วิธีการทอผ้าไหมและซิ่นตีนจก
โดย : นางศิริพร เจือจันทร์ วันที่ : 2017-09-19-14:01:17ที่อยู่ : เลขที่ 139/3 หมู่ที่ 22 ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การทอผ้าไหมเป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น มาจากปู่ย่าตายายเพื่อทอไว้ใช้เองภายในครัวเรือนและเทศกาลงานประเพณ๊สำคัญทางศาสนา ที่เหลือก็จำหน่ายเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว
วัตถุประสงค์ ->
1.ใช้ในเทศกาล/งานประเพณีสำคัญทางศาสนา
2.เป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
เส้นไหม
เส้นไหมพุ่ง
เส้นไหมยืน
อุปกรณ์ ->
1.กี่ทอผ้า
2.หลอดด้าย/เส้นไหม
3.กระสวยไว้สอดทอ
4.ฟันหวี (ฟืม)
กระบวนการ/ขั้นตอน->
- ขั้นตอน/วิธีการทอผ้า
1. สืบเส้นด้ายยืนเข้ากับแกนม้วนด้ายยืน และร้อยปลายด้ายแต่ละเส้นเข้าในตะ กอแต่ละชุดและฟันหวี ดึงปลายเส้นด้ายยืนทั้งหมดม้วนเข้ากับแกนม้วนผ้าอีกด้านหนึ่ง ปรับความตึงหย่อนให้พอเหมาะ กรอด้ายเข้ากระสวยเพื่อใช้เป็นด้ายพุ่ง
2. เริ่มการทอโดยกดเครื่องแยกหมู่ตะกอ เส้นด้ายยืนชุดที่ 1 จะถูกแยก ออกและเกิดช่องว่าง สอดกระสวยด้ายพุ่งผ่าน สลับตะกอชุดที่ 1 ยกตะกอชุดที่ 2 สอดกระสวยด้ายพุ่งกลับ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ
3. การกระทบฟันหวี ( ฟืม ) เมื่อสอดกระสวยด้ายพุ่งกลับก็จะกระทบ ฟันหวี เพื่อให้ด้ายพุ่งแนบติดกัน ได้เนื้อผ้าที่แน่นหนา
4. การเก็บหรือม้วนผ้า เมื่อทอผ้าได้พอประมาณแล้วก็จะม้วนเก็บใน แกนม้วนผ้า โดยผ่อนแกนด้ายยืนให้คลายออกและปรับความตึงหย่อนใหม่ ่ให้พอเหมาะการจก
เป็นเทคนิคการทอผ้าเพื่อให้เกิดลวดลายต่างๆ โดยเพิ่มเส้นด้ายพุ่งพิเศษสอดขึ้นลง วิธีการคือ ใช้ขนเม่น ไม้ หรือนิ้ว สอดเส้นด้ายยืนขึ้น แล้วสอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไป ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นลวดลายเป็นช่วง ๆ สามารถทำสลับสีลวดลายได้หลากสี ซึ่งจะแตกต่างจากการขิดตรงที่ขิดที่เป็นการใช้เส้นด้ายพุ่งพิเศษเพียงสี เดียว การทอผ้าวิธีจกใช้เวลานานมากมักทำ เป็นผืนผ้าหน้าแคบใช้ต่อกับตัวซิ่น เรียกว่า “ ซิ่นตีนจก ”
ข้อพึงระวัง ->