ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เดิมทีทำนามาก่อนโดยการใช้สารเคมี  ประสบปัญหาสารเคมีเป็นพิษเท้าเป็นแผล  หายยาก  ครั้งหนึ่งซื้อผักจากตลาดมารับประทาน  และนำเอาส่วนที่เหลือเอาไปให้เป็ดเทศที่สวนกินเป็นอาหาร  ปรากฏว่าเป็นเทศตายเกือบหมดเล้า  ซึ่งตอนนั้นได้เลี้ยงเป็ดเทศไว้ทั้งหมด 16 ตัว  รอดตายเพียง  3  ตัว เพราะรักษาทัน จึงทำให้เกิดความคิดว่าถ้าคนกินก็คงจะต้องตายผ่อนส่งแน่นอน  ทำให้เปลี่ยนความคิดมาทำการเกษตร ปลูกพืชผัก สวนครัว ไว้กินเองจะได้ปลอดภัยกว่า  ปัจจุบันทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพใช้เอง  ทำน้ำสมุนไพรไล่แมลง  น้ำหมักชีวภาพ  ทำการเลี้ยงไก่  เลี้ยงกบ  เลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์  เลี้ยงจิ้งหรีด และเลี้ยงเป็ดเทศไว้กินเอง ที่เหลือนำออกจำหน่าย  ปัจจุบันสวนเกษตรธรรมชาติผสมผสานปลอดสารพิษเป็นแหล่งเรียนรู้อีกฐานหนึ่งของบ้านแม่ลานเหนือ  ซึ่งบุคคลทั่วไปและคนในหมู่บ้านสามารถมาศึกษาดูงาน  เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

วัตถุประสงค์ ->

เผยแพร่การทำเกษตรธรรมชาติผสมผสานปลอดสารพิษ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ  จากฟางข้าว  โดยการเอาฟางข้าวมากองไว้ในสวน  เพื่อให้ไก่คุ้ยเขี่ยกินเมล็ดข้าวที่มาตากค้างไว้  เป็นการทำให้ฟางข้าวนุ่มก่อนที่จะบรรจุใส่ในบ่อหมัก

                   1) นำฟางหรือใบไม้แห้งใส่เป็นชั้น ๆ

                    2) ใส่มูลสัตว์ให้ทั่วเป็นชั้น ๆ รดน้ำใส่ พ.ด. 1 บรรจุจนเต็มบ่อ  รดน้ำ  ให้สม่ำเสมอ  หมักไว้ปกคลุมด้วยพลาสติก (ผ้าเต้นท์) ระยะเวลาหมัก 6 เดือน

          การเลี้ยงจิ้งหรีด

                   1) ระยะแรกเกิด ถึง 20 วัน ให้อาหารไก่เนื้อ (เล็ก)

                   2) หลังจาก 20 วันขึ้นไป ควรเป็นอาหารไก่ไข่ผสมรำอ่อน  และให้ผักเป็นอาหารเสริม  เช่น  ผักโขมใหญ่  ผักบุ้ง  ใบฟักทอง  ใบมันสำปะหลัง สำหรับมันสำปะหลัง  อย่าให้กินมาก  เพราะมีสารชนิดหนึ่ง ที่ทำให้จิ้งหรีดตายได้

                   3) จิ้งหรีด อายุ 35- 40 วัน (ออกไข่ถึง 45 วัน) จับขายได้  (ถาดไข่ใช้กะลามะพร้าว  ใส่ด้วยขี้เลื่อยไม้ไผ่โรงงาน  ผสมน้ำพอหนา  ใช้เวลาให้จิ้งหรีด 1 วัน 1 คืน

          3. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ(เคล็ดลับ) : บอกเทคนิค/ข้อสังเกต/ข้อพึงระวังที่ทำหรือที่พบระหว่างการปฏิบัติตามขั้นตอนให้เกิดความสำเร็จในการทำงาน และใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาอาชีพ

เทคนิค/ข้อสังเกต

1). ใช้เทคนิคผสมผสาน  ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป  ต้องมีความขยัน อดทน ต่อสถานการณ์ต่างๆ ในการทำงาน จงมีความอดทนและอดกลั้นเข้าไว้ แล้วคุณจะสามารถเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ได้สำเร็จ

๒).  ทำด้วยใจรัก  พยายามหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าของงานที่ทำอยู่ตลอดเวลา และนั่นจะส่งผลให้รู้จักวางแผนชีวิตและเป้าหมายความสำเร็จในการทำงาน

3)  ครอบครัวให้การสนับสนุน  มีการพูดคุย ปรึกษา ร่วมกันดำเนินการ  แก้ไขปัญหาในการทำงานร่วมกัน  และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ข้อพึงระวัง ->