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม โดยเกษตรกรจะนับวันเก็บเกี่ยวย้อนขึ้นมา โดยให้ข้าวมีอายุ 3 ถึง 4 เดือน โดยถ้าใช้การวิธีหว่านอายุข้าวจะสั้นลงโดยทั้งนี้ให้เกษตรกรพิจารณาประกอบกับสภาพน้ำ ในเขตหน้าน้ำฝน ซึ่งอาจใช้วิธีหว่านข้าวแห้ง หรือปักดำ ส่วนใหญ่คนในชุมชนทำ
       วิธีการทำนา การปลูกข้าว
โดยการทำนา การปลูกข้าวทั่วๆไป มี ๓ วิธีหลักใหญ่ๆ คือ การทำนาหว่าน การมำนาหยอด และ การทำนาดำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ของแต่ละที เช่นพื้นที่สูง พื้นที่ลุ่ม พื้นที่น้ำลึก และสภาพน้ำ เช่น เขตช่วงหน้าน้ำฝน เขตอยู่ติดกับชลประทาน สภาพอากาศและสังคม เช่น มีแรงงานในการทำนาหรือไม่มีแรงงาน สภาพเศรษฐกิจโดยทั่วๆไป เช่น มีเงินทุนที่ใช้ลงทุนมากหรือน้อยโดยมีรายละเอียดดังนี้ คือ
      ๑.การทำนาแบบชนิดหว่าน โดยส่วนมากนิยม เนื่องจากขาดแคลนแรงงานสภาพน้ำจำกัด ยากแก่การปักดำข้าว หรือพื้นที่อยู่ในเขตน้ำฝนไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ เป็นการปลูกข้าวโดยใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหว่านลงไปในนาที่เตรียมดินไว้แล้ว มี วิธีดังนี้คือ
      - หว่านข้าวแห้งหรือหว่านสำรวย
      - หว่านข้าวตม เมื่อข้าวงอกแล้วหว่านเพาะเลย
     ๑.๑ การหว่านข้าวแห้ง มักใช้วิธีนี้ในเขตนาน้ำฝนหรือในพื้นที่ที่ควบคุมน้ำไม่ได้ โดยเมล็ดพันธุ์ที่หว่านไม่ได้เพาะให้งอกเสียก่อน เรียกอีกอย่าง คือ หว่านสำรวย เป็นการหว่านคอยฝนในสภาพดินแห้ง โดยหว่านหลังจากไถแปร เมื่อฝนตกลงมาเมล็ดข้าวที่หว่านไว้จะได้งอก บางกรณีเพื่อป้องกันการทำลายของศัตรูข้าว จะมีการคราดกลบเมล็ดหลังการหว่าน ซึ่งอาจเรียกว่าหว่านคราดกลบ อีกกรณีหนึ่งเป็นการหว่านในสภาพดินเปียก คือ มีฝนตกเมื่อไถแปรแล้ว ก็หว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวตามทันทีแล้วคราดกลบ วิธีนี้เรียกว่าหว่านหลังขี้ไถ การหว่านข้าวแห้งจะใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ประมาณไร่ละ ๑๐-๑๕ กก.
   ๑.๒ การหว่านข้าวตม หรือหว่านข้าวงอก หรือหว่านเพาะเลย เป็นการหว่านโดยการนำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีการเพาะให้งอกกล่าวคือ แช่น้ำสะอาด ๑๑๒-๒๔ ชั่วโมง แล้วนำไปหุ้ม ๓๐-๔๘ ชม. จนเมล็ดข้าวมีรากงอกยาวประมาณ ๑-๒ มิลลิเมตร ที่เรียกว่า ตุ่มตา แล้วจึงหว่านลงในพื้นที่นา ที่เกษตรกรได้เตรียมไว้อย่างดี คือ การไถดะ การไถแปร และ การทำเทือกจนราบเรียบโดยวิธีนี้บางกรณีในเขตหน้าน้ำฝนจะทำให้ควบคุมปริมาณน้ำได้ยาก
เกษตรกรจำเป็นต้องหว่านเมล็ดข้าวในเทือกที่มีน้ำขัง แต่ในเขตชลประทาน ควรระบายน้ำให้เทือกอยู่ในระดับพอดี โดยให้เกษตรกรสังเกตจากเมล็ดข้าวที่หว่านจะจมในเทือกประมาณครึ่งหนึ่งของเมล็ดแนวนอนเมื่อ ข้าวงอกแล้วค่อยๆระบายน้ำเข้านา แต่ไม่ให้ท่วมยอดต้นข้าว การหว่านน้ำตม ถ้าเตรียมดินดีวัชพืชน้อยใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ไร่ละ ๑๐-๑๕ กก. แต่ถ้าเตรียมดินไม่ดี มีวัชพืชมากในอัตราเมล็ดพันธุ์ไร่ละ ๑๕-๒๐ กก.
         ๒.การทำนาแบบชนิดหยอด นิยมในเขตพื้นที่สูง เขตพื้นที่ไร่ หรือ ในสภาพนาที่ฝนไม่ค่อยตกต้องตามฤดูกาล โดยใช้เมล็ดข้าวแห้งที่ไม่ได้มีการเพาะให้งอก หยอดลงไปในหลุมที่เกษตรกรได้เตรียมไว้
โดยใช้จอบ ใช้เสียม หรือ ใช้ไม้กระทุ้ง ใช้เครื่องหยอด หรือ อีกวิธี โดยการโรยเป็นแถว ในร่องที่ทำเตรียมไว้แล้วกลบดินฝังเมล็ดข้าว เมื่อฝนตกลงมาเมล็ดข้าวที่หยอดจะงอก ในสภาพไร่หรือที่สูง อาจทำเป็นหลุมลึก ๔-๕ เซนติเมตร หยอดเมล็ดข้าวหลุมละ ๕-๖ เมล็ด ส่วนในที่ราบสูง เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถทำร่องห่างกัน ๒๕-๓๐ เซนติเมตร นาหยอดจะใช้เมล็ดพันธุ์ต่อไร่ประมาณ ๘-๑๐ กก.

 

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

- จะเน้นการพัฒนาที่ตัวเกษตรกรให้เป็นผู้คิดเอง ทำเอง จนในที่สุดสามารถ พัฒนาไปใน ทิศทางที่พึ่งตัวเองได้ และจะเป็นผู้กำหนดแผนการผลิตของตนเอง

- นำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 

อุปกรณ์ ->

ปัจจุบันเกษตรกรนิยมปักดำน้อยลง เนื่องจากขาดแคลนแรงงาน
          แต่อย่างไรก็ดี ในสมัยนี้  ชาวนามีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เช่นรถดำนา รถปักกล้า
การปักดำจึงไม่ใช่ปัญหาของเกษตรกรอีกต่อไป และ การทำนาแบบปักดำยังเป็นวิธีการปลูกข้าวที่สามารถควบคุมวัชพืชต่างๆ ได้ดีกว่าการทำนาแบบหว่านเมล็ดอีกด้วย

กระบวนการ/ขั้นตอน->

เกษตรกรควรใช้แรงงานในครอบครัวอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพเช่นการกระจายการใช้แรงงานตลอดปี การใช้แรงงานให้เหมาะสมกับวิทยาการแผนใหม่และวิทยาการพื้นบ้านให้ผสมกลมกลืนกันไปการใช้แรงงานผสมผสานหรือทดแทนกันระหว่างแรงงานคน แรงงานสัตว์ และเครื่องทุ่นแรง

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดขอนแก่น
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา