เพาะพันธุ์ยางพารา (ติดตายาง)
โดย : นายวัชรินทร์ พรหมเนตร วันที่ : 2017-03-31-23:42:53ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 8 ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง 85110 เบอร์โทร 085-7907244
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เนื่องจากในปัจจุบันมีการทำสวนยางพารากันอย่างแพร่หลายและบางครั้งต้นยางพารามีจำนวนที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนในชุมชน จึงต้องมีการคิดค้นในการเพิ่มจำนวนของต้นยางพาราเพื่อให้พอกับต่อความต้องการและสามารถลดต้นทุนการผลิต วิธีการเพิ่มจำนวนของยางพาราคือการติดตายาง เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชที่นำเอาส่วนตาหรือกิ่งของพืชต้นหนึ่ง ซึ่งเป็นพืชพันธุ์ดีหรือ กิ่งพันธุ์ดี ไปติดเข้ากับพืชอีกต้นหนึ่ง เพื่อให้ตาของพืชเจริญเติบโตเป็นพืชต้นใหม่ต่อไป วิธีนี้ก็สามารถเพิ่มจำนวนต้นยางพาราได้เป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี
วัตถุประสงค์ ->
เพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้
2. เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. กิ่งตายางพารา
2. ต้นกล้ายางพารา
อุปกรณ์ ->
1. กรรไกรตัดกิ่งตา
2. ถุงพลาสติกใส่กิ่งตา
3. แถบพลาสติกใส ขนาดกว้าง 5/8 นิ้ว หนา 0.05 มิลลิเมตร
4. หินลับมีด
5. เศษผ้าสำหรับทำความสะอาดต้นยางพารา
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. เลือกต้นกล้าที่มีความสมบูรณ์ ทำความสะอาดโคนต้นกล้าด้วยเศษผ้า โดยการเช็ดสิ่งสกปรกและทรายออกต้นกล้า
2. เปิดรอยกรีดโดยใช้ปลายมีดกรีดตามความยาวลำต้น จำนวน 2 รอย ความยาว 7 ถึง 8 เซนติเมตร ห่างกันประมาณ 1 เซนติเมตร ให้ส่วนล่างของรอยกรีดสูงจากพื้นดิน ประมาณ 1 ถึง 2 เซนติเมตร แล้วใช้มีดกรีดเป็นแนวขวางกับรอยกรีดโดยให้ด้านบนให้เชื่อมติดกัน แล้วใช้ปลายมีดหรือด้ามงาบแคะเปลือกบริเวณมุมแล้วลอกเปลือกลงข้างล่างจนสุด จากนั้นตัดเปลือกที่ดึงออกให้เหลือเป็นลักษณะของลิ้นสั้นๆ ความยาวประมาณ 1 ถึง 1½ เซนติเมตร
3. เตรียมแผ่นตาที่ได้จากกิ่งตาเขียว ใช้มีดคมเฉือนออกอย่างเบามือ โดยเริ่มจากด้านปลายไปยังด้านโคนโดยให้ติดเนื้อไม้บาง ๆ อย่างสม่ำเสมอตลอดแนวยาว ความยาวประมาณ 8 ถึง 9 เซนติเมตร และให้มีตาอยู่ตรงกลางแผ่น ความกว้างของแผ่นตากะประมาณให้พอดีกับความกว้างของรอยแผล และเปิดเปลือกบนต้นกล้า หากการเฉือนแผ่นตาหนาให้มีความหนามากเกินไปจะทำให้ลอกออกยาก เนื่องจากแผ่นตาเขียวช้ำได้ง่าย ดังนั้นก่อนก่อนเฉือนแผ่นตาต้องแน่ใจว่ามีดคมและสะอาดพอ
4. แต่งแผ่นตาทั้ง 2 ข้างให้มีลักษณะบาง ๆ ขนาดพอให้แผ่นตาเข้ากับรอยเปิดกรีดบนต้นตอ จากนั้นก็ตัดปลายด้านล่างออก
5. ลอกแผ่นตาออกจากเนื้อไม้ โดยการใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างจับปลายด้านบนของแผ่นตา ใช้นิ้วกลางประคองแผ่นตาส่วนล่างแล้วค่อย ๆ ลอกเนื้อไม้ออกจากเปลือกแผ่นตา โดยพยายามอย่าให้ส่วนที่เป็นเปลือกโค้งงอ หรืออีกวิธีหนึ่งใช้การลอกด้วยปากโดยใช้มือข้างหนึ่งจับแผ่นตาไว้ แล้วหันด้านปลายแผ่นตาที่ยังไม่ตัดเข้าหาปาก ใช้ฟันยึดส่วนที่เป็นเนื้อไม้แล้วใช้หัวแม่มือกับนิ้วชี้ของมืออีกข้างหนึ่งจับเปลือกด้านล่างไว้ แล้วค่อยๆ ลอกเนื้อไม้ออกจากเปลือกแผ่นตา พยายามไม่ให้เปลือกโค้งงอเช่นกัน ตรวจดูแผ่นตาที่ลอกเสร็จ หากแผ่นตาซ้ำหรือจุดเยื่อเจริญหลุดหรือแหว่งหรือไม่สมบูรณ์ก็ให้ทิ้งไป ใช้เฉพาะแผ่นตาที่สมบูรณ์เท่านั้น
6. สอดแผ่นตาที่ลอกเนื้อไม้ออกแล้วนี้ใส่ลงในลิ้นเปลือกต้นตอเบา ๆ อย่างรวดเร็ว และในขณะที่ใส่ระวังอย่าให้แผ่นตาถูกเนื้อไม้ เพราะจะทำให้แผ่นตาและเยื่อราเกิดอาการช้ำได้ และตัดส่วนของแผ่นตาที่เกินอยู่ข้างบนทิ้งหรือจะทิ้งไว้ เพื่อรอตัดออกในขณะที่พันผ้าพลาสติกก็ได้
7. พันแผ่นตาด้วยแผ่นพลาสติกใส ขนาดความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร โดยพันจากด้านล่างขึ้นข้างบนให้แผ่นตาแนบกับแผลรอยเปิดของต้นกล้า และให้ขอบพลาสติกทับกันสูงขึ้นไปจนเหนือรอยตัดตา 2 ถึง 3 รอบ ผูกพลาสติกให้แน่นโดยการสอดปลายเข้าไปในพลาสติกรอบสุดท้ายแล้วดึงให้แน่น
8. ตรวจสอบความเรียบร้อยพร้อมทั้งปักป้ายแสดงวันที่ติดตา ชื่อพันธุ์ยางพาราและจำนวนต้น หลังจากนั้นอีก 21 วัน ให้ตรวจดูความเจริญเติบโต หากแผ่นตายังคงมีสีเขียวแสดงว่าการติดตาประสบผลสำเร็จ ให้ใช้มีดกรีดพลาสติกบริเวณด้านตรงข้ามเพื่อไม่ให้พลาสติกหลุดออกจากแผ่นตา แต่หากแผ่นตาเปลี่ยนเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล แสดงว่าการติดตาไม่ประสบผลสำเร็จ ให้ใช้มีดกรีดพลาสติกด้านหลังออกเพื่อทำการติดตาซ้ำหลังจากตรวจผลสำเร็จและเมื่อนำพลาสติกออกแล้ว ปล่อยให้ต้นที่ติดตาอยู่ในแปลงไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ก่อนที่จะถอนไปปลูกหรือตัดต้นยางพาราทีมีอยู่เดิมทิ้ง
ข้อพึงระวัง ->
1. ไม่ควรติดตาในเวลาที่มีอากาศร้อนจัด
2. การนำกิ่งตาไปติดตาแต่ละครั้ง มีจำนวนไม่เกินกว่า 30 กิ่ง
3. เลือกติดตาเฉพาะต้นตอที่มีความสมบูรณ์
4. มีดที่จะทำการติดตาจะต้องคมอยู่เสมอ
5. อย่าให้แผ่นตาช้ำหรือปล่อยให้น้ำเลี้ยงแห้ง
6. พันแผ่นตาให้แน่นอย่าให้น้ำเข้าไปได้