การทำนาอินทรีย์
โดย : นายสินพงศ์ ภาษิต ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-06-29-23:05:58ที่อยู่ : ๙๘๔๙ หมู่ที่ ๓ ตำบลหัวนาคำ
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เนื่องจากการทำการเกษตรของภาคอีสานส่วนใหญ่ จะใช้ปุ๋ยเคมีในการทำเกษตรทุกครัวเรือนทำให้เกิดปัญหาเรื่องดินเสื่อมคุณภาพ ราคาต้นทุนการผลิตสูงไม่คุ้มกับการลงทุนทำให้เกิดปัญหาหนี้สิน จึงเกิดแนวคิดในการทำนาโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพแทนการใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อเป็นการปรับปรุงบำรุงดินที่ เสื่อมคุณภาพและเป็นการลดรายจ่ายค่าปุ๋ยเคมี
วัตถุประสงค์ ->
ขั้นตอนการเตรียมดินหว่านข้าว
๑.ไถพรวนดินเพื่อเป็นการกลบหญ้า
๒.ปล่อยน้ำเข้าแล้วไถคราดกลบหน้าดิน ทิ้งไว้ให้ดินแห้งหญ้าที่ถูกกลบไว้จะเน่าเปลื่อย๓. ปล่อยให้วัชพืชงอกขึ้นมาใหม่ต้นเล็ก ๆ แล้วหว่านข้าวในปริมาณที่เหมาะสม ไถและคราดกลบอีกครั้ง
เทคนิค
การที่วัชพืชงอกขึ้นมาแสดงว้าเมล็ดวัชพืชที่อยูในดินได้งอกมาหมดแล้ว ส่วนการไถและคราดกลบหลักจากหว่านเมล็ดข้าวจะทำให้ต้นวัชพืชเล็ก ๆ เหล่านั้นเน่าและตาย เนื่องจากการไถและคราดกลบจึงไม่จำเป็นต้องฉีดยาฆ่าคุมหญ้า
๓. ขั้นตอนการดูแลรักษา
๑.เมื่อต้นข้าวสูงเท่าฝ่ามือปล่อยน้ำเข้าเพื่อคุมวัชพืชอีกทางหนึ่ง๒.ปักดำต้นกล้าใหม่ในส่วนที่ข้าวงอกไม่สม่ำเสมอ และถอนวัชพืช (ถ้ามี)
๓.ระยะข้าวเจริญเติบโต ไม่ตำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพราะจะทำให้เกิดโรคใบไหม้หรือถ้าข้าวงามจรเกินไปจะต้นข้าวล้ม
๔. ประเดือนกรกฎาคม ให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ เพื่อเป็นการเพิ่มผลผลิตและได้รวงข้าวที่เต็มเมล็ด ใส่ประมาณ ๕ – ๑๐ กิโลกรัม/ไร่
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
๑. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี เป็นการลดต้นทุนการผลิต
๒. สุขภาพแข็งแรงเพราะไม่มีสารตกค้างในข้าวที่เรารับประทานเข้าไป
๓. ลดปัญหาหนี้สินของครอบครัว
อุปกรณ์ ->
การที่วัชพืชงอกขึ้นมาแสดงว้าเมล็ดวัชพืชที่อยูในดินได้งอกมาหมดแล้ว ส่วนการไถและคราดกลบหลักจากหว่านเมล็ดข้าวจะทำให้ต้นวัชพืชเล็ก ๆ เหล่านั้นเน่าและตาย เนื่องจากการไถและคราดกลบจึงไม่จำเป็นต้องฉีดยาฆ่าคุมหญ้า
กระบวนการ/ขั้นตอน->
๑.เมื่อต้นข้าวสูงเท่าฝ่ามือปล่อยน้ำเข้าเพื่อคุมวัชพืชอีกทางหนึ่ง
๒.ปักดำต้นกล้าใหม่ในส่วนที่ข้าวงอกไม่สม่ำเสมอ และถอนวัชพืช (ถ้ามี)
๓.ระยะข้าวเจริญเติบโต ไม่ตำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพราะจะทำให้เกิดโรคใบไหม้หรือถ้าข้าวงามจรเกินไปจะต้นข้าวล้ม
๔. ประเดือนกรกฎาคม ให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ เพื่อเป็นการเพิ่มผลผลิตและได้รวงข้าวที่เต็มเมล็ด ใส่ประมาณ ๕ – ๑๐ กิโลกรัม/ไร่
ข้อพึงระวัง ->