การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์
โดย : นางสาวสุดาดวง.....เชียงน้อย วันที่ : 2017-03-28-21:18:32ที่อยู่ : 67/3.......หมู่..........4.........ซอย.................-.............ถนน...............-.................ตำบล........เวียงต้า........... อำเภอ..........ลอง............จังหวัดแพร่
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ข้าพเจ้าได้เริ่มทำเกษตรผสมผสานจากการที่ได้รับความรู้ในเรื่องของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เกษตร ประกอบกับบริเวณบ้านของข้าพเจ้ามีพื้นที่กว้าง จึงคิดริเริ่มในการปลูกพืชผัก ผลไม้ ขุดบ่อเลี้ยงปลา สำหรับไว้บริโภคเองและเหลือไว้จำหน่ายให้คนในชุมชน ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
วัตถุประสงค์ ->
เผยแพร่การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. ......ลูกปลาดุก..............................................................................................
2. ......อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับเลี้ยงปลาดุก................................................
3. ......อาหารจากธรรมชาติแทนอาหารเม็ด....เช่น....ปลวก,ไส้เดือน................
4. ......พืชผักที่ปลากิน....เช่น....ผักบุ้ง,ผักตบชวา
อุปกรณ์ ->
1. ........บ่อซีเมนต์.............................................................................
2. ........มุ้งฟ้าหรือแสลน...................................................................
3. ........น้ำสะอาด............................................................................
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. นำบ่อซีเมนต์ที่ได้รับการเตรียมบ่อไว้แล้วใส่น้ำให้มีความสูง 10 เซนติเมตร
2. นำลูกปลาดุกมาแช่น้ำในบ่อทั้งถุง แล้วค่อยๆเปิดปากถุงให้ปลาว่ายออกมาเอง
3. วันแรกที่นำปลามาปล่อยไม่ต้องให้กินอาหาร
4. นำพืชผักที่ปลากิน เช่น ผักบุ้ง,ผักตบชวาและอื่นๆมาใส่ในบ่อ
5. การให้อาหารนั้นก่อนให้อาหารต้องนำอาหารมาแช่น้ำก่อนเสมอประมาณ 10 - 15 นาที ซึ่งปลา 1 ตัวให้อาหาร 5 เม็ด/เมื้อ ในช่วงปลาเล็กให้อาหารวันละ 2 เมื้อ เช้า-เย็น ปลาอายุ 1 เดือนครึ่งให้อาหารปลาขนาดกลาง โดยให้ อาหารวันละ 1 ครั้ง ให้ปลากินตอนเย็น6. ใช้มุ้งฟ้าหรือแสลนคุลมปากบ่อซีเมนต์เพื่อกั้นไม่ให้ปลาหนี
ข้อพึงระวัง ->
- ควรใช้มุ้งฟ้าหรือแสลนคุลมปากบ่อซีเมนต์เพื่อกั้นไม่ให้ปลาหนี
- ควรนำบ่อเลี้ยงปลาไว้ในบริเวณที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- ควรมีการถ่ายน้ำทุกๆ 7 วัน หรือ 10 วัน/ครั้ง