ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ปลาส้ม เป็นอาหารที่คนอีสานชื่นชอบ เป็นการถนอมอาหารไว้เมื่อเวลาฝนมาและจับปลาได้เยอะๆ ก็จะหาวิธีที่จะเก็บปลาไว้กินได้นานขึ้น จึงนำมาทำปลาล้าบ้าง ปลาส้มบ้าง นายบุญชื่น กล่าวว่า เนื่องจากตนชอบกินปลาส้ม จึงได้หัดทำโดยถามวิธีจากคนรอบข้างที่เคยทำ ก็ได้สูตรการทำปลาส้มของแต่ละคนมา แล้วก็ลองทำลองหารสชาติที่ตนชอบ เติมนั่นเพิ่มลดนี่หน่อย เอารสที่ถูกปากตัวเอง พอทำได้รสชาติที่คงที่แล้ว มีคนได้ลองกินซึ่งก็ถูกปากติดอกติดใจ จึงได้คิดที่จะทำขาย และก็พอได้ขายแต่ก็ยังทำในปริมาณไม่มากนัก พอให้เกิดรายได้เสริมในครัวเรือน

วัตถุประสงค์ ->

           เพื่อกินเอง ช่วยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว  

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

๑) ปลาตะเพียน ๓ กิโลกรัม

              ๒) ข้าวเหนียวนึ่งสุก ๑ ถ้วย (แช่น้ำไว้ ประมาณ ๒-๓ ชม.)

              ๓) เกลือ ๑ ถ้วย

              ๔) กระเทียม ๑ ถ้วย โคลกหยาบๆ

              ๕) น้ำตาลทราย ๑ ช้อนชา

                   ๖) ผงปรุงรส     เอง ช่วยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว  

 

อุปกรณ์ ->

กะละมังสเตนเลส ขนาดใส่ปลาได้ประมาณ ๓-๕ กก. ๑ ใบ กะละมังพลาสติก ไว้สำหรับแช่หรือหมักปลา ๑ ใบ                                                                       

กระบวนการ/ขั้นตอน->

๑)      นำปลามาล้างทำความสะอาด ขอดเกล็ด ผ่าท้องเอาไส้ออก ล้างแล้วบั้งตัวปลา 

๒)      ใช้มีดหรือสากทุบตัวปลาให้อ่อน

๓)      นำเกลือมาทางทั่วตัวปลา ใส่เกลือเข้าไปในท้องปลาและเหงือกของปลา หมักไว้ ๑ คืน

๔)      นำปลาที่หมักไว้มาล้างน้ำสะอาดให้เกลือออกหมด แล้วแช่น้ำเปล่าไว้ประมาณ ๓ ชั่วโมง เพื่อล้างความเค็ม แช่จนเนื้อปลากลายเป็นสีขาว

             ปรุง นำข้าวเหนียวแช่และกระเทียมโคลก เตรียมไว้แล้วปรุงรสด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้คลุกให้เข้ากัน แล้วนำเครื่องปรุงมาใส่ในท้อง ในเหงือกปลา แล้วก็บีบนวดตัวปลาให้นิ่ม ให้เครื่องเข้าไปในเนื้อปลามากที่สุด

             นำปลามาเรียงทับกันในกะละมังสแตนเลสที่เตรียมไว้ ให้เอาถาดมาวางปิดแล้วหาอะไรที่มีน้ำหนักพอสมควรวางทับ เพื่อให้เนื้อปลาแน่นและเครื่องปรุงจะได้เข้าเนื้อ

ข้อพึงระวัง ->

ควรแช่ปลาด้วยเกลือให้เหมาะสม ถ้าน้อยไปอาจจะทำให้ปลามีกลิ่น