ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การปลูกพริก

โดย : นางสาวกัญญารัตน์ บุตรงาม วันที่ : 2017-06-04-11:13:05

ที่อยู่ : 43 บ.หนองหาญ ม.10 ต.ตระเปียงเตีย

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เพื่อบริโภคในครัวเรือนและนอกจากนี้ยังมีการปลูกพริกเพื่อการค้าในรูปพริกสด  ผลิตภัณฑ์แปรรูปเครื่องปรุงแต่งรส  เช่น  พริกแห้ง  พริกป่น  น้ำพริกเผา  น้ำพริกแกง  และซอลพริก เป็นต้น  พริกที่ปลูกกันมากในปัจจุบันนี้สามารถแบ่งตามขนาดของผลพริก  ได้  2  ชนิด  ดังนี้

1.  พริกใหญ่  ได้แก่  พริกชี้ฟ้า  พริกมัน  พริกเหลือง  พริกหยวก  พริกยักษ์

2. พริกเล็กหรือพริกขี้หนู  ได้แก่  พริกจินดา  พริกหัวเรือ  พริกห้วยสีทน  พริกจินดายอดสน  พริกจินดาลาดหญ้า  พริกขี้หนูสวน  พริกเดือยไก่  พริกปากปวน

วัตถุประสงค์ ->

   เพื่อบริโภคในครัวเรือนและนอกจากนี้ยังมีการปลูกพริกเพื่อการค้าในรูปพริกสด  ผลิตภัณฑ์แปรรูปเครื่องปรุงแต่งรส  เช่น  พริกแห้ง  พริกป่น  น้ำพริกเผา  น้ำพริกแกง  และซอลพริก

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

เมล็ดพันธุ์พริก

พื้นที่เพาะปลูก

ปุ๋ย

สารฆ่าแมลง

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การเพาะกล้า

                การเตรียมดิน   ควรขุดหรือไถดินให้ลึกประมาณ  15  ซม.  ตากดิน  5-7  วัน  ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่สลายตัวแล้ว  ประมาณ  20  กก. ต่อเนื้อที่  5  ตารางเมตร  พรวนย่อยผิวหน้าดินให้ละเอียด  เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินแปลงเพาะควรใส่ปุ๋ยสูตร  15-15-15  อัตรา  400 – 500  กรัม  พรวนกลบลงในดิน  รอบแปลงเพาะควรใช้สารเคมี  เช่น  ออลดรินโรยเพื่อป้องกันมด  แมลง  เข้าไปทำลายเมล็ดพันธุ์ที่เริ่มงอก

                การเตรียมเมล็ดพันธุ์   ควรเลือกใช้พันธุ์พริกที่ตรงตามความต้องการของตลาดมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม  ก่อนนำเมล็ดพันธุ์ไปหว่าน  คัดเมล็ดพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์ออกโดยนำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำสะอาดเมล็ดพันธุ์ที่เสียจะลอยน้ำแล้วคัดออก  นำเมล็ดพันธุ์ดีคลุกสารเคมีไดเทนเอม 45  อัตราส่วน  1  ช้อนแกงต่อเมล็ดพันธุ์  1  กก.  หรือนำไปแช่น้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ  50  องศาเซลเซียส  เป็นเวลานานประมาณ  30  นาที  ก่อนนำไปหยอดหรือหว่านในแปลงเพาะกล้า

การเพาะเมล็ดพันธุ์

                นำเมล็ดพันธุ์หว่านให้กระจายทั่วทั้งแปลงเพาะ หรือโรยเมล็ดเป็นแถวลงไปในร่องลึก  0.6 – 1  ซม.  ห่างกันแถวละประมาณ  10  ซม.  กลบด้วยปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วหรือดินผสมละเอียดรดน้ำให้ชุ่มเสมอ  คลุมด้วยฟางแห้งหรือหญ้าแห้งบางๆ  เมื่อกล้าเริ่มงอกมีใบจริงอายุประมาณ  12 – 15  วัน  ถอนแยกต้นที่เป็นโรคอ่อนแอ  ไม่สมบูรณ์  หรือต้นที่ขึ้นเบียดกันแน่นเกินไปทิ้ง  ให้มีระยะห่างกันพอสมควร และควรให้ปุ๋ยเสริมทางใบเพื่อให้ต้นกล้าเจริญเติบโตและแข็งแรง  เมื่อต้นกล้าอายุ  30 – 40 วัน  ก็สามารถย้ายลงปลูกในแปลงใหญ่ได้

