ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

สืบเนื่องจากนางประภาภรณ์  ชัยยา ไม่ประสบความสำเร็จ จึงคิดว่าการประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับอาหารน่าจะสร้างรายได้ที่ดีกว่าการประกอบอาชีพแบบอื่น เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต ไม่มีคนๆ ใดที่จะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่รับประทานอาหาร ด้วยเหตุนี้นางประภาภรณ์  ชัยยา จึงเลือกที่จะทำแคบหมูจำหน่าย เพราะแคบหมูถือเป็นอาหารพื้นบ้านเมืองแพร่ที่หารับประทานง่าย และเป็นที่นิยมของคนในภาคเหนือ รวมทั้งขั้นตอนในการทำที่ไม่ซับซ้อน มีตลาดในการจำหน่ายสินค้าจำนวนมากเช่น ร้านขนมจีน ร้านก๋วยเตี๋ยว  

วัตถุประสงค์ ->

ส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. หนังหมู 10 กิโลกรัม

2. เกลือ 400 กรัม เป็นเครื่องปรุงที่เพิ่มรสชาติแคบหมูให้มีรสเค็ม กลมกล่อม ควรใช้ เกลือปน หยาบ มีสีขาว สะอาด ปราศจากฝุ่นและผงละอองเจือปน แห้งสนิท ไม่มี ความชื้น

3. ผงชูรส 4 ช้อนโต๊ะ เป็นเครื่องปรุงเสริมแต่งให้แคบหมูมีรสชาติดียิ่งขึ้น ควรเลือกซื้อ ผงชูรสที่มีคุณภาพดีพอสมควร

4. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ใช้สำหรับแต่งสี และปรุงให้แคบหมูมีสีเข้ม มีรสและกลิ่น น่ารับประทาน

5. น้ำมันหมู 5 กิโลกรัม ใช้สำหรับทอดแคบหมู ควรเป็นน้ำมันใหม่ สะอาด ไม่เหม็นหืน และไม่มี สีดำคล้ำ

อุปกรณ์ ->

1. ผ้าฝ้ายสีขาวหรือสีพื้นๆ

2. ผ้าฝ้ายสีสันสวยงาม

3. เข็ม

4. ด้ายสีต่างๆ

5. กระดาษทำแบบ

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. ทำความสะอาดหนังหมู โดยการนำหนังหมูที่เลือกอย่างดีแล้วมาล้างทำความสะอาด โดยการใช้ใบมีดโกน ชนิดมีด้าม ขูดสิ่งสกปรก ที่ติดมากับหนังหมูออก ออกให้หมด แล้วจึงล้างน้ำสะอาด เทใส่ตะกร้าไม้ไผ่พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

 2. นำหนังหมูที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว มาตากแดดหรือพึ่งลม บนตะแกงที่เตรียมไว้ เพื่อที่แคบหมูจะเก็บไว้ได้นาน ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน

 3. หั่นหนังหมูเพื่อเตรียมการทอด  โดยต้องคำนึงถึง ลักษณะของหนังหมู และขนาดที่ตัดไปพร้อมกันด้วย จึงจะได้ แคบหมู ที่มีลักษณะ พอง และขดงอเป็นก้อนกลมน่ารับประทาน แบ่งการหั่นได้ 2 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 หั่นหนังหมูตามความยาวของลำตัวหมูตลอดชิ้น โดยกำหนด ชิ้นส่วนของ หนังหมู ที่ต้องการหั่นให้ได้ขนาด 1 - 1.5 x 3 นิ้ว โดยหั่นหนังหมูตามยาว 3 นิ้ว

ขั้นตอนที่ 2 จากการหั่นหนังหมูได้ความยาวตามลำตัวหมูกว้าง 3 นิ้วแล้ว จึงนำหนังหมู ที่หั่นได้มาหั่นเป็นชิ้นเล็กให้มีขนาด 1 - 1.5นิ้ว ก็จะได้ชิ้นส่วนของ หนังหมู ที่หั่นเสร็จขนาด 1 - 1.5 x 3 นิ้ว หากจะหั่น ขนาดโต กว่านี้ ก็ใช้หลักในการหั่น ทำนองเดียวกัน ต่อจากนั้นนำหนังหมูที่หั่นได้ไปล้างน้ำสะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

4. นำหนังหมูทอดครั้งแรกประมาณ 1 ชั่วโมง

5. นำแคบหมูทอดครั้งที่สอง โดยให้แคบหมูพองตลอดทั้งก้อนและมีสีเหลืองกรอบได้ที่แล้ว จึงตักแคบหมูขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หรือใช้กระดาษซับน้ำมัน ทำการซับน้ำมันอีกครั้งหนึ่งก็ได้ พักทิ้งไว้ให้เย็นเตรียมบรรจุต่อไป

 

 

ข้อพึงระวัง ->

1. การทอดหนังหมู ให้เป็นแคบหมูนี้ ให้ใส่พอประมาณ ดูว่ามีเนื้อที่เหลือ พอที่จะให้หนังหมู พองตัวแล้วไม่เบียดกันจนเกินไป

2. เมื่อใส่หนังหมูลงไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดแล้ว ให้ใช้ตะหลิวโปร่ง คอยกด หนังหมู ที่ลอยขึ้นมา จมลงไปในน้ำมันให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็พยายาม คนพลิกกลับข้างบนลงข้างล่าง และแกว่งตะหลิวโปร่งไปมาสลับกัน เพื่อให้ หนังหมูขยายตัวและได้รับความร้อนจากน้ำมันโดยทั่วกัน

3. การบรรจุและการรักษาแคบหมู แคบหมูเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากหนังหมูทอด มีลักษณะกรอบ ฉะนั้นในการ เก็บรักษา ต้องคำนึงถึงการรักษาคุณค่าทางอาหาร และรสชาติของแคบหมู ให้มีลักษณะกรอบ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืนดังนั้น ในการเก็บรักษาจะต้องมิให้ถูกความชื้น โดยการเก็บใส่ภาชนะ ที่มีฝาปิดสนิท และห่อหุ้มแคบหมูด้วยถุงพลาสติก รัดยางยึดให้แน่น ไม่ให้อากาศเข้าได้ ถ้าจำนวนไม่มาก อาจจะใส่ถุงพลาสติก รัดปากถุงให้แน่น ด้วยยางรัดของ แล้วนำเก็บเข้าตู้เย็น จึงจะสามารถเก็บรักษา ไว้หลายวัน โดยคงรสชาติเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ควรเก็บไว้นานเกินไป (ไม่ควรเกิน 5 วัน) 

              สำหรับการบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายนั้น ก็ใช้วิธีบรรจุตามที่กล่าวข้างต้น เพียงแต่บรรจุ ตามราคาจำหน่ายปลีกและส่ง ตามความ เหมาะสมของแต่ละท้องถิ่น และความพอใจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย สำหรับราคาจำหน่ายโดยทั่วไป ราคากิโลกรัมละ 320 - 350 บาท หรือบรรจุถุงเพื่อขายปลีก ในราคาถุงละ 10 บาท