เกษตรผสมผสาน
โดย : นางกฤษฏากร นามเที่ยง วันที่ : 2017-05-23-01:34:35ที่อยู่ : บ้านเลขที่ ๕๒ หมู่ ๑๔ ตำบลเลิงแฝก อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ด้วยครอบครัวมีพื้นที่เพาะปลูกจำนวนไม่น้อย ทำทั้งปลูกข้าว ปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างมันสำปะหลัง อ้อย ตลอดปีก็ไม่ได้หยุดพักแต่อย่างใด แต่ทำไมครอบครัวยังเป็นหนี้อยู่ ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจาก วิธีทำการเกษตรและพืชที่ปลูก เพราะพืชนเศรษฐกิจอย่างมันสำปะหลัง อ้อย ราคาไม่แน่นอน บางปีก็ขายได้ราคาดี บางปีผลผลิตออกพร้อมกันจำนวนมากจนล้นตลาด พ่อค้าก็กดราคาลงเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องขายเพราะมีภาระหนี้สินรายปีที่กู้มาลงทุน จึงทำให้ขาดทุน จึงคิดว่าถ้าทำอยู่เหมือนเดิมมันก็ยังเป็นวัฏจักรเดิม
ได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง รัชกาลที่ ๙ จึงเกิดความสนใจและเริ่มทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยการแบ่งพื้นที่ปลูกข้าวและพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังลงส่วนหนึ่ง แล้วทดลองทำเป็นไร่นาสวนผสมตามเกษตรทฤษฎีใหม่ ใช้สัดส่วน ๓๐-๓๐-๓๐-๑๐ ขุดบ่อน้ำเลี้ยงปลา ปลูกพืชหลายอย่างที่กินได้ พืชผักสวนครัว ปลูกไม้ยืนต้น ปลูกข้าว และหมุนเวียนปลูกพืชผักหลายอย่าง และที่สำคัญพืชผักที่ปลูกนั้นต้องปลอดสารเคมี เพราะเรากินก็ปลอดภัย และขายก็ได้ราคาดีกว่า การทำเกษตรผสมผสานก็ทำให้มีพืชผัก มีปลา กบไว้กินและจำหน่ายตลอดปี
วัตถุประสงค์ ->
๑) เพื่อให้มีผลผลิตจำหน่ายและเกิดรายได้ตลอดปี
๒) เพื่อให้ครอบครัวพออยู่พอกินพึ่งตนเองได้ โดยไม่ต้องเป็นหนี้สิน
๓) เพื่อเป็นต้นแบบให้คนในชุมชนได้หันมาสนใจแนวคิดเกษตรผสมผสาน
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
๑) เมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ เมล็ดพันธุ์ข้าว (มีทั้งข้าวเหนียวและข้าวจ้าว ได้แก่ ข้าวเหนียว กข ๖ ข้าวเหนียวดำ ข้าวหอมมะลิ 105 และข้าว กข 15 และข้าวไรซ์เบอร์รี่)
2) ปุ๋ยคอก
๓) ปุ๋ยอินทรีย์
๔) น้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง
อุปกรณ์ ->
๑) เทคโนโลยีที่เหมาะสม ได้แก่ รถไถ รถเกี่ยว
๒) เสียม จอบ
๓) ผ้ามุ้งเขียว ผ้าสแลนด์กันแดด
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การทำเกษตรผสมผสาน
แบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน อัตราส่วนโดยประมาณ ๓๐-๓๐-๓๐-๑๐ หรือให้มีความเหมาะสม
ส่วนที่หนึ่ง ๓๐% ขุดบ่อเก็บกักน้ำไว้สำหรับปลูกพืชผัก และในบ่อก็เลี้ยงปลาหลายชนิด และเลี้ยงกบและปล่อยธรรมชาติ
ส่วนที่สอง ๓๐% ปลูกนาข้าว
ส่วนที่สาม ๓๐% ปลูกพืชสวนพืชไร่ เช่น พืชผักสวนครัว ไม้ยืนต้น ไม้ผล ที่สามารถเก็บขายได้ เป็นการเสริมรายได้ ซึ่งพืชที่ปลูกมีต้นไผ่ ใช้ได้ทั้งไม้ไผ่ กินและขายหน่อไม้ และได้ลองทำน้ำจากต้นไผ่ ตลอดทั้งขยายพันธุ์ต้นไผ่ขาย ปลูกมะม่วง ปลูกผักสวนครัว ผักที่เป็นไม้ใหญ่อย่างต้นดอกแคบ้าน แคป่า
ส่วนที่สี่ ๑๐% เป็นสิ่งปลูกสร้าง เช่น สร้างที่อยู่อาศัย สร้างคอกไก่ คอกเป็ด ซึ่งตนได้ใช้พื้นที่บนขอบสระเพื่อสร้าง และที่เหลือก็ปลูกผัก โดยใช้ประโยชน์ได้ทุกพื้นที่
ข้อพึงระวัง ->
การปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ทุกอย่างควรเป็นวิธีการแบบปลอดสารเคมี ใช้ปุ๋ยคอกจากสัตว์ที่เลี้ยง ปุ๋ยหมักซึ่งทำเองได้จากวัสดุธรรมชาติ และน้ำหมักสมุนไพรที่ไล่แมลงได้ ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ใช้สารเคมีเลย เพื่อได้บริโภคพืชผักที่ปลอดสารเคมี และขายก็ได้ราคาสูง