การย้ายกล้าปลูก

                ก่อนย้ายกล้าควรรดน้ำเพื่อให้ต้นกล้าแข็งตัว  ดินร่วน  และง่ายต่อการถอนต้นกล้า  การย้ายกล้าอาจจะย้ายจากแปลงเพาะลงในถุงเพาะชำก่อน  เมื่อกล้ามีใบจริง 2 ใบ ระยะเวลาการชำในถุงประมาณ 15 – 20 วัน จะทำให้กล้าแข็งแรงสมบูรณ์  สม่ำเสมอกัน แล้วจึงย้ายปลูกในแปลงปลูก  สำหรับการย้ายกล้าปลูกในแปลงปลูกควรย้ายกล้าในเวลาบ่ายถึงเย็น  ขณะที่แสงแดดไม่ร้อนจัด  หลังจากปลูกรดน้ำต้นกล้าที่ปลูกใหม่ให้ชุ่ม  ให้ใช้ฟางแห้งหรือหญ้าแห้งคลุมดินเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดิน  จะทำให้ต้นกล้าตั้งตัวได้เร็วขึ้น

 

การเตรียมดินปลูก

                การเตรียมดินปลูกพริกนั้น  ควรพิจารณาความแตกต่างตามสภาพของดินและระดับน้ำดังนี้ คือ

                1.  การเตรียมดินปลูกในเขตอาศัยน้ำฝน  ต้องพิจารณาเลือกที่ซึ่งระบายน้ำได้ดี  การกำหนดแถวปลูกให้กำหนดแถวคู่ห่างกัน 1.20 ม. และให้ระยะระหว่างแถวห่างกัน 0.50 ม.  ระยะระหว่างต้น  0.50 X 0.50 ม.  เมื่อเตรียมแปลงปลูกแล้วให้ใส่ปุ๋ยคอกในอัตราไร่ละ  1,200 – 3,000  กก.  ทำการคลุกปุ๋ยคอกให้เข้ากับดินแล้วใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15  ในอัตรา  50  กก. ต่อไร่  และใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดแมลงชนิดดูดซึม คือ คาร์โบฟูราน  เช่น  ฟูราดาน  คูราแทร์  โรยลงไปในหลุมประมาณ  ¼  ช้อนชา และในสภาพดินที่เป็นกรดจัดควรใช้ปูนขาวในอัตรา  200 – 400  กก.ต่อไร่

ข้อพึงระวัง ->

1.  การให้น้ำ  พริกเป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอในช่วงแรกของการเจริญเติบโต  ดินควรมีความชุ่มชื้นพอดีอย่าให้เปียกแฉะเกินไปจะทำให้ต้นพริกเหี่ยวตายได้  ในช่วงเก็บผลผลิตควรลดการให้น้ำเพื่อจะทำให้คุณภาพผลผลิตดี  สีของผลสวย

                2.  การกำจัดวัชพืช   ในระยะที่ต้นพริกยังเล็กควรมีการกำจัดวัชพืชให้บ่อยครั้ง  หากวัชพืชคลุมต้นพริกช่วงระยะการเจริญเติบโต จะทำให้แคระแกร็นคุณภาพผลผลิตไม่ดี  การกำจัดวัชพืชน้อยครั้งยังมีผลทำให้ดินที่มีผิวหน้าแข็งหรือเหนียวจับกันเป็นแผ่น  น้ำซึมผ่านได้ยากให้มีการถ่ายเทอากาศและระบายน้ำดี

                3.  การใส่ปุ๋ย  พริกเป็นพืชที่มีอายุการเก็บผลค่อนข้างยาวนาน  ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบ เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21  ในอัตรา  50-100  กก.ต่อไร่  เพื่อเป็นการช่วยเสริมการเจริญเติบโต  นอกจากนี้ควรใส่ปุ๋ยน้ำทางใบโดยทำการฉีดพ่นทุกครั้งหลังการเก็บเกี่ยว  การใช้ปุ๋ยเคมีจะได้ผลต่อพืชสูงสุดขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินกับปริมาณการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ควบคู่กันไปด้วย

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดสุรินทร์
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา