การปลูกกาแฟแซมสวนยางพารา
โดย : นายกอดาด นาปาเลน วันที่ : 2017-03-21-16:16:30ที่อยู่ : 94 หมู่ที่ 1 ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
กาแฟ นับเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของโลก มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมบนพื้นที่สูงของประเทศเอธิโอเปีย สายพันธ์หลัก ๆ มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่โรบัสต้า ลักษณะพันธ์ต้นสูงใหญ่ และให้ผลิตเยอะกว่า ประเภทสายพันธ์อาราบิก้า ในสารกาแฟ จะมีคาเฟอีนที่สูง ทำให้รสชาติค่อนข้างจะขม
อีกสายพันธุ์หนึ่งคือ อาราบีก้า เป็นกาแฟที่มีคุณภาพดี ให้ทั้งรสชาติ (flavour) และกลิ่นหอม (aroma) ลักษณะทรงพุ่มขนาดเล็ก
สำหรับประเทศไทยปลูกกาแฟโรบัสต้า ร้อยละ 98 โดยมากปลูกทางภาคใต้เช่น ระนองสุราษฎร์ธานี และชุมพร อีกประมาณร้อยละ 2 เป็นกาแฟอราบิก้าซึ่งปลูกมากตามดอยต่างๆ ทางภาคเหนือ กาแฟที่มีชื่อเสียงของไทยได้แก่ กาแฟดอยช้าง ซึ่งปลูกบนดอยช้าง จังหวัดเชียงราย ถือว่าเป็นกาแฟได้จากกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล และรสชาติดีเทียบเคียงกับกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลก
จังหวัดสตูล มีกลุ่มอาชีพที่ผลิตกาแฟ สำหรับขาย หลายกลุ่ม เนื่องจากเป้นที่นิยมของผุ้คนในพื้นที่ แต่เมล็ดกาแฟจำเป้นต้องซิ้อจากที่อื่น และอาชีพหลักส่วนใหญ่ ของผุ้คน จะเป้นการปลูกสวนยางพารา เพื่อเป้นการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ได้เต็นมเต็มที่ จึงควรมีการปลูกกาแฟแวมสวนยางพารา และ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และสามารถประกอบเป้นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้
วัตถุประสงค์ ->
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การปลูก
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมพื้นที่
1. ทำแนวระดับโดยใช้อุปการณ์ช่วย เช่น ไม้รูปตัวเอเขาควาย หรือระดับน้ำ ทำแนวปลูกกาแฟ โดยมีระยะระหว่างต้น 2 เมตรระยะห่างระหว่างแถวขึ้นอยู่กับความลาดชัน โดยเฉลี่ยประมาณ 2-2 เมตร
2. ขุดหลุมปลูกกาแฟขนาด 0.5 x 0.5x 0.5 เมตร (หรือ 1 X 1 X 1 ศอก) แยกหน้าดินกับดินก้นหลุม ออกจากกันหน้าดินจะใช้ผสมใส่ลงที่ก้นหลุม
3. การผสมดินใส่ก้นหลุมจะประกอบด้วย หน้าดิน ปุ๋ยคอกปูนขาว (โดโลไมท์) ปุ๋ยฟอสเฟต และฟูราดาน ผสมให้เข้ากัน ใส่ก้นหลุมไว้
4. กลบด้วยกินก้นหลุมให้เสมอปากใช้ไม้ปักทำเครื่องหมายหลุมไว้
ขั้นตอนที่ 2 การปลูก
1. นำต้นกล้าที่มีขนาดเหมาะสมความสูงประมาณ 45-50 ซม. มีใบ 6-8 คู่ สมบูรณ์แข็งแรงผ่านการฝึกให้ทนทานต่อแสงแดดจัดและการขาดน้ำ ในเบื้องต้นแล้ว
2. นำต้นกล้าลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้กลบดินให้แน่น
3. ใช้ไม้ปักกันลมโยกคลอน
ข้อพึงระวัง ->