ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

การทำกล้วยฉาบถือเป็นการถนอมอาหารให้มีอายุยาวนาน โดยวิธีการดังกล่าวเป็นภูมิปัญญาที่     นางศรีรัตน์ เหมืองคำ ได้รับการถ่ายถอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งอาชีพดังกล่าวสามารถเลี้ยงดูคนในครอบครัวได้ เพราะกล้วยฉาบถือเป็นอาหารว่างที่มีคุณประโยชน์ จึงเป็นที่นิยมต่อผู้คนทั่วไป และวัตถุดิบยังสามารถหาได้ในท้องถิ่น เป็นการใช้ทรัพยากรในพื้นที่ให้เกิดรายได้ต่อคนในชุมชน ซึ่งทุกวันนี้นางศรีรัตน์ เหมืองคำ ได้มีกลุ่มแปรรูปอาหารที่ประสบความสำเร็จ โดยใช้คนในพื้นที่ร่วมกันผลิตสินค้า อันเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในสมาชิกกลุ่มซึ่งก็คือคนบ้านสะบู หมู่ที่ 5 นอกจากนี้ทางกลุ่มได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการตลาด

วัตถุประสงค์ ->

เผยแพร่ความรู้และส่งเสริมอาชีพ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. กล้วยหักมุกดิบ 1 หวี (กล้วยหักมุก จะให้เนื้อฟูกรอบ มากกว่ากล้วยน้ำว้า)

2. น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ถ้วยตวง

3. น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง

4. น้ำ 2 ถ้วยตวง

5. เกลือป่น 1/3 ช้อนชา

อุปกรณ์ ->

1. กระทะ

2. ตะแกรงลวด

3. กะละมัง

4. ที่ไสกล้วย

4. เครื่องชั่ง

5. ถังน้ำ

6. ตะหลิว

7. ทัพพี

8. มีด

9. ถาด

10. เตา

11. มีดคู่

12. กระชอน

13. ถ้วยตวง

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำหว้าดิบ ด้วยมีดคู่ปอกเปลือก

2. นำกล้วยที่ปอกเปลือกให้หมดทั้งหวี ล้าง และแช่ไว้ในน้ำสะอาดที่ผสมเกลือเล็กน้อย (เพื่อไม่ให้กล้วยมีสีดำ) ตั้งพักไว้

3. ฝานกล้วยดิบเป็นแผ่นบาง ๆ ตาม ความยาวของผล ด้วยมีดคู่ แล้วนำกล้วยที่ฝานแล้วตากแดดเพื่อให้สามารถหยิบกล้วยได้ง่าย กล้วยจะไม่ติดกัน

4. ตั้งกระทะให้ร้อนเติมน้ำมันพืชลงในกระทะ เมื่อน้ำมันร้อนพอดี มีควันลอยบ้างบางๆ ใส่กล้วยตามข้อ 3 ลงทอดในน้ำมันทันที เมื่อกล้วยลอยตัวขึ้นมาบนผิวน้ำมัน ให้หมั่นคนและ พลิกชิ้นกล้วยกลับให้ถูกน้ำมัน เพื่อความร้อนสม่ำเสมอทั่วกันทุกชิ้น จนเหลืองดีแล้ว (อย่าเหลืองมาก เพราะกว่าจะเย็นคลายตัว กล้วยจะไหม้ มีสีดำ และมีรสขม) ตักขึ้นใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำมัน ทำจนกระทั่งเสร็จ

5. ทำกล้วยฉาบรสเค็ม โดยใช้กลัวยที่ฉาบแล้ว และใช้กะทะที่สะอาด ตั้งไฟเบาๆ ใส่น้ำตาล น้ำ ลงในกระทะนั้น ต้มจนน้ำตาลละลาย และเคี่ยวต่ออีกครู่ จนน้ำตาลเหนียวเป็นเส้น เมื่อใช้ช้อนจุ่มลงในน้ำเชื่อม แล้วยกช้อนขึ้น น้ำเชื่อมจะยืดตามมีดเป็นเส้น

6. ใส่กล้วยที่ทอดไว้ ลงในกระทะน้ำเชื่อมทันทีที่ยกลงจากเตา เคล้าเบา ๆ ให้น้ำเชื่อมจับชิ้นกล้วยให้ทั่วถึง

7. พักไว้จนเย็นสนิทและน้ำเชื่อมแห้งสนิทด้วย จึงเก็บใส่ขวดโหล หรือภาชนะฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันลมเข้า

ข้อพึงระวัง ->

1. ใช้ความร้อนสูงในการไล่น้ำมันออกจากชิ้นกล้วยขณะทอด เพื่อให้กล้วยมีความกรอบไม่อมน้ำมันจนเกินไป

2. หลังจากทอดกล้วยเสร็จขณะเทใส่ถาด ต้องมีการซับน้ำมันอย่างพิถีพิถัน และปล่อยให้กล้วยฉาบเริ่มเย็น แต่อย่าให้เย็นนานโดยต้องเก็บขนมเข้าถุง ปิดปากถุงไม่ให้อากาศเข้า

3. ระวัง แสง อากาศ น้ำ้มัน คือตัวที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้ขนมมีกลิ่นเหม็นหืนได้ การทอดน้ำมันในระยะเวลาที่สั้น การซับน้ำมัน ปิดปากถุงขนมและเก็บในภาชนะทึบแสง จะลดปัญหาเหม็นหืนและช่วยยืดเวลาของความอร่อยได้ดี