การเลี้ยงผึ้ง
โดย : นายวิชัย เสือวิเศษ วันที่ : 2017-03-31-14:50:41ที่อยู่ : 21/5 หมู่ที่ 5 ตำบลเชี่ยวเหลียง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
นายวิชัย เสือวิเศษ เป็นคนดั่งเดิมในพื้นที่บ้านนาใน ตำบลเชี่ยวเหลียง เป็นเกษตรกร สวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน ด้วยลักษณะนิสัยที่ชอบการทำเกษตร และสภาพพื้นที่บ้านเอื้ออำนวยต่อการประกอบอาชีพ จากการสังเกตในสวนผลไม้ มักมีผึ้งโพรง จึงได้เกิดความคิดในการเลี้ยงผึ้งโพรง และได้ลองผิดลองถูก จนปัจจุบันเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้งามให้กับครอบครัวและคนบริเวณโดยรอบ
วัตถุประสงค์ ->
1. สร้างรายได้เสริมจากการประกอบอาชีพหลัก
2. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
3. ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
4. สร้างสมดุลของระบบนิเวศน์
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. เสาไม้หรือเสาซีเมนต์
2. ไม้กระดาน
3. สังกะสี หรือ กระเบื้อง
4. ตะปู
อุปกรณ์ ->
๑.ฆ้อน
๒.เหล็กฉาก
๓.เหล็กชะแลง
กระบวนการ/ขั้นตอน->
วิธีการทำให้ผึ้งเข้ารัง
1. เอารังผึ้งที่คั้นน้ำผึ้ง (ขี้สา) มาชุปกับน้ำผึ้ง จำนวน 1 ก้อน
2. ทาบริเวณภายในรังผึ้งให้ทั่วถึง เพื่อล่อผึ้งเข้ารัง
เทคนิคในการรวมรังผึ้ง
ในกรณีที่เราตรวจพบว่ารังใดขาดนางพญา มีนางพญาแต่ไม่ดี หรือเป็นรังที่อ่อนแอ
ให้ทำลายนางพญานั้นทิ้ง จากนั้นก็นำไปรวมกับรังอื่น โดยวิธีที่นิยมใช้กันมากก็คือ การใช้กระดาษหนังสือพิมพ์คั่นระหว่างรัง ให้ปฏิบัติดังนี้
1. ให้เลือกทำการรวมรังให้เป็นเวลาเย็นหรือพลบค่ำ
2. เตรียมกระดาษหนังสือพิมพ์ 1 แผ่น ให้มีขนาดความกว้างยาวเท่ากับตัว กล่องรัง
ผึ้ง หรือใหญ่กว่าเล็กน้อย ใช้ของแหลมขนาดเล็ก เช่น ปากกาลูกลื่นแทงกระดาษหนังสือพิมพ์ให้เป็นรูเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วไป
3. เปิดฝารังและแผ่นปิดรังด้านในออก (รังผึ้งที่แข็งแรงตั้งไว้ด้านบน) เอา กระดาษ
หนังสือพิมพ์ที่จัดเตรียมไว้วางคลุมทาบลงไปด้านบน
4. นำรังผึ้งที่จะนำไปรวมรังซ้อนขึ้นข้างบนเหนือแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์แล้ว ปิดฝา
รังด้านบน
5. ประมาณ 1-2 วัน เปิดตรวจเช็ครังผึ้งดู ผึ้งทั้งสองรังจะกัดแผ่นกระดาษ
หนังสือพิมพ์ทะลุเข้าไปหากัน เก็บเศษกระดาษหนังสือพิมพ์ออก ผึ้งทั้งสองรังจะยอมรับซึ่งกันและกัน และจะทำงานเป็นปกติ ให้จัดการรวมผึ้ง 2 รัง เข้าด้วยกันโดยจัดเรียงคอนต่าง ๆ เสียใหม่ และนำรังผึ้งด้านบนออก
ศัตรูของผึ้ง
การเลี้ยงผึ้งโพรงนั้นนอกจากผู้เลี้ยงผึ้งจะประสบปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดการรัง
