ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

โดย : นางพนิดา พริ้มเพรา วันที่ : 2017-03-26-11:25:30

ที่อยู่ : 33/3 หมู่ที่ 5 ตำบลนาคา

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เนื่องจากญาติผุ้ใหญ่ที่บ้านเป็นภูมิแพ้ ได้รับคำแนะนำจากผู้ที่เคยบริโภคน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นแล้วมีอาการดีขึ้น จึงทำให้มีความสนใจและได้เริ่มศึกษาหาความรู้และวิธีทำจากผู้รู้ โดยได้ขอคำแนะนำและวิธีการทำ มาทำเองในครัวเรือน

วัตถุประสงค์ ->

1. เพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับครัวเรือน

2. เพื่อบริโภคในครัวเรือนและแจกจ่ายให้เพื่อนบ้านในชุมชน

3. เป็นการนำวัตถุดิบที่มีในครัวเรือนมาใช้ประโยชน์

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. มะพร้าวแก่

2. น้ำอุ่น

อุปกรณ์ ->

1. กระทะ

2. ผ้าขาวบาง

3.กระชอน

4. หม้อ

5. สลิงค์ สำหรับใช้ดูดนำมัน

 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

เนื้อมะพร้าว แก่  ขูดเองหรือซื้อมา ใช้ เนื้อมะพร้าว 1 ส่วน น้ำ 1 ส่วน คั้นด้วยน้ำอุ่น แล้วกรองใส่ภาชนะหมัก ภาชนะใส เพื่อมองเห็นการแยกชั้น ของกะทิที่จะเป็นน้ำมัน  ปิดฝาตั้งวางไว้ในห้องอุณภูมิปกติ ในบ้าน

 

( ถ้าซื้อหัวกะทิโดยไม่ผสมน้ำมาจากแม่ค้า เทหัวกะทิใส่ ภาชนะใส แล้วเติมน้ำอุ่นเกือบร้อน ลงในอัตราส่วน 1:1 ปิดฝา) ใช้เวลา 9-18 ชั่วโมง จะมองเห็นการแยกชั้นชัดเจน(ได้น้ำมันช้าหรือเร็ว อยู่ที่อากาศ และมะพร้าวแก่หรือไม่ด้วย และทุกขั้นตอนต้องสะอาดหมด)

 

   คือมองจากชั้นบน  1.ชั้นฝ้า 2.ชั้นน้ำมันใส 3.ชั้นครีมโปรตีนกะทิ  4.ชั้นน้ำหมัก  5.ชั้น โปรตีนกัม  (ถ้าครบ 18 ชม.ลืมกรองหรือไม่ว่างกรองก็ไม่เป็นไร วางไว้ที่เดิมตัวน้ำมันจะคงที่ไม่เป็นไรแต่อย่าให้นานเกิน )

 

  เมื่อแยกชั้นดีแล้วเตรียมภาชนะกรอง โดยใช้ผ้าขาวบางพับ 6-8 ชั้น มากชั้นน้ำมันยิ่งใส วางบนกระชอนหรือที่กรองมีภาชนะรองด้านใต้

 

(ถ้าหมัก 9 ชั่วโมงแล้วไม่เกิดน้ำมันใส ให้ตักครีมกะทิชั้นบนทั้งหมดเคี่ยวไฟอ่อนแบบโบราณ ก็จะได้น้ำมันใส คุณประโยชน์เหมือนกันแต่กลิ่นหอมกว่า สกัดเย็น)

 

         เปิดฝ้าตักน้ำมันใสใส่บนผ้าขาวบาง ในส่วนที่คิดว่าไม่มีน้ำติดขึ้นมานี้เมื่อกรองเสร็จ ใช้ได้ทันที แยกใส่ขวดไว้ต่างหาก   ส่วนที่เหลือ ชั้น 3 บนน้ำหมักก็ตักขึ้นกรอง ชึ่งจะตักง่ายจะแยกจากน้ำชัดเจน  หรือจะตักพรัอมกันครั้งเดียวก็ได้ 3 ชั้นกรอง ห้ามคนหรือบี้ครีมปล่อยให้ค่อยๆหยดเอง เพราะจะทำให้น้ำมันขุ่น (น้ำหมักใสออกขุ่น และโปรตีนกัมนอนก้น ทิ้งไปหรือทำปุ๋ย หรือทำน้ำส้มสายชู )

