ปลูกผักปลอดสารพิษ,ทำปุ๋ย,ทำน้ำหมักชีวภาพ
โดย : นายสอาด ศรศิลป์ ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-03-22-04:43:56ที่อยู่ : 40 ม.15 ต.เขาคีริส
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ได้ศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนเกษตรกร เมื่อปี 2542 เมื่อจบการศึกษา ได้มีการรวมกลุ่มกันกับชาวบ้าน โดยรวมเป็นกลุ่มผู้ปลูกผักปลอดสารพิษ เมื่อมีการรวมกลุ่มจนประสบผลสำเร็จ ได้มีการลดต้นทุนการผลิต ด้วยการทำปุ๋ยอัดเม็ด ปุ๋ยหมักชีวิภาพ และมีการพัฒนาโดยการเข้าร่วมอบรมกับหน่วยงานต่างๆของรัฐ และหาตลาดที่สามารถส่งผักไปจำหน่ายได้ ด้วยการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆจากภาครัฐ พืชผักเป็นอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของมนุษย์ ปัจจุบันพบว่าเกษตรกรใช้สารเคมีเป็นจำนวนมาก ในระบบการผลิตทั้งป้องกันโรค แมลงและวัชพืช เกิดผลกระทบหลายด้าน เช่น สุขภาพของผู้บริโภค และเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม การผลิตผักปลอดภัยสารพิษ นับเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ตลาดมีความต้องการสูง แต่ผลผลิตยังมีน้อยไม่พอกับความต้องการของตลาด ดังนั้นการปลูกผักปลอดภัยสารพิษจึงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ
วัตถุประสงค์ ->
2.1การเตรียมดิน
การเตรียมดินให้ถูกต้อง นอกจากจะช่วยให้พืชผักเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แล้ว ยังเป็นการลดปัญหาจากศัตรูพืช ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงการผลิตพืชผักเป็นอย่างดี วิธีเตรียมพื้นที่และการเตรียมดินปลูกที่ถูกต้องควรดำเนินการดังนี้
1. ปรับพื้นที่ให้ราบเรียบ
2. จัดทำคูระบายน้ำ
3. ขุดปรับทำลายพื้นที่ที่เป็นแหล่งหลบอาศัยของหนูและสัตว์ศัตรูพืชต่างๆ
4. กำจัดวัชพืชที่ขึ้นอยู่เดิมไม่ให้แข่งกับพืชที่ปลูก
5. ไถเตรียมดินด้วยการไถดะ ตากดินไว้ประมาณ 7 วัน เพื่อกำจัดวัชพืช โรค-แมลง ที่อาศัยอยู่ในดิน
6. ไถพรวนดินอีก 1 ครั้ง หลังจากไถดะ แล้วตากดินไว้ประมาณ 7 วัน เพื่อให้ดินมีเนื้อละเอียดร่วนซุยเหมาะแก่การปลูกพืช
2.2 การเตรียมแปลงปลูก
หลังจากการปรับปรุงดินและการเตรียมดินอย่างถูกวิธีแล้ว ท าการปรับดินให้สม่ำเสมอยกแปลงปลูกขนาด 1-2 เมตร ยาวตามความต้องการ คลุมแปลงปลูกด้วยเศษวัชพืช หรือใบหญ้าแฝก เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและควบคุมวัชพืช
2.3 การคัดเลือกพันธุ์
ควรเลือกพันธุ์ผักที่ต้านทานต่อโรคและแมลง มีคุณภาพตรงตามที่ตลาดต้องการเหมาะสมกับฤดูปลูกและสภาพดินฟ้าอากาศ และก่อนนำเมล็ดพันธุ์ผักไปปลูกทุกครั้งควรแช่เมล็ดพันธุ์ผักในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 50-55 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 10-15 นาที เพื่อกำจัดเชื้อราและยังเป็นการกระตุ้นให้เมล็ดพันธุ์ผักงอกอย่างสม่ำเสมอ
2.4 การปลูกด้วยเมล็ดหรือต้นกล้าตามแต่ชนิดของพืช
การเพาะกล้า แช่เมล็ดพันธุ์ผักในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 50-55 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-15 นาที เพื่อกำจัดเชื้อรา และยังเป็นการกระตุ้นให้เมล็ดพันธุ์งอกได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดปริมาณการใช้เมล็ดพันธุ์ เมื่อต้นกล้ามีอายุได้ 15-20 วัน ถอนแยกต้นกล้า โดยให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 ซม. ต้นกล้าที่ถอนแยก สามารถนำไปปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ (ควรปลูกในตอนเย็น)
2.5 การให้น้ำ
การให้น้ำมีหลายระบบ ซึ่งในแต่ละระบบก็มีจุดมุ่งหมายแตกต่างกันออกไปตามสภาพต้นพืช ดังนั้นระบบการให้น้ำในการผลิตผักแบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. การให้น้ำแบบพ่นฝอย พืชกินใบที่บอบบาง เช่น ผักกาดหอม ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ต้นหอม หัวไชเท้า ป่วยเล้ง ตั้งโอ๋ กะหล่ำต่างๆ เป็นพืชผักที่มีใบบอบบาง ไม่ชอบความร้อนสูงนักจึงจำเป็นต้องให้น้ำเป็นละอองฝอย
2. การให้น้ำเฉพาะพื้น เหมาะแก่การปลูกมะเขือเทศ พริก พืชตระกูลแตง มีลักษณะ
การให้น้ำ ดังนี้
2.1 การให้น้ำซึมเข้าแปลง โดยการขุดร่องระหว่างแปลงปลูกแล้วปล่อยน้ำให้ซึมเข้าแปลง
2.2 การให้ระบบท่อ โดยการใช้ท่อพลาสติกเจาะรูติดตั้งหัวจ่ายน้ำขนาดต่างๆ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผักแต่ละชนิด รดน้ำทุกวัน เช้า -เย็น รดน้ำให้ชุ่มพอประมาณอย่าให้แฉะจนเกินไป จะทำให้ต้นเน่า
2.7 การกำจัดวัชพืช
วัชพืชเป็นปัญหาสำคัญสำหรับการปลูกผัก โดยวัชพืชจะเจริญเติบโตแข่งขันแย่งน้ำอาหารและแสงแดด ควรควบคุมวัชพืชโดยการใช้วัสดุคลุมดิน เช่น ใบหญ้าแฝก ฟางข้าว และพลาสติกคลุมแปลง เป็นต้น หากมีวัชพืชขึ้นให้กำจัดโดยวิธีการถอน
2.8 การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชผักโดยวิธีแบบผสมผสาน
1 การป้องกันกำจัดโดยวิธีกล
- การใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลือง สามารถดักจับตัวเต็มวัยของแมลงศัตรูผักได้หลายชนิด เช่น เพลี้ยไฟ แมลงวันเจาะผล หนอนชอนใบ ผีเสื้อหนอนใยผัก หนอนเจาะกระทู้หอม หนอนคืบ
- การใช้กับดักกากน้ำตาล อัตราส่วนที่ใช้ กากน้ำตาล 1 ส่วน ต่อ น้ำ 3 ส่วน สามารถดักจับผีเสื้อกลางคืนได้เช่น ผีเสื้อหนอนกระทู้หอม ผีเสื้อหนอนใยผัก
- การใช้กับดักแสงไฟ สามารถดักจับผีเสื้อกลางคืนได้ เช่น ผีเสื้อหนอน กระทู้หอม หนอนคืบ
- การใช้มุ้งตาข่าย หรือกางมุ้งในล่อนในแปลงผัก
2 การป้องกันกำจัดโดยการใช้สารสกัดจากพืช (น้ำหมักสมุนไพร) เช่น สารสกัดจากสะเดา พริก ข่า ตระไคร้หอม น้ำส้มควันไม้ พ่นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง อัตรา 20-30 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ถ้าเป็นน้ำส้มควันไม้ ใช้ในอัตรา 100 ซีซีผสมน้ำ 20 ลิตร แต่ถ้าฆ่าเชื้อในดิน ใช้ในอัตรา 50 ซีซี ผสมน้ำ 1 ลิตร
ระบบปลูกผักแบบหมุนเวียนอย่างเป็นระบบ มีข้อดีหลายประการที่สมควรจะถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ ให้แก่เกษตรกรนำไปปฏิบัติอย่างแพร่หลาย เช่น
1. มีการเตรียมแปลงปลูกที่ดี 1 ครั้ง ปลูกพืชได้ 3 ชนิดต่อเนื่องกัน จึงลดค่าใช้จ่ายในการเตรียมดิน
2. มีการใช้วัสดุร่วมกัน เช่น ค้างผัก พลาสติกคลุมแปลง ทำให้คุ้มค่าในการใช้งานและลดต้นทุนค่าปัจจัยการผลิต
3. ชนิดพืชที่นำมาปลูกต่างชนิดกัน ทำให้ลดปัญหาการระบาดของโรค แมลงได
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
เกษตรกรสามารถผลิตผักปลอดภัยสารพิษออกจำหน่ายได้เกือบตลอดทั้งปีสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว การผลิตมีการรับรองจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง,จนได้รับเป็นสหกรณ์ฯ และเป็นที่ศึกษาดูงานของเกษตรกรรายอื่น กลุ่มอื่น
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. การปลูกผักกาดหอม เมื่ออายุได้ประมาณ 20-25 วัน ถอนแยกต้นที่ไม่สมบูรณ์ทิ้งระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 25-30 เซนติเมตร
2. การปลูกผักบุ้งเรียวไผ่ ผักบุ้งจีน ควรนำเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งแช่น้ำอุ่นประมาณ 6-12 ชั่วโมง แล้วจึงนำ เมล็ดลงปลูกในแปลง เพื่อให้เมล็ดพันธุ์งอกได้ดีขึ้น
3. ขึ้นฉ่าย ตั้งโอ๋ ป๋วยเล้ง เมื่ออายุได้15-20 วัน ถอนแยกต้นที่ไม่สมบูรณ์ทิ้ง ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร
4. ขึ้นฉ่าย ก่อนปลูกควรนำเมล็ดแช่น้ำอุ่นประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วใช้ผ้าห่อแช่ในตู้เย็นประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วจึงนำเมล็ดลงปลูกในแปลง เพื่อให้เมล็ดงอกได้ดีขึ้น
5. การปลูกผักชี ควรนำเมล็ดพันธุ์ผักชีมาทุบเบาๆ ให้แตกเป็นสองซีกแล้วนำไปแช่น้ำอุ่นประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วจึงนำเมล็ดลงปลูกในแปลง เพื่อให้เมล็ดงอกได้ดีขึ้น
6. การปลูกผักชีฝรั่ง ควรนำเมล็ดพันธุ์ผักชีฝรั่งแช่น้ำอุ่นประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วผึ่งลมให้แห้ง แล้วจึงนำเมล็ดลงปลูกในแปลง เพื่อให้เมล็ดงอกได้ดีขึ้น
ข้อพึงระวัง ->