ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การปลูกไผ่หวาน

โดย : นายเจ๊ะหลน หลงกอหราบ วันที่ : 2017-04-24-12:42:34

ที่อยู่ : 88 ม.5 ต.สาคล อ.ท่าแพ

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

วัตถุประสงค์ ->

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ไผ่หวาน,ไผ่เลี้ยงหวาน,ไผ่เลี้ยงสีทอง 
       เก่งพันธุ์ไผ่ – จำหน่ายต้นพันธุ์ไผ่หวาน,ไผ่เลี้ยงหวาน,ไผ่เลี้ยงสีทอง ซึ่งทางเราเป็นผู้ผลิตโดยตรง ควบคุมดูแลวิธีการขยายพันธุ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ต้นพันธุ์ที่มีคุณภาพ ไผ่ชนิดนี้ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการขุดต้นอ่อนมาจากในกอนำมาปักชำในถุงดำที่บรรจุขี้เถ้าแกลบ ซึ่งต้นพันธุ์ที่ขุดแบ่งออกมาจะมีอายุ 6-8 เดือน เพราะว่าหากต้นพันธุ์ที่ขุดแบ่งออกมามีอายุน้อยกว่า 6 เดือน ต้นพันธุ์จะยังไม่แข็งแรงรากก็ยังน้อย เพราะไผ่หวานรากใหม่จะแตกจากรากเก่า การเจริญเติบโตก็ช้าหรือตาหน่อก็อาจจะเน่าเสียไปหากนำมาปลูกไผ่ก็อาจจะไม่มีหน่อหรือไม่แตกกอ หากเป็นต้นพันธุ์ที่อายุเกิน 8 เดือน ต้นพันธุ์ก็จะแก่เกินไป ตาหน่อก็อาจจะแห้งเสีย เวลาปลูกก็อาจจะไม่ออกหน่อหรือออกหน่อช้ากว่าต้นอื่น ๆ ซึ่งต้นไผ่ที่เหมาะแก่การขุดแบ่งมาขยายพันธุ์ต้องมีอายุ 6-8 เดือนเท่านั้น ทางเราได้ทำการหยุดตัดหน่อตั้งแต่เดือน กันยายน และเริ่มทำการขุดแบ่งขยายพันธุ์ ประมาณเดือน มีนาคม-พฤษภาคมของทุก ๆ ปี ต้นพันธุ์ไผ่ของเราจะเริ่มออกหน่อหลังจากเริ่มปักชำแล้วประมาณ 4-6 เดือน ดังนั้นถ้าเราปักชำแล้ว 2 เดือน หากนำไปปลูกก็ประมาณอีก 2 เดือนไผ่ก็จะเริ่มแตกกอ สำหรับไผ่ชนิดนี้-จะมีน้ำหนักประมาณ 1-3 หน่อ จะได้ 1 ก.ก.

วิธีการปลูกดูแลรักษาไผ่เลี้ยงหวาน
      ไผ่เลี้ยงหวานเป็นไผ่ที่มีขนาดเล็กรองจากตระกูลไผ่ตรงเป็นไม้ที่ปลูกง่ายให้ผลผลิตได้ยาวนานไม่ต่ำกว่า 10 ปี การดูแลรักษาง่ายไม่ใช้สารเคมีไม่ต้องกำจัดวัชพืชเมื่อไผ่มีอายุประมาณ 2 ปี หญ้าที่เคยรกร้างจะถูกรากไผ่ปกคลุมทั่วผืนดินจะทำให้หญ้าต่างๆ ตายไปเอง
ไผ่เลี้ยงหวานเป็นพันธุ์ที่หน่อดก ออกหน่อทั้งปีสามารถทำนอกฤดูทำให้ได้ราคาสูงช่วงประมาณเดือน กุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม ของทุกปี หน่อไม้จะมีราคาสูงที่สุดแต่ราคาเท่าไหร่ขึ้นกับแต่ละท้องที่
ไผ่เลี้ยงหวานเป็นหน่อไม้ที่ให้รสชาติหวานกรอบ เนื้อไม่เละแต่ไม่แข็ง รสชาติไม่หวานเหมือนน้ำตาลแต่ก็ไม่ขมไม่เหมือนหน่อไม้ที่ขึ้นตามป่า จะต้องต้มน้ำทิ้งหลายๆ น้ำจึงจะรับประทานได้แต่ไผ่เลี้ยงหวานสามารถประกอบอาหารได้เลยโดยไม่ต้องต้มน้ำทิ้งก่อนแต่ต้องรับประทานสุก ถ้าดิบจะมีรสชาติเผื่อนนิดหน่อย
วิธีปลูก
1 ปลูกระยะ 2 x 2 ไร่ละ 400 ต้น ระยะ 3 x3 ไร่ละ 175 ต้น 
2 ไถเตรียมดินกำจัดวัชพืช ขุดหลุมลึก 30 x 30 เซนติเมตร ไถเตรียมดินกำจัด วัชพืชขุดหลุมลึก 30 x 30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกหลุมละประมาณ 2 กิโลกรัม นำต้นไผ่ลงปลูกตั้งต้นตรงดินที่จะกลบควรคลุกด้วยปุ๋ยหมักที่รองก้นหลุมแล้วจึงกลบจึงจะได้ผลดีที่สุด หลังจากปลูกควรรดน้ำทันทีถ้าไม่อยากให้หญ้าขึ้นที่โคนไผ่หรือเพื่อรักษาความชื้นให้นำฟางหรือหญ้าแห้งมาคลุมไว้ที่โนไผ่หนาๆ หากมีวัชพืชขึ้นที่โคนต้น ควรใช้วิธีการถอนเพราะถ้าหากใช้จอบถากหญ้าอาจจะไปโดนหน่อที่กำลังเกิดแต่เรายังมองไม่เห็น
หลังจากปลูกแล้วคอยดูว่าไผ่เหี่ยวหรือเปล่าถ้าเหี่ยวให้รดน้ำสม่ำเสมอเพราะไผ่กิมซุงต้องการน้ำมากกว่าไผ่พันธุ์อื่น หลังจากปลูกแล้วอีก 1 เดือน ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตต้นละครึ่งช้อนโต๊ะหลังจากปลูกแล้วประมาณ 2 เดือน จะเริ่มแทงหน่อให้เห็นพอต้นไผ่มีต้นใหม่ประมาณ 3 ต้นให้ใส่ปุ๋ยขี้ไก่แกลบต้นละ 3 กิโลกรัม โดยโรยรอบๆ การปลูกไผ่จะให้ผลดีต้องเน้นเรื่องปุ๋ยกับน้ำให้สม่ำเสมอ ไผ่เมื่อเริ่มออกหน่อให้ปล่อยไว้ให้เป็นต้นแม่ประมาณ 6 – 10 ต้น หลังจากนั้นเมื่อมีหน่อใหม่เกิดขึ้นมาก็เริ่มตัดขายได้ โดยปกติแล้วไผ่จะให้ผลผลิตอย่างน้อย 30 กิโลกรัม ต่อ 1 ไร่ ต่อ 1 วัน ผลผลิตจะได้มากหรือน้อยกว่านี้อยู่ที่การดูแลรักษารดน้ำใส่ปุ๋ย การตัดหน่อไผ่เลี้ยงหวาน ควรใช้มีดตัดไม่ควรใช้วิธีการหัก เพราะจะทำให้โคนไผ่ลอยขึ้นสูงเวลารดน้ำจะทำให้น้ำไม่ค่อยเปียกเพราะน้ำจะไหลลงข้างกอ ควรใช้มีดตัดต่ำๆ เสมอหน้าดิน

 




น้ำหนักต่อ 1 หน่อ ประมาณ1 กิโลกรัม

 
หน่อสดๆ จากไผ่หวาน


กิ่งพันธุ์ไผ่หวาน คุณภาพทุกกิ่ง เรากล้ารับประกัน

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดสตูล
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา