ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การทำปลาส้ม

โดย : นางวิเชียร แพงศรี วันที่ : 2017-03-29-16:28:23

ที่อยู่ : 50 ม.12 ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ต้องการสืบทอดภูมิปัญญาในการถนอมอาหารของคนโบราณ

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อสร้างเป็นอาชีพเสริมให้กับครัวเรือน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ปลาตะเพียน ข้าวเหนียวนึ่งสุก กระเทียม เกลือ น้ำตาลทราย รสดี

อุปกรณ์ ->

  • กะละมังสเตนเลส ขนาดใส่ปลาได้ประมาณ 3-5 กก. 1 ใบ
  • กะละมังพลาสติก ไว้สำหรับแช่หรือหมักปลา 1 ใบ
  • ปลาตะเพียน 3 กิโลกรัม (ปลาส้มนครพนมของแท้ ต้องปลาตะเพียนค่ะ)
  • ข้าวเหนียวนึ่งสุก 1 ถ้วย 
  • เกลือ 1 ถ้วย (อาจจะใช้ไม่หมด แต่ก็เอามาเผื่อไว้ค่ะ)
  • กระเทียม 1 ถ้วย โคลกหยาบๆ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ผงปรุงรส พอให้ได้รสชาติความนัว

กระบวนการ/ขั้นตอน->

นำปลาตะเพียน มาล้างทำความสะอาด ผ่าท้องควักไส้ ขอดเกล็ดออกให้หมด แล้วล้างอีกรอบให้สะอาด

  • เมื่อล้างสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้บั้งตามยาวของตัวปลา ประมาณ 3 ขีดค่ะ แล้วใช้มีดหรือสากในครัวเรานั่นแหละค่ะ ทุกตัวปลาให้อ่อน ( นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในสูตรและเคล็ดลับน่ะค่ะ )
  • แล้วนำเกลือมาทาทั่วตัวปลา ใส่เกลือเข้าไปในท้องปลาและในเหงือกของปลาที่เราทุบจนอ่อนแล้ว หาถาดหรือฝาหม้อมาปิด หมักไว้ 1 คืน
  • เมื่อหมักไว้ครบหนึ่งคืนแล้ว นำปลาที่หมักไว้มาล้างน้ำสะอาด ให้เกลือออกให้หมด ประมาณ 4-5 น้ำ แล้วแช่น้ำเปล่า ไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้ปลาหมดความเค็ม แช่จนเนื้อปลาขาวน่ะค่ะแตะๆชิมดูก็ได้ว่าเนื้อปลาจืดแล้วก็เป็นอันใช้ได้ (เจ้าของสูตรบอกตามนี้จริงๆค่ะ)
  • ในระหว่างที่เราล้าง แล้วนำปลาไปแช่น้ำเปล่านั้น เราก็มาเตรียมเครื่องปรุงรอ คือข้าวเหนียวนึ่งสุก ให้นำไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง แช่จนข้าวเหนียวบวมน้ำไปเลยค่ะ แล้วก็กรองเอาน้ำออก และก็นำกระเทียมมาโคลกให้พอหยาบ
  • เมื่อล้างปลาจนหมดความเค็มและจีดเรียบร้อยแล้ว และก็ได้ทั้งข้าวเหนียวที่แช่ได้ที่พร้อมกับกระเทียมโคลกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการปรุงเลยค่ะ ให้นำข้าวเหนียวและกระเทียมมาปรุงโดยใส่ น้ำตาลหนึ่งช้อนชา ผงปรุงรสเพิ่มความนัวของปลาส้มเราน่ะค่ะ ใส่ถุงมือหรือใช้ถุงพลาสติกสะอาดๆสวมมือหน่อยก็ได้น่ะค่ะ แต่ถ้าล้างมือสะอาดแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ นำเครื่องปรุงมาใส่ในท้อง ในเหงือกของปลา แล้วก็บีบนวดตัวปลาให้นิ่ม ให้เครื่องเข้าไปในเนื้อปลามากที่สุด 
  • แล้วก็นำมาเรียงในกะละมังสแตนเลสที่เตรียมไว้ ให้สวยงามโดยวางตัวปลาทับกัน ตามแบบภาพนี้น่ะค่ะ วางเสร็จแล้วให้หาถาดมาปิดทับบนตัวปลา แล้วใช้ครกทับไว้ (สาเหตุที่ใช้ถาดทับไม่พอยังต้องเอาครกทับอีก ผู้เขียนก็ได้ถามให้เป็นที่เรียบร้อยว่าเพราะอะไร เจ้าของสูตรก็บอกว่าเพื่อให้เนื้อปลาแน่น และก็เครื่องปรุงจะได้ซึมเข้าในเนื้อปลาได้ง่ายและทั่วถึง สรุปก็คือเป็นเคล็ดลับความอร่อยนั่นเองค่ะ) ประมาณ 3 วันก็นำมาประกอบอาหารโดยการทอดหรือนึ่ง หรือจะรับประทานสดๆ แอ้มพริกสดและกระเทียม พร้อมข้าวเหนียวร้อนๆได้แล้วค่ะ
  • ๆเตรียมไว้เช่นกัน
  •  

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา