ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

 ได้รับการแต่งตั้งจากหมู่บ้านนาแส่ง ให้เป็นหมอดิน และเคยได้ไปเรียนรู้การทำจากกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานเกษตรอำเภอเกาะคา อบต.นาแส่ง   จึงได้ทดลองทำนำมาใช้ด้วยตนเอง ตลอดจนได้ชักชวนให้เพื่อนบ้านได้ทดลองทำเพื่อใช้เองในครัวเรือน เพื่อเป็นการลดรายจ่าย

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ ในการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ทำให้มีความปลอดภัยในการทำการเกษตรไว้ใช้ในครัวเรือน เพื่อเป็นการลดรายจ่าย และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

เศษพืชผัก ผลไม้ ทุกชนิดที่ไม่มีสารปนเปื้อนตกค้าง

-        เศษกระดูก ก้างปลา ปู หอย กุ้ง (ต้องสับหรือทุบให้ละเอียด)

-        ยอดพืชผัก เช่น กระถิน

-        กากน้ำตาล  10  ลิตร

-        สารเร่ง พด.2

อุปกรณ์ ->

-        ถังน้ำขนาด  200  ลิตร 

-        มีดสับ

-        ค้อนสำหรับทุบ

กระบวนการ/ขั้นตอน->

-   นำเศษพืชผักที่เตรียมไว้มาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ

-        นำเศษกระดูก ก้างปลา ปู หอย กุ้ง มาสับหรือทุบให้ละเอียด

-        นำทั้ง  2  อย่างมาชั่งรวมกันให้ได้  30  กิโลกรัม  ใส่ลงไปในถังพลาสติกที่เตรียมไว้

-        นำสารเร่ง พด.2  มาละลายในน้ำ  10  ลิตร  คนช้า ๆ ให้เข้ากัน (คนไปในทิศทางเดียวกัน)

 ประมาณ  5  นาที  ใส่ลงไปในถังพลาสติก

-        ใส่กากน้ำตาลลงไป เคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาไว้

-        เมื่อครบ  3  วัน  เปิดฝาใช้ไม้คนให้ทั่ว  และคนต่อไปทุก ๆ  7  วัน

-        หมักทิ้งไว้  ประมาณ  22  วัน  นำออกมาใช้ได้

 เมื่อครบกำหนดปุ๋ยจะเริ่มมีกลิ่น

-        สำหรับปุ๋ยหมักที่ผลิตจาก ถั่วเหลือง ปลาสด หรือหอยเชอรี่ ควรหมักไว้อย่างน้อย 1 เดือน จึงนำไปใช้ได้ และในระหว่างหมักให้หมั่นคนส่วนผสมทุกวัน

-        หากมีกลิ่นเหม็นหรือบูดเน่า ให้เติมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันทิ้งไว้ 3-7 วัน กลิ่นเหม็นหรือบูดเน่าจะหายไป

-        แยกกากออกจากน้ำชีวภาพ โดยใช้ถุงอาหารสัตว์ ถุงปุ๋ยเคมี หรือมุ้งเขียว สำหรับกากที่เหลือนำไปคลุมโคนต้นหรือหลุมแปลงต่อ ๆ ไป

ข้อพึงระวัง ->

  การใช้  ต้องผสมในอัตราส่วน  5  CC (หรือ 1 ฝา)  ต่อ  น้ำ  10  ลิตร   ในระหว่างการหมักห้ามปิดฝาภาชนะให้แน่นสนิท เพราะอาจเกิดการระเบิดได้ เนื่องจากในระหว่างการหมักจะเกิดก๊าซชนิดต่าง ๆ ได้