การทำน้ำหมักชีวภาพ
โดย : นายสถิตย์ สุพรรณคำ ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-06-21-15:16:48ที่อยู่ : 80....หมู่ที่...13 ต.วังชัย
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ในการทำการเกษตรในปัจจุบัน เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้สารเคมีในการเร่งการเจริญเติบโตของพืช ทำให้เกิดมลพิษ สารเคมีตกค้างในดินและพืช ทำให้เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ที่บริโภค จึงหันมาให้ความสำคัญกับการทำน้ำหมักชีวภาพ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว
น้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำสกัดชีวภาพ หรือ น้ำจุลินทรีย์ เป็นของเหลว สีดำออกน้ำตาล กลิ่นอมเปรี้ยวอมหวาน ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เช่น พืช สัตว์ทุกประเภท สามารถช่วยปรับความสมดุลของสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตได้ บางครั้งยังสามารถนำน้ำหมักชีวภาพไปชำระล้างห้องน้ำได้ ซึ่งจะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นได้
วัตถุประสงค์ ->
กระบวนการ/วิธีการขั้นตอน/เทคนิค/ข้อพึงระวังที่ใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาอาชีพ
ในการทำน้ำหมักชีวภาพ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม มีดังนี้
1) พืชสด
2) กากน้ำตาล อัตราส่วน 3 : 1
วิธีทำ
ใช้พืชที่มีลักษณะสด ใหม่ สมบูรณ์ อวบน้ำ โตเร็ว ไม่มีโรค (เน่า) ทุกส่วนๆ ละไม่มากนัก จากพืชหลายๆ ชนิด ทั้งพืชที่กินได้และวัชพืชนำมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือบดละเอียดให้ได้ปริมาณ 3 ก.ก. แล้วบรรจุเศษพืชที่ได้ลงในภาชนะ และเติมกากน้ำตาลลงไป 1 ลิตร คนหรือเขย่าให้เข้ากัน
ให้เศษพืชจมอยู่ในกากน้ำตาลตลอดเวลา ปิดฝาภาชนะ เก็บไว้ในที่มืด อุณหภูมิห้องนาน 7 วัน สามารถนำไปใช้ได้การปฏิบัติระหว่างการหมัก เขย่าภาชนะที่หมักพร้อมกับเปิดฝา วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น เมื่อครบ 7 วัน ให้ดมกลิ่น ถ้าหอมหวานแสดงว่า "ดี"สามารถนำไปได้ ถ้าบูดเปรี้ยวแสดงว่า "ไม่ดี" ให้แก้ไขด้วยการเติมกากน้ำตาล หรือของที่ใส่ครั้งแรกแล้วหมักต่ออีก 3 วัน ถ้ามีกลิ่นหอมหวานก็แสดงว่า "ดี" ถ้ามีกลิ่นบูดเปรี้ยวอีกให้เติมน้ำตาลอีกแล้วหมักต่อไปจนกว่าจะมีกลิ่นหอมหวาน เมื่อได้น้ำหมักที่ดีแล้วให้เก็บไว้ในที่มืดภายใต้อุณหภูมิห้องเก็บได้นาน 6 เดือน - 1 ปี ระหว่างเก็บหากมีกลิ่นบูดเปรี้ยวให้เติมกากน้ำตาลลงไป
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อุณภูมิในการหมักปุ๋ย และระยะเวลาในการหมักมีความสำคัญกับการทำน้ำหมักชีวภาพที่มีคุณภาพ
๘. เกียรติคุณ/รางวัลที่ได้รับ
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อพึงระวัง ->