 

    เมื่อน้ำมันหยดหมดแล้ว น้ำมันที่ได้ ทำการเอาน้ำออกจากน้ำมันที่มีติดมา ได้ 2 วิธี

 

     1. ยกน้ำมันใส่ตู้เย็น เมื่อน้ำมันแข็ง นำออกมา แล้วเจาะหรือดันก้อนน้ำมันขึ้นจะเห็นน้ำให้เอาทิ้งไป ถ้าน้ำมันมีน้ำปนอยู่จะขึ้นราดำ และเหม็นตึๆถึงแม้จะใส่ตู้เย็นก็ตาม  ไม่ควรเก็บไว้หลายวันใช้ให้หมดเร็ว ถ้าเก็บไว้นานต้องทำวิธีที่ 2

 

   2.    ทำการระเหยน้ำเพื่อไม่ให้น้ำมันเหม็นไม่ขึ้นรา และเก็บได้นาน โดย ตั้งหม้อน้ำรัอนให้เดือดเบาๆ วางตะแกรง   (หรือใช้หม้อซึ้ง) แล้วนำน้ำมันที่ได้วางบนใช้ช้อนหรือทัพพีคนจะมีฟองอากาศเดือดปุดๆ คนไปมาจนไม่มีฟองอากาศปุด ก็ยกขี้น ตั้งวางไว้ สักพ้กน้ำมันใช้ได้ทันที

      แต่ถ้าจะเก็บไว้นานๆให้ตั้งวางไว้ประมาณ 7 วัน  น้ำมันที่ระเหยน้ำหมดสามารถเก็บได้นานมากกว่า 1 ปี ได้ปกติคงที่   จนแน่ใจว่าน้ำระเหยออกหมดแล้วโดยตั้งวางจนใส ค่อยบรรจุขวด เป็นของฝาก ของเยี่ยมคนไข้ได้  เพราะมีประโยชน์มากหลายอย่าง  ต่อทุกคนทุกวัย  

 

(กรณีทำแล้วน้ำมันยังขุ่นจากการระเหยน้ำ ให้ยกหม้อน้ำร้อนไปตั้งในกล่องโฟมหรือกระติกให้อุณหภูมิประมาณ 50 องศาฯ ยกน้ำมันไปวางคู่ก้บหม้อน้ำรัอนที่ปิดฝา รอจนน้ำมันใส ก็ใช้ได้หรือไม่ใสก็ใช้ได้เหมือนกัน)

 

*  ส่วนที่อยู่บนผ้าขาวบางให้เทลงใส่กะทะ พร้อมบิดผ้าขาวบางที่มีน้ำมันลงในกะทะ เปิดไฟอ่อนที่สุด เคี่ยวคนไปมา อย่าให้ติดกะทะ จนเป็นน้ำมันใส พอเนื้อครีมกะทิเกรียมก็ปิดไฟ

 

       พอน้ำมันเย็นก็เทกรองบนผ้าขาวบาง 3-4 ชั้น กรองให้ใสที่สุด และห่อกากน้ำมันบีบ น้ำมันออกให้หมด  ก็จะได้น้ำมันอีกส่วนหนึ่ง ใช้ได้เหมือนกันแต่จะหอมมากขึ้น (การทำน้ำมันหน้าหนาวหากผ้าขาวบางแข็งให้ต้มผ้าแล้วค่อยซัก)

 

ข้อพึงระวัง ->

ทุกขั้นตอนการทำต้องสะอาด มะพร้าวต้องแก่ สมบูรณ์

 ไม่มีงอก ไม่ใกล้เสีย  ไม่มีสิ่งเจือปน ถึงจะสกัดได้น้ำมันมะพร้าว

 

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดระนอง
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา