เทคนิคการเลี้ยงไก่ ไข่อินทรีย์
โดย : น.ส.สะอาด ชลบุญ ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-07-02-14:01:08ที่อยู่ : หมู่ที่ ๑ ตำบลหัวทุ่ง อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การส่งเสริมสัมมาชีพชุมชน เป็นภารกิจตามนโยบายที่สำคัญ ของรัฐบาลในการลดความเลื่อมลาทาง สังคม เพื่อสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ โดยการขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการส่งเสริมอาชีพของประชาชนในหมู่บ้านเป้าหมายด้วยกระบวนการให้ชาวบ้านสอนชาวบ้านเพื่อให้ครัวเรือนที่เข้ารับการฝึกอาชีพมีความรู้สามารถนาไปปฏิบัติประกอบเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนและต่อยอดสู่การรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นกลุ่มอาชีพที่ยั่งยืนต่อไปเพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างสัมมาชีพชุมชน ให้ประสบผลสำเร็จตรงตามเป้าหมาย โดยไม่เบียดเบียน ตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม และมีรายได้มากกว่ารายจ่าย ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงไข่ไก่เป็นอาหารหลักประจำครัวของทุกครอบครัวทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะทำเป็นอาหารที่ทุกคนคุ้นเคยและรู้จักกันดีอย่างไข่เจียว,ไข่ต้ม,ไข่ตุ๋น หรือจะเป็นส่วนประกอบในการไปทำอาหารประเภทอื่นอีกหลากหลายเมนู ถ้าตามร้านอาหารทั่วไปสั่งอาหารก็จะมีการสั่งแบบพิเศษใส่ไข่เพิ่มเข้าไปราคาก็จะบวกเพิ่มขึ้นมาอีก
เพราะฉนั้นการเพาะเลี้ยงไก่ไข่ จึงเป็นอาชีพที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่การเพาะเลี้ยงไก่ไข่ก็ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง จึงทำให้ผู้เพาะเลี้ยงรายย่อยค่อยๆถอยและถอดใจจากการที่จะเพาะเลี้ยงไก่ไข่เพื่อจำหน่าย ไก่พันธ์ุไข่ต้องได้รับสารอาหารครบถ้วนและก็มีปริมาณมากเพียงพอในระยะเวลาการให้ไข่ ถ้าคิดเป็นปริมาณแล้วสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน แม่ไก่ต้องได้รับสารอาหารประมาณ 100-110 กรัมต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งในอาหารก็ต้องประกอบไปด้วย สารอาหารต่างๆเพื่อจะนำไปผลิตไข่ให้ออกมาฟองโต และเปลือกแข็งและไข่ดก
วัตถุประสงค์ ->
1. ศึกษาข้อมูล ตามเอกสารแนวทางการดำเนินงานสัมมาชีพชุมชนของกรมการพัฒนาชุมชน
2. ประสานผู้นำชุมชน ร่วมปรึกษา สร้างความเข้าใจ ร่วมกัน
3. ประชุมผู้นำหมู่บ้าน ครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน เพื่อ ให้ความรู้และชี้แจงแนวทางการดำเนินงานสัมมาชีพชุมชนให้แก่ครัวเรือนฯ เป้าหมาย
4. ดำเนินการ คัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย ปราชญ์ทีมวิทยากรที่มีองค์ความรู้ในอาชีพแต่ละประเภทให้ชัดเจนครัวเรือนสัมมาชีพที่สมัครที่เข้าร่วม ต้องเข้ามาด้วยความสมัครใจเท่านั้น ห้ามมิให้มีการบังคับกัน
5. นำครัวเรือนสัมมาชีพศึกษาดูงานครัวเรือนที่ประสบผลสำเร็จในการประกอบอาชีพ
6. ดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการส่งเสริมอาชีพ
7. การจัดแสดง จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของครัวเรือนสัมมาชีพ เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินการ8. การสนับสนุน ส่งเสริมให้ครัวเรือนสัมมาชีพรวมกลุ่ม เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าจดทะเบียนกลุ่มกับหน่วยงาน
