การเพาะเห็ดนางฟ้า
โดย : นางประนอม กระแจะจันทร์ วันที่ : 2017-03-14-00:29:36ที่อยู่ : ๓๑ ม.๑ ต.คลองปูน อ.แกลง จ.ระยอง ๒๑๑๗๐
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ปัจจุบันการดำรงชีวิต มีค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายประจำวัน ประชาชนต้องดิ้นรนที่จะหารายได้เพิ่มเติมจากรายได้หลักที่อยู่ การประกอบอาชีพเสริมจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ประชาชนทั่วไปต้องหามาทำ
การเพาะเห็ดนางฟ้า เป็นอาชีพที่ทำได้ไม่ยากหากมีการให้ความรู้กับประชาชนถึงวิธีการ ทำเชื้อเห็ด การเพาะเลี้ยง ซึ่งสามารถที่จะสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี การเพาะเห็ดนางฟ้าจึงเป็นอาชีพที่สมควรจะนำให้ความรู้กับประชาชนทั่วไป
วัตถุประสงค์ ->
1. เพื่อให้ความรู้กับชาวบ้านภายในเขตเทศบาลเกี่ยวกับการเพาะเห็ดนางฟ้า
2. เพื่อให้ชาวบ้านภายในเขตเทศบาลได้มีรายได้เสริม นอกเหนือจากรายได้หลัก
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
เชื่อเห็ดนางฟ้าในเมล็ดข้าวฟ่าง
เชื้อราข้าวเจ้า
ขี้เลื่อย
ปูนขาว
ดีเกลือ
อุปกรณ์ ->
ถุงร้อนท้ายจีบ
คอพลาสติก/ฝาจุกพลาสติก
ถังนึ่ง
กระดาษหนังสือพิมพ์
แอลกอฮอร์ฆ่าเชื้อ/ตะเกียงแอลกอฮอร์
บัวรดน้ำ
สายยาง
กระบวนการ/ขั้นตอน->
สำหรับวิธีการเตรียมวัสดุเพาะ ให้นำวัสดุทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มาผสมกัน เติมน้ำประมาณ 1 ถัง นำ มาคลุกเคล้ากัน แล้วนำไปอัดใส่ในถุงพลาสติกให้มีน้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม ส่วนที่ปากถุงจะใช้จุกพลาสติกปิดเพื่อให้เห็ดสามารถออกดอกได้สะดวก
จากนั้น นำวัสดุที่เตรียมแล้ว ไปเข้าห้องเตาอบไอน้ำทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง จึงน้ำออกมากจากเตาอบ แล้วมาเขี่ยเชื้อเห็ดใส่ลงในถุง จากนั้นตั้งผึ่งลมไว้ในที่โล่งโปร่งประมาณ 1 เดือน สังเกตดูจะเห็นเชื้อเห็ดเจริญเติบโตกระจายเต็มถุง แล้วจึงนำไปไว้ในโรงเรือนเพาะเห็ด
โรง เรือนเพาะเห็ดต้องเป็นโรงเรือนปิดทึบ และมีความชุ่มชื้น สำหรับวิธีการในการทำให้โรงเรือนมีความชุ่มชื้น ทำได้โดยการใช้น้ำรดวันละ 3 ครั้ง คือ เช้า กลางวัน และเย็น หลังจากนั้นไม่นาน เห็ดก็จะออกดอกและสามารถจะเก็บผลผลิตได้ทุกวันติดต่อกัน
ข้อพึงระวัง ->
ปัจจัยการผลิต และการดูแลรักษา
โดยธรรมชาติในการเจริญเติบโตของเห็ดนางฟ้า นับตั้งแต่เกิดดอก จนกระทั่งพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้ จะใช้เวลาประมาณ 5 – 7 วัน การเกิดดอกเห็ดก็คือ การที่เส้นใยได้มีการเปลี่ยนรูปมาอัดตัวกันสร้างดอกเห็ดขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมเหมาะสมผลผลิตและคุณภาพของดอกเห็ดจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. อุณหภูมิ
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ดนางฟ้า คือ ประมาณ 24- 26 องศาเซลเซียส ดอกเห็ดจะออกดอกเร็วมาก อาจกล่าวได้ว่าเห็ดนางฟ้าขึ้นได้ดีในหน้าฝนดีพอสมควรในหน้าร้อนดีมากในหน้าหนาว ไม่หนาวจัดจนเกินไป ถ้าหนาวจัดก็จะชะงักการเจริญเติบโตและสีซีด ดังนั้น ภาคกลางและภาคใต้ ปลูกได้ทุกฤดู ตลอดปี ภาคเหนือและภาคอีสานจะให้ผลดีในฤดูฝน
2. อากาศ
เห็ดเป็นจุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเวลาเกิดดอกเห็ดจะต้องการออกซิเจนมาก ทั้งระยะเป็นดอกเห็ดและระยะเป็นเส้นใย
3. ความชื้น
จุลินทรีย์ทั่วๆ ไปชอบความชื้นสูง แต่สำหรับเห็ด เมื่อเทียบกันแล้วก็ทนแล้งได้ดีกว่าจุลินทรีย์อื่น การเพิ่มความชื้นในวัตถุเพาะทำ ได้โดยการรดน้ำ แต่ต้องระวังมิให้มากเกินไปเพราะจะทำ ให้เส้นใยชะงักการเจริญหรือเปียกเกินไป ความชื้นในอากาศ ทำ ได้โดยการพ่นละอองน้ำในอากาศน้ำที่ใช้รดควรเป็นน้ำสะอาดปราศจากสารเคมี และสิ่งสกปรกปนเปื้อน เช่น น้ำ ฝน น้ำ คลอง น้ำ บ่อ และน้ำ บาดาล น้ำ ที่ใช้รดเห็ดนางฟ้าควรเป็นกลาง ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ที่เหมาะควรเป็นประมาณ 7 ถ้าสามารถ นำ น้ำ ตัวอย่างประมาณ ไปตรวจวิเคราะห์ที่หน่วยงานด้านเกษตร เช่น กรมวิชาการเกษตร กรมที่ดิน เพื่อขอคา แนะนำ ได้ก็จะเป็นการดียิ่ง
4. แสง
เห็ดทุกชนิดไม่สามารถปรุงอาหารเองได้ ต้องอาศัยอาหารจากพืชต่างๆ ดังนั้น แสงจึงไม่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเห็ด โดยเฉพาะในระยะที่เส้นใยกาลังลามทั่วก้อนหากมีแสงสว่างมากจะทำ ให้เส้นใยเจริญเติบโตช้าลง ฉะนั้นในระยะของการบ่มก้อนเชื้อเพื่อเลี้ยงเส้นใย ควรทำในโรงเรือนที่มีแสงสว่างน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามแสงก็มีความจำเป็นในการกระตุ้นให้เส้นใยรวมตัวกันเพื่อให้เกิดดอกเห็ดได้เร็วขึ้น ในระยะเห็ดออกดอกหากมีแสงน้อยเกินไปหรือไม่เพียงพอ จะทำ ให้ดอกเห็ดไม่สมบูรณ์ได้ เห็ดนางฟ้าถ้าถูกแสงแดดส่องบ้างก็เจริญ เอนเข้าหาแสง ในช่วงนี้จึงต้องการแสงปานกลาง แสงที่เหมาะคือ ขนาดพอที่จะอ่านหนังสือออกก็พอ และแสงสีน้ำ เงินจะมีผลต่อการออกดอกของเห็ดมากกว่าสีอื่น
5. ความสะอาด
เมื่อเปิดปากถุง และนำก้อนเชื้อไปวางบนชั้นในโรงเพาะแล้ว สิ่งที่ต้องเอาใจใส่ระมัดระวังมากที่สุด คือ ความสะอาด โรงเรือนที่ไม่สะอาดจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ที่เป็นผลเสียต่อเห็ดได้ เช่นโรงเรือนที่มีโรค และแมลงศัตรูเห็ด แล้วระบาดทำ ให้ก้อนเชื้อ และดอกเห็ดเสียหายหมดทั้งโรงเรือน