ความรู้สัมมาชีพชุมชน

image1

การทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม

โดย : นายธนสิษ ชอบดี วันที่ : 2017-03-15-17:56:56

ที่อยู่ : 39/2 หมู่ที่ 10 ตำบลฉลอง

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

          ความเป็นมา
          เมื่อ พ.ศ. 2545 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมศึกษาดูงานโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ที่ได้มุ่งเน้นการดำเนินงานโดยยึดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับ “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน ให้เกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ ซึ่งข้าพเจ้าได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า สบู่เหลว เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน สามารถผลิตเพื่อใช้เองและจำหน่ายก่อเกิดรายได้ในครัวเรือน จากการศึกษาดูงานในครั้งนั้นทำให้ข้าพเจ้าเกิดแนวคิดที่จะนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้กับครัวเรือนของตนเอง ประกอบกับข้าพเจ้าได้ไปศึกษาดูงานเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เรื่องการใช้เทคโนโลยี EM ในการลดค่าใช้จ่ายและดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อลดค่าใช้จ่ายในด้านการซื้อสารเคมี น้ำยาฆ่าเชื้อโรค และน้ำยาทำความสะอาดต่าง เพื่อสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตของผู้ที่มารับบริการและเจ้าหน้าที่ทุกคน จึงเกิดแนวคิดว่าถ้านำความรู้เรื่องเทคโนโลยี EM การทำน้ำยาล้างจาน การทำน้ำยาซักผ้า สบู่เหลว มาใช้เพื่อลดรายจ่ายในโรงแรมที่ข้าพเจ้าทำงานประจำอยู่น่าจะเป็นสิ่งที่ดี จึงได้นำเสนอผู้บริหารโรงแรมมารีน่าภูเก็ต รีสอร์ท (ในเครือโรงแรมกะตะกรุ๊ป) ถึงแนวทางการลดรายจ่ายดังกล่าว ผู้บริหารโรงแรมเห็นชอบจึงได้สนับสนุนเงินทุนในการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ โดยข้าพเจ้าได้ทดลองผลิตน้ำยาล้างจานใช้ในโรงแรมและแจกจ่ายให้พนักงานนำไปทดลองใช้ ปรากฏว่าได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันข้าพเจ้าได้ทดลองผลิต EM ขยาย เพื่อใช้ในบ่อบำบัดน้ำเสีย ใช้รดต้นไม้ ในโรงแรม นอกจากนี้ยังได้ผลิตแชมพู สบู่เหลว น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ใช้ในโรงแรม ช่วยให้โรงแรมลดรายจ่ายในการซื้อน้ำยาล้างจาน สบู่เหลว แชมพู น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ประมาณเดือนละ 300,000 บาท หรือปีละ 3,600,000 บาท ทางผู้บริหารโรงแรมตระหนักถึงความสำคัญของการลดรายจ่ายดังกล่าวที่สามารถประหยัดเงินได้อย่างมหาศาล จึงได้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ที่โรงแรม โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้มาศึกษาเรียนรู้เพื่อนำความรู้ไปปรับใช้ในครัวเรือน ปัจจุบันข้าพเจ้าได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคคล กลุ่ม/องค์กร ที่มาเรียนรู้กว่า 50 รุ่น และได้นำความรู้ดังกล่าวมาถ่ายทอดให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านยอดเสน่ห์ หมู่ที่ 10 ตำบลฉลอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ได้มีกิจกรรมเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน และได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
แรงบันดาลใจ
          แรงบันดาลใจเกิดจากตอนที่ไปศึกษาดูงานโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ทำให้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงปฏิบัติภารกิจที่เหน็ดเหนื่อยเพื่อคนไทย เพื่อให้คนไทยรู้จักความพอเพียง โดยที่พระองค์ท่านได้ทรงปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง ข้าพเจ้าจึงเกิดความตื้นตันใจและตั้งปณิธานจะอยู่อย่างพอเพียงและทำความดีตามแนวทางพ่อสอน
เหตุผลที่ทำ
          
 ต้องการเดินตามรอยพ่อหลวง (ในหลวงรัชกาลที่9) โดยให้ชาวบ้านเรียนรู้ที่จะลดรายจ่ายในครัวเรือนด้วยการผลิตภัณฑ์ น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า สบู่เหลว น้ำยาปรับผ้านุ่ม ฯ ใช้เองในครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย และได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

วัตถุประสงค์ ->

          1. เพื่อให้ชุมชนได้ผลิตน้ำยาปรับผ้านุ่ม ใช้เองในครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย

          2. เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่มสร้างอาชีพสร้างรายได้ในชุมชน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

          หัวเชื้อปรับผ้านุ่ม 7 กิโลกรัม ๆ ละ 125 บาท

สารกันบูด 1/2 กิโลกรัม ๆ ละ 170 บาท

สารขยับความหอม 1/2 กิโลกรัม ๆ ละ 500 บาท

น้ำหอมดาวนี่สีฟ้า 1 กิโลกรัม ๆ ละ 1,000 บาท

อุปกรณ์ ->

          ถัง 200 ลิตร                        1  ถัง

          ถัง 20 ลิตร                          2  ถัง

          ไม้พาย 150 เซนติเมตร             1  อัน

          ตะแกงกรอง                         1  อัน

          ตาชั่ง 15-60 กิโลกรัม              1  ตาชั่ง

          ถ้วยตวง                              1  ถ้วย

กระบวนการ/ขั้นตอน->

          เตรียมถัง 200 ลิตร 1 ถัง  ใส่น้ำเปล่าลงไป 80 ลิตร ใส่สารปรับผ้านุ่ม 7 กิโลกรัม  กวนวนไปตามเข็มนาฬิกาประมาณ 20 นาที จนเนื้อครีมเข้ากันและใส่สารกันบูด 1/2 กิโลกรัม กวนให้เข้ากันประมาณ 10 นาที ใส่น้ำหอมดาว์นี่สีฟ้า 1 กิโลกรัม ใส่สารขยับความหอม 1/2 กิโลกรัม กวนให้เข้ากันอีกครั้งแล้วจึงตวงใส่ขวด

ข้อพึงระวัง ->

          1) ไม่ควรใช้น้ำประปา หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรรองน้ำประปาทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้คลอรีนตกตะกอนแล้วจึงนำไปใช้ มิฉะนั้นจะทำให้วัตถุดิบเสียหาย

          2) ระวังหัวน้ำหอมกระเด็นเข้าตา ทำให้ระคายเคืองตา

          3) ระวังอย่าให้ถูกแสงแดดที่ร้อนจัดเกินไป

          4) ควรเก็บไว้ในที่โล่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก

รูปประกอบ -> image1 image2 image3

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดภูเก็ต
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา