ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ปลาสลิด เป็นปลาที่มีเนื้อที่มีรสชาติและกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งเวลาเอามาย่างจะให้รสชาติที่อร่อย เป็นที่ถูกปากของผู้บริโภค แต่ปลาสลิดที่โตตามธรรมชาติจะตัวไม่โตนัก ทำให้มีเนื้อน้อย เมื่อมีการเพาะพันธุ์ปลาหมอที่หลากหลายขึ้น จึงมีความคิดว่าจะทดลองเลี้ยงไว้เพื่อบริโภคในครัวเรือนก่อน แต่เมื่อได้ทดลองเลี้ยงแล้วปรากฏว่ามีผู้สนใจซื้อเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำเป็นอาชีพเพื่อเลี้ยงปลาสลิตขาย ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ ปลาสลิตขายได้ราคาดี สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี

วัตถุประสงค์ ->

1.เตรียมบ่อตามขนาดที่ผู้เลี้ยงต้องการ

2.เมื่อลูกปลาได้ขนาด จะทำการปล่อยลงเลี้ยงในบ่อ อัตราเลี้ยงที่เหมาะสม 30-50 ตัว/ตารางเมตร หรือ 40,000-80,000 ตัว/ไร่ ส่วนวิธีปล่อยพ่อแม่พันธุ์ปลาให้ผสมพันธุ์ และวางไข่ในบ่อเลี้ยงเลย อัตราพ่อแม่พันธุ์ประมาณ 25-50 คู่/ไร่ จะได้ลูกประมาณ 50,000-100,000 ตัว/ไร่ สำหรับเกษตรกรไม่มีความรู้เรื่องการเพราะพันธุ์ปลา อาจหาซื้อลูกปลาตามฟาร์มหรือโรงเพาะพันธุ์ ขนาด 2-3 นิ้ว (อายุ 60-75 วัน หรือ 2-3 เดือน) อัตราการปล่อยประมาณ 25 ตัว/ตารางเมตร หรือ 40,000 ตัว/ไร่ บ่อที่ใช้เลี้ยงควรขึงด้วยผ้าเขียวรอบบ่อ เพื่อป้องกันศัตรูของปลาหรือปลาปีนป่ายออกนอกบ่อ โดยเฉพาะเวลาฝนตก และอาจติดตั้งระบบการเพิ่มออกซิเจนหากคุณภาพน้ำมีปัญหา

3.อาหาร และการให้อาหาร
อาหารปลาหมอในระยะเลี้ยงดูในบ่อดิน ในระยะ 1-2 เดือน จะใช้อาหารสำเร็จรูปที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ระยะ 2-3 เดือน ขึ้นไป อาหารสำเร็จรูปที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 หรืออาหารเม็ดปลาดุกเล็ก ร่วมกับอาหารเสริมอื่นๆ เช่น ไรแดง ปลวก รำข้าว เป็นต้น ระยะเวลาในการเลี้ยงที่เริ่มจับขายได้ 90-120 วัน หรือประมาณ 4-5 เดือน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. เลือกขนาดของปลา ที่จะนำมาเลี้งให้โตพอประมาณ

2. อาหารปลาต้องตรงตามขนาด และมีคุณภาพ 

3. พื้นที่เลี้ยง จะต้องเหมาะสม น้ำสะอาด อากาศถ่ายเท

อุปกรณ์ ->

ระวังโรคทีีมักเกิดกับการเลี้ยงปลา 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ข้อพึงระวัง ->