เห็ดฟาง”จากทะลายปาล์ม
โดย : นายสัมพันธ์ ทองบุญชู วันที่ : 2017-03-28-11:19:59ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 4 ตำบล จ.ป.ร. อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง เบอร์โทร 0971469586
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การเพาะเห็ดฟางสามารถใช้วัสดุเพาะได้หลายชนิด เช่น เปลือกถั่วเขียว กาก มันสำปะหลัง ผักตบชวา ชานอ้อย ขี้เลื่อยไม้ยางพารา และทะลายปาล์มน้ำมัน ก็เป็นวัสดุชนิดหนึ่งที่นิยมใช้มากโดยเฉพาะในภาคใต้ หาได้ง่าย จึงทดลองนำทะลายปาล์มมาเพาะเห็ดฟางดู และก็ได้ผลจริงๆ เพราะทะลาย ปาล์มสามารถนำมาเพาะเห็ดฟางได้ดี ไม่แพ้กับการเพาะด้วยฟางข้าว” และที่สำคัญ ที่สุดได้มีการนำทะลายปาล์มมาเพาะเห็ดในสวนยางพารา เป็นการใช้ พื้นที่ที่มีอยู่มาให้เกิดประโยชน์ และเป็นการเกื้อกูลกันของพืช ได้ผล ประโยชน์ร่วมกันระหว่างยางพาราและเห็ดด้วย เพราะต้นยางพาราสามารถสร้างร่ม เงาและแสงแดงรำไรช่วยให้เห็ดเจริญเติบโตได้ดีขึ้น และเมื่อเห็ดหมดดอก ทะลาย ปาล์มก็จะกลายมาเป็นอาหารอย่างดีให้กับต้นยางพาราด้วย
วัตถุประสงค์ ->
1. เพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้ครอบครัว
2. เพื่อเป็นการนำวัตถุดิบมาแปรรูปสร้างมูลค่า
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. ทะลายปาล์ม
2. เชื้อเห็ดฟาง หรือเห็ดอื่น ๆ ที่ต้องการ
อุปกรณ์ ->
๑. ผ้าพลาสติกความยาว ม้วนละ 70 เมตร
๒. ไม้ไผ่ สำหรับขึงผ้าพลาสติก
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. นำทะลายปาล์มมากองรวม ล้อมกันเป็นวงกลม โดยจะฉีดน้ำ 2 วันต่อหนึ่งครั้ง คลุมด้วยผ้าพลาสติก รอประมาณ 3-7 วัน (เพื่อให้ทะลายปาล์มชุ่มน้ำ) นำเอามาใช้ได้
2. เตรียมพื้นที่โดยการถางหญ้ารอบ ๆ สวนยางออก จะใช้พื้นที่ระหว่างต้นยางในการเพาะเห็ด ซึ่งการเพาะเห็ดจะต้องใช้พื้นที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก หากปลูกในพื้นที่โล่งมาก แดดส่องจ้า ต้องมีการกรองแสงด้วย
3. นำทะลายปาล์มมาวางเป็นร่องตามช่องว่างของต้นยาง ความยาวประมาณ 5 เมตร ฉีดน้ำลงบนทะลายปาล์ม เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก
4. โรยเชื้อเห็ด ลงบนร่องที่เตรียมไว้ โดย 1 ร่อง ใช้เชื้อ 3 ก้อน โรยเชื้อก้อนละ 1 เมตร
5. รอประมาณ 3 วัน ขึ้นโคลงไม้ไผ่ เป็นแนวไว้สำหรับขึงผ้าพลาสติก ประมาณ 4-5 โคลง โค้งเป็นแนวยาว
6. คลุมผ้าพลาสติกตามแนวโคลงไม้ไผ่ 1 ร่อง ใช้ผ้าพลาสติกประมาณ 7 เมตร
7. รอประมาณ 7 – 9 วัน เห็ดก็จะงอก สามารถเก็บไปขายได้
การดูแลรักษา :
การระบายความร้อน หลังจากเพาะเห็ดแล้ว 4-5 วัน ให้เปิดชายผ้าพลาสติกออกบ้างเพื่อระบายความร้อนออกจากกองเห็ดบ้าง เพราะถ้าอากาศร้อนเกินไปเส้นใยเห็ดจะไม่รวมตัวเป็นดอก นอกจากช่วยระบายความร้อนแล้วยังเป็นการเพิ่มอากาศให้กับเห็ดอีกด้วย
การให้น้ำ :
พยายามให้ความชื้นแก่กองเห็ดอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง พยายามพ่นน้ำให้เป็นฝอยลงบนกองเห็ดพอชุ่มชื้น
การเก็บเกี่ยว :
เมื่อดอกเห็ดโตพอได้ขนาดที่ตลาดต้องการจึงเริ่มเก็บ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้ดอกบานเพราะจะทำให้ราคาเสียได้ การเก็บดอกเห็ด จะเก็บได้หลังจากเพาะเห็ดแล้ว 7 วัน ขึ้นอยู่กับความร้อนและฤดูกาล ในฤดูร้อนและฤดูฝนจะเก็บเห็ดได้เร็ว แต่ถ้าเป็นฤดูหนาวจะเก็บได้ช้า เห็ดจะออกดีในช่วงเดือนมีนาคม-กรกฎาคม และควรเลือกเก็บเฉพาะดอกเห็ดที่ตูม จะทำให้ได้เห็ดที่มีคุณภาพดี
วิธีการเก็บดอกเห็ด :
ให้ใช้นิ้วชี้กดดอกเห็ดแล้วหมุนเล็กน้อยยกขึ้นเบาๆ ดอกเห็ดก็จะหลุดออกมาโดยง่าย ถ้าดอกเห็ดออกเป็นกลุ่มให้สังเกตดูว่าในกลุ่มนั้นมีดอกโตพอประมาณที่จะเก็บ ได้มากกว่าดอกขนาดเล็กก็ควรเก็บได้เลยทั้งกลุ่ม และขณะเก็บดอกเห็ดไม่ควรกระทบกระเทือนดอกที่ยังเก็บไม่ได้เพราะอาจทำให้ดอก เห็ดอื่นช้ำและฝ่อได้ เมื่อเก็บเห็ดออกมาแล้ว ต้องตัดแต่งเอาเศษวัสดุที่ติดมาออก เพื่อความสวยงาม แล้วจึงใส่ภาชนะนำส่งขายต่อไปเพื่อให้ได้ราคาดี
ข้อพึงระวัง ->
น้ำที่ใช้รดเห็ดจะต้องเป็นน้ำจืด ไม่มีคลอรีนเจือปน ไม่เป็นน้ำกร่อย น้ำเค็ม ระวังน้ำเค็มไม่สามารถจะใช้รดเห็ดได้ เพราะเห็ดจะไม่ออกดอก