ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

การเลี้ยงปลาตะเพียน เกิดจากชุมชนอยากมีรายได้เสริมจากการทำนา การปลูกอย่างพารา  จึงได้มีการส่งเสริมการเลี้ยงปลาตะเพียน  หลังจากเลี้ยงแล้วจึงอยากต่อยอดจากปลา แปรรูปปลาให้กินได้นาน ผู้นำชุมชนจึงได้ไปเรียนการทำปลาส้มปลาตะเพียน และปลาตะเพียนแดดเดียว และน้ำพริกปลาตะเพียน จึงได้รวมกลุ่มสัมมาชีพการแปรรูปปลาตะเพียนขึ้น เพื่อบริโภคในชุมชนและหมู่บ้าน และบุคคลทั่วไป

วัตถุประสงค์ ->

1.      ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน

2.      มีอาชีพเสริมให้กับชุมชน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ปลาตะเพียน

อุปกรณ์ ->

·         กะละมังสเตนเลส

·         กะละมังพลาสติก

·         ปลาตะเพียน

·         ข้าวเหนียวนึ่งสุก

·         เกลือ

·         กระเทียมโคลกหยาบๆ

·         น้ำตาลทราย

·         ผงปรุงรส

กระบวนการ/ขั้นตอน->

·         นำปลาตะเพียน มาล้างทำความสะอาด ผ่าท้องควักไส้ ขอดเกล็ดออกให้หมด แล้วล้างอีกรอบให้สะอาด

 

 

 

 

 

 

 

·         เมื่อล้างสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้บั้งตามยาวของตัวปลา ประมาณ 3 ขีด ใช้มีดหรือสากในครัว ทุกตัวปลาให้อ่อน

 

 

 

 

 

·         แล้วนำเกลือมาทาทั่วตัวปลา ใส่เกลือเข้าไปในท้องปลาและในเหงือกของปลาที่เราทุบจนอ่อนแล้ว หาถาดหรือฝาหม้อมาปิด หมักไว้ 1 คืน เมื่อหมักไว้ครบหนึ่งคืนแล้ว นำปลาที่หมักไว้มาล้างน้ำสะอาด ให้เกลือออกให้หมด ประมาณ 4-5 น้ำ แล้วแช่น้ำเปล่า ไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้ปลาหมดความเค็ม แช่จนเนื้อปลาขาว แตะ ๆ ชิมดูก็ได้ว่าเนื้อปลาจืดแล้วก็เป็นอันใช้ได้

·         ในระหว่างที่เราล้าง แล้วนำปลาไปแช่น้ำเปล่านั้น เราก็มาเตรียมเครื่องปรุงรอ คือข้าวเหนียวนึ่งสุก ให้นำไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง แช่จนข้าวเหนียวบวมน้ำ แล้วก็กรองเอาน้ำออก และก็นำกระเทียมมาโคลกให้พอหยาบ ๆ เตรียมไว้เช่นกัน

·         เมื่อล้างปลาจนหมดความเค็มและจืดเรียบร้อยแล้ว และก็ได้ทั้งข้าวเหนียวที่แช่ได้ที่พร้อมกับกระเทียมโคลกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการปรุงเลยค่ะ ให้นำข้าวเหนียวและกระเทียมมาปรุงโดยใส่ น้ำตาลหนึ่งช้อนชา ผงปรุงรสเพิ่มความนัวของปลาส้ม ใส่ถุงมือหรือใช้ถุงพลาสติกสะอาด ๆ นำเครื่องปรุงมาใส่ในท้อง ในเหงือกของปลา แล้วก็บีบนวดตัวปลาให้นิ่ม ให้เครื่องเข้าไปในเนื้อปลามากที่สุด 

·         แล้วก็นำมาใส่ถุงพลาสติก รัดปากถุงให้แน่น แล้วนำเก็บไว้ในหม้อปิดฝา เก็บไว้ ประมาณ 3 วันก็นำมาประกอบอาหารโดยการทอดหรือนึ่ง หรือจะรับประทานสด ๆ แอ้มพริกสดและกระเทียม พร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ ได้

ข้อพึงระวัง ->