ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การแปรรูปผ้าไหม

โดย : นางสาวกรรณิการ์ เวลาเกิด วันที่ : 2017-08-21-17:23:18

ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 34/1หมู่ที่ 1 ตำบลเทนมีย์

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

การทอผ้าไหมพื้นเมือง หรือพื้นบ้านของบ้านเทนมีย์  มีมาตั้งแต่สมัยดั้งเดิมของบรรพบุรุษได้ใช้ลายผ้าปูม  (ผ้าโฮล)  ผ้าขาวม้า  ผ้าลายสมอ  ผ้าอันพรม  ผ้าอันลูญซีม  หรือผ้าลายไทย  ผ้าหางกะรอก  ผ้าโสร่ง  ลายผ้าต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์  ลายผ้าเหล่านี้ได้รับการเรียนรู้มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ  สู่ลูกหลานมานานจนถึงยุคปัจจุบัน  เป็นการสืบทอดและถ่ายทอดวัฒนธรรมพื้นบ้าน  ซึ่งผ้าไหมของบ้านเทนมีย์  สามารถหาวัตถุดิบได้เองโดยการเลี้ยงไหมและทอผ้าไหมได้เอง  ต่อมามีการดัดแปลงลวดลาย  และสีสันของลายผ้าตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค  นอกเหนือจากนั้นทางกลุ่มก็ได้มีการคิดดัดแปลงผลิตภัณฑ์จากผ้าที่นำไปนุ่งห่มได้มาดัดแปลงเป็น  กระเป๋าสุภาพสตรี  และกล่องกระดาษทิชชู  เป็นของประดับตกแต่งในครัวเรือน  ทางกลุ่มก็ได้จัดสรรหาเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บเสื้อผ้ามาต่อลายให้เกิดความสวยงาม  และมาเย็บประกอบเป็นกระเป๋า  และกล่องกระดาษทิชชู

วัตถุประสงค์ ->

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

 เศษผ้าไหมลายต่าง ๆ  ที่เหลือจากการตัดเย็บเสื้อผ้า ฟองน้ำ  ด้ายเย็บ  ผ้าสาลู

ผ้าไหมลายต่าง ๆ  ของกลุ่ม จักรเย็บผ้า    

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ขั้นตอนการเลี้ยงไหม

          วงจรชีวิตของไหมหรือหนอนไหมใช้เวลาประมาณ 45 – 52 วัน เส้นใยของหนอนเกิดจากการขับของเหลวชนิดหนึ่ง มีสารโปร่งแสงเป็นองค์ประกอบใยไหมที่เห็นแต่ละเส้นจะประกอบด้วยเส้นใยเล็กๆสองเส้นรวมกัน สามารถฉีกแยกออกจากกันได ้ ทั้งนี้รังไหมแต่ละรังจะให้สายไหมที่มีขนาดแตกต่างกัน ชั้นนอกสุดของรังจะมีความละเอียดพอสมควร ชั้นกลางจะเป็นเส้นหยาบและชั้นในสุดจะเป็นเส้นไหมที่ละเอียดที่สุด ซึ่งหนอนไหมแต่ละตัวจะชักใยยาวไม่เท่ากัน อาจสาวได้ยาวตั้งแต่ 350 – 1,200 เมตร ซึ่งผู้เลี้ยงจะคัดไหมที่สมบูรณ์ไว้ทำพันธุ์ ส่วนที่เหลือนำไปสาวไหมก่อนที่ผีเสื้อจะเจาะรังออกมา ซึ่งเส้นจะขาดและทำเส้นไหมไม่ได้

