ความรู้สัมมาชีพชุมชน

ทำนาข้าวพันธุ์หอมมะลิ

โดย : นางสนะ มานะโปรย วันที่ : 2017-04-19-14:41:15

ที่อยู่ : 91 บ้านหนองยาว หมู่ที่ 2 ต.ประทัดบุ

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

นางสนะ มานะโปรย เป็นคนบ้านหยองยาวดั้งเดิมโดยกำเนิด และมีอาชีพหลักคือการทำนา เมื่อครั้งตอนเริ่มทำนาเพื่อยึดเป็นอาชีพหลัก ก็ต้องประสบปัญหาเป็นหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ในการกู้ยืมเงินมาทำนาครั้งแล้วครั้งเล่า จนนางสนะ คิดแก้ปัญหาโดยการศึกษาการทำนาข้าวพันธุ์หอมมะลิอย่างจริงจัง ลองผิดลองถูกในการทำนาหลายปี เพื่อลดต้นทุนและหวังจะได้ปลดหนี้ธนาคารฯ

             การศึกษาวิธีการทำนา และมุ่งมั่นปฏิบัติเอาจริงเอาจัง ทำให้นางสนะ ค่อยๆฟื้นตัวจากหนี้ธนาคารก้อนใหญ่ และมียอดจำหน่ายจากการทำนาที่เพิ่มขึ้นทุกปี และในปัจจุบันก็ได้ยอมรับจากชาวบ้านว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถในการทำนาข้าวพันธุ์หอมมะลิ และเป็นแบบอย่างเกษตรกรที่ดี

วัตถุประสงค์ ->

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

     นางสนะ แนะว่าจะต้องเริ่มจากการคัดเลือกพื้นที่ปลูกมีค่าพีเอช (pH)~ 5.5-6.5 และต้องตรวจวิเคราะห์ดินทุกๆ 3 ปี เพื่อปรับการใช้ปุ๋ยให้เหมาะสม ส่วนเมล็ดพันธุ์ต้องมีคุณภาพดี มีความบริสุทธิ์ตรงตามสายพันธุ์ มีอัตราความงอกไม่ต่ำกว่า 80% หากนาหว่านข้าวแห้ง จะใช้เมล็ดพันธุ์ไร่ 15-20 กก.ส่วนนาปักดำมือ ใช้ไร่ละ 6-8 กก.โดยนาหว่านข้าวแห้ง ให้ไถพรวน โดยใช้ผ่าน 3-6 ให้ลึกประมาณ 15-20 ซม. เพื่อกลบตอซัง พลิกดิน และกำจัดวัชพืช หลังจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ หว่านเมล็ดข้าวให้สม่ำเสมอ ใช้โรตารี่ ปั่นตีดิน ในสภาพดินแห้ง ลึกประมาณ 15 ซม. เพื่อกลบเมล็ดข้าวที่หว่านไว้ให้แน่นพอเหมาะ

               ส่วนนาปักดำมือ ให้ไถพรวน โดยใช้ผาน 3-6 ทิ้งไว้ 7-10 วัน หลังจากนั้น ขังน้ำให้ได้ประมาณ 3 ซม. ไถพรวน ผาน 2 แล้ว คราดดินให้ละเอียด เพาะเมล็ดให้งอกตุ่มตายาว 1-2 ลม. จากนั้นหว่านเมล็ดพันธุ์ที่งอกแล้ว ค่อยๆ เพิ่มระดับน้ำจนต้นกล้าข้าวอายุ 25-30 วัน จึงนำไปปักดำได้ ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ในอัตรา 1.5 กก./ไร่ ก่อนถอนกล้า 5-7 วัน  แต่ก่อนปักดำมือ ให้ไถพรวน ผาน 3-6 ทิ้งไว้ 7-10 วัน ขังน้ำในนาให้ได้ประมาณ 3 ซม. ไถพรวน ผาน 3-6 อีกครั้ง แล้วคราดดินให้ละเอียด ขังน้ำให้ได้ประมาณ 3-5  ซม. การปักดำที่ระยะ 25x25 ซม.ปริมาณ 3-5 ต้น/กอ ลึก 3-5 ซม. ระดับน้ำไม่เกิน 10 ซม. 

              สำหรับการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม ให้ปุ๋ยอินทรีย์รองพื้นก่อนไถพรวน ผาน 3-6  ในอัตรา 40-50 กก./ไร่ จากนั้นการใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ในนาหว่านข้าวแห้ง ควรใส่ช่วงข้าวเริ่มแตกกอใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-8  ในอัตรา 20-25 กก./ไร่ สำหรับนาดินทราย และใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 สำหรับนาดินเหนียว ส่วนนาปักดำมือ ให้ใส่หลังปักดำ 10-12 วัน หรือในช่วงที่ข้าวเริ่มแตกกอ โดยใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-8 ในอัตรา 20-25  กก./ไร่ สำหรับนาดินทราย และสูตร 16-20-0 สำหรับนาดินเหนียว ครั้งครั้งที่ 2 ให้ใส่ปุ๋ยก่อนข้าวออกดอกประมาณ 30 วัน โดยใช้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ในอัตรา 5-10 กก./ไร่

                    วิธีการกำจัดวัชพืชก่อนงอก ให้ใช้สารเคมีประเภท ยาคุมหญ้า อาทิ บิวทาคลอร์, เพรททิลาคลอร์, ออกซาไดอะซอน พ่นหลังหว่านข้าว 3-7 วัน ส่วนสารกำจัดวัชพืชหลังงอก ใช้ประเภทยาฆ่าหญ้า พ่นหลังจากวัชพืชงอกเกิน 10 วันขึ้นไป ขณะการดูแล แบ่ง 2 ระยะ คือ ระยะแตกกอ ให้ตรวจดูลักษณะการแตกกอ การชูใบ ขนาดความสูงของใบ หากพบต้นผิดปกติให้ถอนทิ้งทันที ระยะออกดอก ให้ตรวจดูความสูงของต้นข้าว ลักษณะของดอก สี ขนาดของเกสรตัวผู้ ถ้าพบต้นผิดปกติ ให้ตัดทิ้งทันทีเช่นกัน

           "โรคข้าวที่สำคัญ ที่ต้องระวังคือ โรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง โรคใบจุดสีน้ำตาล วิธีการแก้ไข คือ  ไม่ใส่ปุ๋ย ไนโตรเจนในอัตราสูงเกินไป หมั่นสำรวจแปลงนาเป็นประจำ หากเห็นความผิดปกติของต้นข้าวและอาการของโรครุนแรง ให้ใช้สารเคมีในการพ่นกำจัด ตามคำแนะนำของ เจ้าหน้าที่ ส่วนแมลงศัตรูพืชมีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หนอนกอ วิธีการแก้ไข คือ ไม่ใส่ปุ๋ย ไนโตรเจนในอัตราสูงเกินไป หากแมลงศัตรูพืช เริ่มเข้าทำลายให้ใช้สารเคมีในการพ่นกำจัด ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ครับ"ไตรรัตน์ กล่าว

          แล้วมาถึงการเก็บเกี่ยวต้องเป็นช่วงที่เหมาะสม จะต้องบันทึกวันออกดอกไปไม่น้อยกว่า 25 วัน และไม่เกิน 35 วัน จะทำให้ได้น้ำหนักเมล็ดสูง เปอร์เซ็นต์ข้าวเต็มเมล็ดดี และมีคุณภาพการสีดีนั่นเอง

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดสุรินทร์
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา