การเลี้ยงปลานิล
โดย : นายไสว อัปมรกัง ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-06-29-21:52:17ที่อยู่ : ๘๑ หมู่ที่ ๘ ตำบลหัวนาคำ
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ หลังฤดูทำนาก็ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ประกอบกับมีที่ดินว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์อะไร จึงเกิดแนวความคิดที่จะเลี้ยงปลานิลเพื่อบริโภคในครัวเรือน และจำหน่ายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง
วัตถุประสงค์ ->
๑.กำจัดวัชพืชและพันธุ์ไม้น้ำต่าง ๆ เช่น กก หญ้า ผักตบชวาให้หมด ถ้าในบ่อเก่ามีเลนมากจำเป็นต้องสาดเลนขึ้นให้หมด
๒.กำจัดศัตรู ศัตรูของปลานิล ได้แก่ ปลาจำพวกกินเนื้อ เช่น ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาหมอ ปลา
ดุกก่อนที่จะปล่อยปลานิลลงเลี้ยงจึงจำเป็นต้องกำจัดศัตรูดังกล่าวเสียก่อนโดยวิธีระบายน้ำออกให้เหลือน้อย
การกำจัดศัตรูของปลาอาจใช้โล่ติ๊นสดหรือแห้งประมาณ ๑ กิโลกรัม ปริมาณของน้ำในบ่อ ๑๐๐ ลูกบาศก์เมตร คือทุบหรือบดโล่ติ๊นให้ละเอียด นำลงแช่น้ำประมาณ ๑-๒ ปี๊บ ขยำโล่ติ๊นเพื่อให้น้ำสีขาวออกมาหลาย ๆ ครั้งจนหมดนำไปสาดให้ทั่วบ่อ ศัตรูพวกปลาจะลอยหัวขึ้นมาภายหลังโล่ติ๊นประมาณ ๓๐ นาที ใช้สวิงจับขึ้นมาใช้บริโภคได้ที่เหลือตายพื้นบ่อจะลอยในวันรุ่งขึ้น ส่วนศัตรูจำพวกกบเขียดงู จะหนีออกจากบ่อไป และก่อนปล่อยปลาลงเลี้ยงควรจะทิ้งระยะไว้ประมาณ ๗ วัน เพื่อให้ฤทธิ์ของโล่ติ๊กสลายตัวไปหมดเสียก่อน
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
๑. เป็นอาชีพเสริมเพื่อรายได้ให้กับครัวเรือน
๒. ใช้ทุนต่ำได้กำไรดี
๓. ใช้พื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อุปกรณ์ ->
อัตราปล่อยปลาเลี้ยงในบ่อดิน ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำ อาหาร และการจัดการเป็นสำคัญ โดยทั่วไปจะปล่อยลูกปลาขนาด ๓-๕ ซม. ลงเลี้ยงในอัตรา ๑-๓ ตัว/ตารางเมตร หรือ ๒,๐๐๐-๕,๐๐๐ ตัว/ไร่
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การให้อาหาร การใส่ปุ๋ยเป็นการให้อาหารแก่ปลานิลที่สำคัญมากวิธีหนึ่ง เพราะจะได้อาหารธรรมชาติที่มีโปรตีนสูงและราคาถูก แต่เพื่อเป็นการเร่งให้ปลาที่เลี้ยงเจริญเติบโตเร็วขึ้น หรือจะใช้วิธีสังเกตจากปลาที่ขึ้นมากินอาหารจากจุดที่ให้เป็นประจำ คือ ถ้ายังมีปลานิลออกันอยู่มากเพื่อรอกินอาหารก็เพิ่มจำนวนอาหารมากขึ้นตามลำดับทุก ๑-๒ สัปดาห์ ในการให้อาหารสมทบมีข้อพึงควรระวัง คือ ถ้าปลากินไม่หมด อาหารจมพื้นบ่อ หรือละลายน้ำมากก็จะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นหลายประการ
ข้อพึงระวัง ->