          ขั้นตอนการสาวไหม

          เมื่อได้รับไหมสดจะต้องนำไปอบให้แห้ง จากนั้นนำไหมที่อบแห้งไปต้มในน้ำที่สะอาดที่มีคุณสมบัติเป็นกลาง รังไหมจะเริ่มพองตัวออก ใช้ปลายไม้เกี่ยวเส้นใยออกมารวมกันหลายๆเส้น การสาวต้องเริ่มต้นจากขุยรอบนอกและเส้นใยภายใน(ชั้นกลาง) รวมกันเรียกว่า “ไหมสาว” หรือ “ไหมเปลือก” ครั้นสาวถึงเส้นใยภายใน(ชั้นในสุด) แล้วเอารังไหมที่มีเส้นภายในแยกไปสาวต่างหาก เรียกว่า “เส้นไหมน้อย” หรือ “ไหมหนึ่ง” ผู้สาวไหมต้องมีความชำนาญและทักษะจึงจะได้เส้นไหมที่มีคุณภาพดี เมื่อเติมรังไหมลงไปอีกรังไหมใหม่สามารถรวมเส้นกับรังไหมเก่าได้ โดยไม่ทำให้เส้นไหมขาด แล้วนำไปตีเกลียว การตีเกลียวเส้นไหมจะช่วยทำให้ผ้าที่จะทอมีความหนา

ขั้นตอนเตรียมเส้นไหม

          การเตรียมเส้นไหม จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ

1. การเตรียมเส้นไหมพุ่ง จะเป็นการเตรียมเส้นไหมเพื่อตรียมพร้อมสำหรับการนำไปมัดหมี่โดยใช้เครื่องมือในการการค้นลำหมี่ โดยการนำเส้นไหมที่กวักเรียบร้อยแล้ว มาทำการค้นปอยหมี่เพื่อให้ได้ลำหมี่พร้อมสำหรับการไปมัดหมี่ในกระบวนการต่อไป

2. การเตรียมไหมเครือ (ไหมเส้นยืน) โดยการค้นหูกหรือค้นเครือ คือ กรรมวิธีนำเอาเส้นไหมที่เตรียมไว้สำหรับเป็นไหมเครือไปค้น (กรอ) ให้ได้ความยาวตามจำนวนผืนของผู้ทอผ้าไหมตามที่ต้องการ

ขั้นตอนการมัดหมี่

          การมัดหมี่ คือ การทำผ้าไหมให้เป็นลายและสีสันต่างๆตามแบบหรือลายที่ได้ออกแบบไว ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบลายที่เป็นแบบลายโบราณและแบบที่เป็นลายประยุกต์ โดยการมัดเส้นไหมให้เป็นลวดลายที่เส้นพุ่งด้วยเชือกฟางมัดลายแล้วนำไปย้อมสี แล้วนำมามัดลายอีกแล้วย้อมสีสลับกันหลายครั้ง เพื่อให้ผ้าไหมมีลวดลายและสีตามต้องการ เช่น ผ้าที่ออกแบบลายไว้มี 5 สี ต้องทำการมัดย้อม 5 ครั้ง เป็นต้น

ขั้นตอนการย้อมสี

          การย้อมสีไหมจะต้องนำไหมดิบมาฟอกเพื่อไม่ให้มีไขมันเกาะ โดยจะใช้ด่างจากขี้เถ้าไปฟอกไหม จะทำให้เส้นไหมขาวนวลขึ้น แล้วจึงนำไปย้อม ในสมัยก่อนนิยมใช้สีจากธรรมชาติ แต่ปัจจุบันการย้อมด้วยสีธรรมชาติเริ่มหายไป เนื่องจากมีสีวิทยาศาสตร์เข้ามาแทนที่ ที่หาซื้อง่ายตามร้านขายเส้นไหมหรือผ้าไหม เมื่อละลายน้ำจะแตกตัว ย้อมง่าย สีสดใส ราคาค่อนข้างถูกทนต่อการซักค่อนข้างดี การย้อมด้วยสีธรรมชาติมีข้อดี คือ สีไม่ฉูดฉาด สีอ่อนเย็นตากว่าสีสังเคราะห์ จึงทำให้สีของผ้างดงามสัมพันธ์กับรูปแบบของผ้าพื้นเมือง สีธรรมชาติจะติดสีได้ดีในเส้นไหมและฝ้าย วิธีย้อมคือ การคั้นเอาน้ำจากพืชที่ให้สีนั้นๆ ต้มให้เดือด จากนั้นนำไหมชุบน้ำให้เปียกบิดพอหมาด กระตุกให้เส้นไหมเรียงเส้นจึงแช่ในน้ำย้อมสีที่เตรียมไว จากนั้นนำไปผึ่งให้แห้งจะได้เส้นไหมที่มีสีตามต้องการ