ภาครัฐ ได้แก่ ลงทะเบียนผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP กับสำนักงานพัฒนาชุมชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกับ
เกษตรอำเภอ
9. ติดตามประเมินผลการดำเนินงานกลุ่มและรายงานผลการดำเนินงานแก่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภออย่าง
ต่อเนื่อง
10. สรุปถอดผลการดำเนินงาน ถอดบทเรียนองค์ความรู้ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
·
1 วิทยากรสัมมาชีพชุมชน ได้รับเลือก และยอมรับจากเวทีประชาคมของหมู่บ้าน มีความเป็นผู้นำ มีจิตอาสา มีความรู้ความสามารถ และทักษะในการถ่ายทอดความรู้ และมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพ มีเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน
2 ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนให้ความสำคัญ เอาใจใส่ และรับผิดชอบการดำเนินการตามโครงการในทุกขั้นตอน ตลอดจนความมีไมตรีจิตที่ดีต่อกัน มีความเอื้ออาทร สร้างความประทับใจซึ่งกันและกัน
3 อาชีพที่ชุมชนเลือก เป็นอาชีพที่เกิดจากความต้องการของชุมชนเอง บนพื้นฐานของความรู้ และสอดรับกับทุนทางทรัพย์ที่มีในชุมชน รวมทั้ง การคัดเลือกครัวเรือนสัมมาชีพเป้าหมาย ที่สมัครใจ มีความพร้อม และความตั้งใจจริงในการฝึกอาชีพ
4 เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ติดตามสนับสนุนอย่างใกล้ชิด และสนับสนุนองค์ความรู้ในทุกๆด้านและครัวเรือนสัมมาชีพที่เข้าร่วมแทบทุกครัวเรือนมีความตั้งใจ มุ่งหมั่น ขยันอดทน ในการประกอบอาชีพนี้
อุปกรณ์ ->
๑) ให้ครัวเรือนสัมมาชีพได้ศึกษาข้อมูลการดำเนินงานแนวทางสัมมาชีพชุมชนให้เกิดวามเข้าใจที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล รวมทั้งกำหนดแผนการดำเนินกิจกรรม/โครงการให้ ชัดเจน
๒) ปราชญ์ชุมชน จะต้องเป็นปราชญ์ที่มีองค์ความรู้ในเรื่องการประกอบอาชีพนั้นๆอย่างแท้จริง และครัวเรือนสัมมาชีพสนใจ สามารถต่อยอดให้เกิดพัฒนาเป็นอาชีพหลักได้
๓) ครัวเรือนเป้าหมาย ต้องสมัครใจ ไม่ใช่เข้ามาอบรมอาชีพด้วยความเกรงในผู้นำชุมชนหรือวิทยากรปราชญ์สัมมาชีพ หรือเพื่อมารับวัสดุอุปกรณ์จากหน่วยงานภาครัฐที่ให้การสนับสนุนเท่านั้น และต้องตั้งใจฝึกอาชีพ เพื่อก่อให้เกิดการสร้าง กลุ่มอาชีพให้เกิดรายได้อย่างแท้จริง และยั่งยืน
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. ภาครัฐควรมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนมีการจัดทำบัญชีครัวเรือนในการประกอบอาชีพนี้ อย่างทั่วถึงและทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้ทราบรายได้ค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพและนำไปแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
2. ควรมีการจัดอบรมพัฒนาอาชีพที่ทำอยู่ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันและเกิดประโยชน์แก่ชุมชนอย่างทั่วถึง
3. ควรจะมีการติดตาม ประเมินผลเป็นระยะ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ทราบถึงปัญหาและความต้องการต่างๆ ของครัวเรือนที่ประกอบอาชีพนั้นๆ
4. ควรมีการยกย่องและให้รางวัลแก่ครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน ที่ประสบผลสำเร็จในการประกอบอาชีพ เพื่อเป็นแรงจูงใจกระตุ้นและกำลังใจแก่ครัวเรือนอื่นๆ
ข้อพึงระวัง ->