ผึ้งแล้ว ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำความเสียหายให้กับผึ้งที่เลี้ยงก็คือปัญหา เรื่องโรคและแมลงที่เป็นศัตรูของผึ้ง ซึ่งแบ่งออกเป็น
1. พวกสัตว์ที่กินผึ้งเป็นอาหารได้แก่ แมงมุม จิ้งจก ตุ๊กแก คางคก กบ อึ่งอ่าง นกต่าง ๆ เช่นนกกิ้งโครง นกแอ่นลม
กิ้งก่า จิ้งเหลน เป็นต้น สัตว์เหล่านี้จะจับกินผึ้งเป็นอาหาร เมื่อพบในแหล่งเลี้ยงผึ้งให้กำจัดทิ้งหรือไล่ไป และทำความสะอาดรังอยู่เสมอ
2. พวกแมลง- หนอนผีเสื้อกินไขผึ้ง (Wax Moth) เป็นศัตรูที่สำคัญของผึ้งโพรงและพบในรังผึ้งที่
อ่อนแอ มีประชากรน้อย ตัวแก่เป็นผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่ง มาวางไข่ในรังผึ้งที่อ่อนแอ มีประชากรน้อย ตัวแก่เป็นผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่งมาวางไข่ในรังผึ้ง ตัวอ่อนซึ่งเป็นตัวหนอนจะไปกัดกินรวงผึ้งให้เสียหาย ป้องกันโดยทำให้ประชากรผึ้งแข็งแรง
- มดต่าง ๆ จะเข้าไปกัดกินตัวอ่อน ตัวแก่ตัวผึ้งและจะขโมยน้ำผึ้งในรัง ป้องกัน
โดยการใช้เศษผ้าชุบน้ำมันเครื่องเก่าพันรอบเสาหรือขาตั้งรังผึ้ง
- ปลวก จะดักกินรังผึ้งทำให้รังเลี้ยงผึ้งผุกร่อนพังไปไม่สามารถใช้เลี้ยงผึ้งได้ ให้
หมั่นตรวจทำความสะอาดรังผึ้งอย่างสม่ำเสมอ
- ไร ซึ่งดำรงชีวิตแบบตัวเบียนจะดูดกินของเหลวภายในตัวผึ้งหรือเลือดผึ้ง ไรที่
เป็นศัตรูของผึ้งโพรง คือ ไรวาร์รัว ผึ้งที่ถูกไรเบียนถ้ารอดชีวิตอยู่ได้จะพิการ รูปร่างผิดปกติ ปีกไม่แผ่ออกในสภาพปกติตามธรรมชาติ ผึ้งโพรงจะมีความต้านทานต่อการระบาดของไรศัตรูผึ้ง โดยจะพบเห็นไรถูกผึ้งงานกัดทำลาย และถ้าในรังผึ้งโพรงมีไรระบาดมาก ผึ้งโพรงจะย้ายทิ้งรัง การใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดไรจึงไม่จำเป็นสำหรับการเลี้ยงผึ้งโพรง
3. โรคผึ้งโรคของผึ้งโพรงที่พบมากคือโรคแซดบรูคที่ระบาดในท้องที่ภาคใต้ เกิดจาก เชื้อไวรัส
ลักษณะของโรคตัวอ่อนจะตายก่อนปิดฝาและระยะปิดฝา ตัวอ่อนมีสีขาวขุ่นถึงเหลืองหรือน้ำตาลเข้ม ต่อมาจึงค่อย ๆ แห้ง โดยส่วนหัวจะหด ส่วนท้ายจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นถุงน้ำ การรักษาและป้องกันกำจัดโดยวิธีทำให้รังผึ้งแข็งแรงต้านทานโรค เปลี่ยนรวงตัวอ่อนที่เป็นโรคทิ้ง นำไปเผาทำลายทิ้งและเปลี่ยนนางพญาใหม่ เพราะอาจเกิดการแพร่เชื้อจากการวางไข่ของผึ้งนางพญา โดยการถ่ายทอดเชื้อทางกรรมพันธุ์
การจับผึ้งเพื่อเก็บน้ำผึ้ง
การจับผึ้งนั้นจะต้องจับช่วงแล้งเท่านั้น ประมาณเดือน 5 ของปี ต้องให้ผึ้งเข้ารังอย่างน้อย 6-8 เดือน ห้ามจับผึ้งช่วงฤดูฝนแดดขาด เพราะผึ้งจะมีความดุ และความหวานของน้ำผึ้งจะน้อยกว่าปกติ
ข้อพึงระวัง ->
ต้องกันอย่าให้มดเข้าในรังผึง