ขั้นตอนการแก้หมี่

          การแก้หมี่ คือ การแก้เชือกฟางที่มัดหมี่แต่ละลำออกให้หมดหลังจาการย้อมในแต่ละครั้ง

ขั้นตอนการทอผ้า

          ขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะออกมาเป็นผ้าผืน คือการทอผ้าไหมจะประกอบไปด้วยเส้นไหม 2 ชุด คือชุดแรกเป็น “เส้นไหมยืน” จะขึงไปตามความยาวผ้าอยู่ติดกับกี่ทอ(เครื่องทอ) หรือแกนม้วนด้านยืน อีกชุดหนึ่งคือ “เส้นไหมพุ่ง” จะถูกกรอเข้ากระสวย เพื่อให้กระสวยเป็นตัวนำเส้นด้ายพุ่งสอดขัดเส้นด้ายยืนเป็นมุมฉาก ทอสลับกันไปตลอดความยาวของผืนผ้า การสอดด้ายพุ่งแต่ละเส้นต้องสอดให้สุดถึงริมแต่ละด้าน แล้วจึงวกกลับมา จะทำให้เกิดริมผ้าเป็นเส้นตรงทั้งสองด้าน ส่วนลวดลายของผ้านั้นขึ้นอยู่กับการวางลายผ้าตามแบบของผู้ทอที่ได้ทำการมัดหมี่ไว้

ขั้นตอนกระบวนการผลิตกล่องกระดาษทิชชู  กระเป๋า

วัตถุดิบประกอบด้วย

 เศษผ้าไหมลายต่าง ๆ  ที่เหลือจากการตัดเย็บเสื้อผ้า ฟองน้ำ  ด้ายเย็บ  ผ้าสาลู

ผ้าไหมลายต่าง ๆ  ของกลุ่ม จักรเย็บผ้า    

ขั้นตอนการทำกล่องกระดาษทิชชู  กระเป๋า

๑.       นำเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บเสื้อผ้ามาตัดต่อลายให้สวยงามตามความต้องการ

๒.      นำผ้ามาเนาติดฟองน้ำ  และเย็บสักให้เต็มผืนผ้า

๓.      ตัดขนาดของกล่อง  เย็บเจาะตรงกลางเพื่อทำเป็นรูเอาไว้ดึงทิชชูออก

๔.      นำผ้าผืนใหญ่มาตัดระบาย  เย็บพันริมผ้าให้สวยงาม  เย็บรูดด้วยด้ายให้สวยงาม

๕.      นำผ้าระบายมาเย็บติดตรงกลางกล่อง  และรอบข้าง ๆ ของตัวกล่อง  เพื่อทำให้เกิดความพริ้วไหวของตัวกล่อง 

๖.      เย็บดอกกุหลาบติดที่ระบายบน  เพื่อสร้างความสวยงาม

ข้อพึงระวัง ->

ปัจจัยภายในที่นำไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจการทอผ้าไหมมัดหมี่ ได้แก่

                   (1) แรงบันดาลใจ  จากการได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ ความสนใจใฝ่รู้ ความคิดที่อยากจะทอผ้าเป็น ความมีใจรักและชอบในการทอผ้า ลวดลายและสีในตัวผืนผ้าไหม

                   (2) เจตคติ มีความรู้สึกชอบและรักในธุรกิจการทอผ้าไหมมัดหมี่

                   (3) การเรียนรู้ มีการเรียนรู้ที่เป็นระบบ และมีขั้นตอน คือการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน การเรียนรู้ขั้นชำนาญการ และการเรียนรู้ขั้นประกอบอาชีพได้

                   (4) ความคาดหวังต่ออาชีพ ผู้ประกอบธุรกิจการทอผ้าไหมมัดหมี่ต้องการที่จะสร้างรายได้ให้กับครอบครัว การสร้างงานในท้องถิ่น การอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้าน การหาอาชีพที่แน่นอนให้กับตนเอง และการลดแรงงานการย้ายถิ่น

                  

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดสุรินทร์
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา