การทำน้ำหมักชีวภาพ
โดย : นายสุรพงษ์ศักดิ์ นาเพียงล้อม ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-06-21-14:29:57ที่อยู่ : 142 ....หมู่ที่...1 ต.ทรายมูล
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การทำนาเป็นอาชีพดั้งเดิมของคนไทยโดยเฉพาะในภาคอีสาน โดยเริ่มต้นจากการทำการเกษตรแบบพื้นบ้าน ใช้ควายไถนา ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ต่อมาประมาณปี 2520 เป็นต้นมา เริ่มมีการนำปุ๋ยเคมีเข้ามาใช้ในการทำการเกษตร ระยะแรก ๆ ก็ทำให้ผลผลิตที่ได้รับออกมาดีมาก รวดเร็ว ทันใจ แต่เกษตรกรยังไม่ได้คำนึงถึงพิษภัยของสารเคมี ต่อมาประมาณปี 2550 เริ่มมีการรณรงค์ให้ใช้ปุ๋ยชีวภาพ เพราะเกษตรกรที่ใช้สารเคมี ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมี ปัจจุบันเกษตรกรบางส่วนให้ความสำคัญกับผลผลิตที่ปลอดภัยจากสารเคมี จึงมีการทำการเกษตรปลอดสารมากขึ้น
วัตถุประสงค์ ->
กระบวนการ/วิธีการขั้นตอน/เทคนิค/ข้อพึงระวังที่ใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาอาชีพ
ชนิดของน้ำหมักชีวภาพ
น้ำหมักชีวภาพแบ่งตามประเภทวัตถุดิบที่ใช้หมัก 3 ชนิด คือ
1. น้ำหมักชีวภาพจากพืช แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
– ชนิดที่ใช้ผัก และเศษพืช เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษพืช เศษผักจากแปลงเกษตรหลังการเก็บ และคัดแยกผลผลิต น้ำหมักที่ได้มีลักษณะเป็นน้ำข้นสีน้ำตาล มีกลิ่นหอม ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดอะมิโน กรดแลคติค และฮอร์โมนเอนไซม์
– ชนิดที่ใช้ขยะเปียก เป็นน้ำหมักที่ได้จากขยะในครัวเรือน เช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ น้ำหมักที่ได้มีลักษณะข้นสีน้ำตาลจางกว่าชนิดแรก และมีกลิ่นหอมน้อยกว่า บางครั้งอาจมีกลิ่นเหม็นบ้างเล็กน้อย ต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม
2. น้ำหมักชีวภาพจากสัตว์ เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษเนื้อต่างๆ เช่น เนื้อปลา เนื้อหอย เป็นต้น น้ำหมักที่ได้จะมีสีน้ำตาลเข้ม มักมีกลิ่นเหม็นมากกว่าน้ำหมักที่ได้จากวัตถุหมักอื่น ต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม
3. น้ำหมักชีวภาพผสม เป็นน้ำหมักที่ได้จาการหมักพืช และเนื้อสัตว์รวมกัน ส่วนมากมักเป็นแหล่งที่ได้จากเศษอาหารในครัวเรือนเป็นหลัก
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อัตราส่วนวัสดุที่จะใช้ต้องพอดีตามอัตราส่วน หากวัสดุบางอย่างมากไป หรือน้อยไป จะทำให้ผลที่ได้รับผิดเพี้ยนไป
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อพึงระวัง ->