การปลูกกล้วยปากช่อง 50 อินทรียซ์
โดย : นายชาติชาย บุญคาร วันที่ : 2017-09-21-11:11:37ที่อยู่ : 79
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
กล้วยเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและเป็นที่นิยมบริโภคของคนไทย
วัตถุประสงค์ ->
เพื่อเป็นแหล่งเรียรู้และเพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1.ดิน
2.หน่อกล้วยปากช่อง 50
3.ปุ๋ยหมัก
อุปกรณ์ ->
1.จอบ/เสียม
2.ถังน้ำ
3.บุ้งกี๋
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. คัดเลือกต้นพันธุ์ที่มีขนาดความสูง 15 ซม.ขึ้นไปหรือมีเส้นรอบวงต้นมากกว่า 3.5 ซม. หากต้นเล็กกว่านี้จะพบปัญหาเรื่องการดูแล และอัตราการตายสูง
2. เตรียมแปลงปลูกระยะ 3x3 หรือ 4x4 เมตร ขนาดหลุมปลูก 50x50x50 ซม. เพื่อให้ระบบรากเดินดี ขึ้นโคนช้า(โคนลอย) ระยะปลูกขึ้นกับการดูแลรักษา ถ้าดูแลดีกอกล้วยจะใหญ่ควรปลูกระยะ 4x4 เมตร หนึ่งกอควรไว้เพียง 4 ต้นเท่านั้น
3. คลุกเคล้าปุ๋ยคอกผสมดินประมาณหลุมละ 2 กก.รองก้นหลุมขึ้นมาประมาณ 30 ซม. แล้วจึงปลูกต้นกล้วยและกลบบริเวณโคนต้นให้แน่น ทำแอ่งดินรอบต้นเพื่อเก็บน้ำรักษาความชื้นของดินและควรลองก้นหลุมด้วยฟูราดานป้องกันหนอนกอกล้วยประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อหลุม
4. ปลูกเสร็จให้น้ำตามทันทีให้ชุ่มชื้นพอเพียง ไม่เช่นนั้นต้นจะเหี่ยวเฉา ใบแห้งและยุบตัว บางต้นตาย บางต้นแตกต้นใหม่ขึ้นแทนทำให้อายุต้นไม่สม่ำเสมอกัน
5. ในระยะเดือนแรกต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและดินต้องชุ่มชื้นเพียงพอ เป็นเดือนที่ต้องเอาใจใส่อย่างมาก หากเป็นการให้น้ำแบบฝอย(มินิสปริงเกอร์) จะทำให้ต้นตั้งตัวได้เร็ว สามารถสร้างใบและลำต้นใหม่ได้ดี โอกาสรอดสูงกว่าการลากสายยางรดน้ำ และเริ่มให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 100-150 กรัม/ต้นหลังปลูก ได้ 1 เดือน และ เดือนที่ 2 ส่วนเดือนที่ 3ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแทน
6. เดือนที่ 2 และ 3 ต้นกล้วยจะมีต้นและใบใหม่ทั้งหมด ปัญหาคือหญ้าที่ขึ้นคลุมต้น ต้องถากหญ้าบริเวณโคนต้น และฉีดยาฆ่าหญ้ากลุ่มพาราควอต ระหว่างแถว ต้องระวังอย่าให้ละอองยาโดนต้นกล้วยจะทำให้ต้นชะงักและตายได้
7. เดือนที่ 4 .การเจริญเติบโตเร็วมาก ทั้งความสูงและรอบวงต้นใกล้เคียงปลูกจากหน่อพันธุ์(ขึ้นกับขนาดต้นปลูกเริ่มแรกถ้าสูง 15 ซม.ขึ้นไปจะโตทันกัน) เป็นเดือนที่ต้นรอดตายทั้งหมด การดูแลทำเช่นเดียวกับการปลูกด้วยหน่อโดยให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 100-150 กรัม/ต้นในเดือนที่ 4 และ 5 เดือน ส่วนเดือนที่ 6 ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแทน และงดใส่ปุ๋ยจนกว่าจะแทงปลีถึงจะใส่ปุ๋ยเคมีอีกครั้งจนกระทั่งหลังเก็บเกี่ยว
8. เดือนที่ 6 หรือ 7 กล้วยเริ่มแทงหน่อ และสะสมอาหารเพื่อการตกเครือ
9. เดือนที่ 9 กล้วยเริ่มแทงปลี การแทงปลีหรือตกเครือจะเร็วหรือช้ากว่าหน่อพันธุ์ ขึ้นอยู่กับขนาดต้นปลูกเริ่มแรกและการดูแลรักษา หากต้นพันธุ์ที่มีขนาดความสูง 15 ซม.ขึ้นไปหรือมีเส้นรอบวงต้นมากกว่า 4.0 ซม. การตกเครือใกล้เคียงกับหน่อพันธุ์ขนาด 1 เมตร หากต้นมีขนาดใหญ่กว่านี้การตกเครือจะเร็วกว่าหน่อพันธุ์ และหากเล็กกว่านี้การตกเครือจะช้ากว่าหน่อพันธุ์ อายุเครือกล้วยจากแทงปลีจนกระทั่งเก็บเกี่ยวมีอายุประมาณ 4 เดือนเท่าหน่อพันธุ์กล้วยน้ำว้าทั่วไป
10. การปลูกกล้วยจากต้นเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อต้องเอาใจใส่ในช่วง 4 เดือนแรกให้ดีแล้วผลที่ออกมาจะคุ้มค่ากับการลงทุน และข้อดีของต้นกล้วยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้แก่ ขนย้ายต้นสะดวกได้ต้นจำนวนมาก ต้นพันธุ์ปลอดจากโรค และแมลง อายุการเก็บเกี่ยวใกล้เคียงกัน
ข้อพึงระวัง ->
ระวังในการให้น้ำควรให้น้ำวันละ 1 ครั้ง อาจทำให้เกิดเชื้อรา