ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การปลูกกะหล่ำ

โดย : นายธันฐกรณ์ เหล้กเพชร วันที่ : 2017-08-01-17:43:50

ที่อยู่ : 14 ม.6 ต.ริมสีม่วง

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

กะหล่ำปลีเป็นผักที่มีการปรับปรุงพันธุ์มาอย่างช้านาน จนกระทั่งปัจจุบันนี้มีทั้งพันธุ์หนักและพันธุ์เบา และพันธุ์ทนร้อน โดยปกติกะหล่ำปลีเป็นผักที่ชอบอากาศเย็น โดยเฉพาะหากต้องการปลูกเพื่อเอาเมล็ดพันธุ์ ต้องอาศัยอากาศเย็นเป็นระยะเวลายาวนานติดต่อกัน และต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่เริ่มปลูกจนกระทั่งถึงเมล็ดพันธุ์แก่ แต่ถ้าปลูกรับประทานใช้เวลาประมาณ 70-140 วัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์เบาหรือพันธุ์หนัก หากเป็นพันธุ์เบาก็ใช้ระยะเวลาน้อย

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อปลูกกะหล่ำบริโภค หรือส่งขาย

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

เมล้ดพันธุ์

อุปกรณ์ ->

เครื่องมือเกษตรในการทำแปลงปลูก

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การเตรียมปลูกกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลีชอบดินร่วนมากที่สุด อุณหภูมิที่ใช้ในการปลูกควรอยู่ที่ประมาน 15-20 องศาเซลเซียส สภาพดินต้องมีความเป็นกรดด่างประมาณ 6-6.5 และสามารถทนสภาพดินเค็มที่จะเกิดขึ้นได้ดี นอกจากนี้จะต้องปลูกในฤดูฝนเท่านั้นเพราะต้องการความชื้นในดินสูงตลอดระยะเวลาในการปลูก ได้รับแสงแดดเต็มที่ตลอดวัน ส่วนวิธีการปลูกนั้นสามารถปลูกได้โดยการหยอดเมล็ดและย้ายกล้า

การเตรียมดินสำหรับปลูกนั้นต้องเตรียมดินให้มีหน้าดินที่ดี มีความลึกไม่ต่ำกว่า 1 ฟุต หลังจากพลิกตากดินครั้งแรกแล้ว หลังจากนั้นควรย่อยดินพร้อมทั้งใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเก่า คลุกปุ๋ยกับดินให้ทั่วและทำให้ดินแตกละเอียดเป็นก้อนเล็กที่สุดสำหรับทำแปลงเพาะกล้า ส่วนแปลงปลูกอาจย่อยดินให้หยาบกว่าแปลงเพาะกล้าก็ได้ และหากดินเป็นกรดควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับกรดในดิน

การปลูกและการดูแลกะหล่ำปลี

โดยทั่วไปมักนิยมปลูกโดยการเพาะกล้า เนื่องจากเมล็ดพันธุ์มีขนาดเล็ก ดังนั้นแปลงกล้าจึงต้องย่อยดินให้ละเอียด เพื่อมิให้เมล็ดแทรกลงไปในดินลึกมากนัก เพราะอาจทำให้เน่าตายและไม่งอกพ้นดิน ประกอบกับเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ต้องสั่งจากต่างประเทศซึ่งมีราคาแพง แปลงเพาะกล้าควรกว้างไม่เกิน 1 เมตร ยาวประมาณ 4 เมตร หากจะใช้กระบะเพาะควรมีขนาด 30 × 50 เซนติเมตร หน้าดินสำหรับกล้าต้องลึกไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตร อาจโรยเมล็ดเป็นแถวๆ ระยะแถวห่างกัน 5 เซนติเมตร หรือหว่านไปทั่วแปลงโดยให้กล้าแต่ละต้นห่างกัน 2-4 เซนติเมตร เมื่อหว่านแล้วควรใช้ดินร่วนหรือปุ๋ยคอกเก่ากลบให้หนา 1 เซนติเมตร และใช้เศษฟางคลุม เมื่อกล้างอกมีใบ 2 ใบ เลือกต้นอ่อนแอทิ้งไป การรดน้ำต้องรดเช้าเย็น โดยใช้ระบบน้ำเป็นฝอยและต้องใช้การพลางแสงบ้างหากแดดแรงจัดเกินไป อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ในแปลงกล้า ใช้ 40 กรัมต่อพื้นที่ 2-2.5 ตารางเมตร

ในแปลงกล้าควรตรวจดูสภาพโรคและแมลง และฉีดยาป้องกันกำจัดตามความจำเป็น การใช้ปุ๋ยหากต้องการเร่งให้กล้าเจริญเติบโตแข็งแรงดี ควรให้ปุ๋ยผสมละลายน้ำที่มีฟอสฟอรัสสูง เมื่อกล้ามีอายุ 30-45 วัน จะสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร เป็นระยะที่ควรย้ายกล้าได้ แต่ต้องไม่ลืมทำการ hardening กล้าก่อนที่จะทำการย้ายกล้า 1 สัปดาห์ และควรตัดปลายใบทิ้งบ้างในขณะย้ายกล้าเพื่อลดการเหี่ยวเฉา ในกรณีที่ต้องขนย้ายกล้าไปปลูกไกลๆ ควรย้ายกล้าจากแปลงลงในถุงพลาสติกถุงละต้น หรือย้ายลงในกระบะชำเพื่อสะดวกในการขนย้าย การนำกล้าลงแปลงควรทำตอนที่แสงแดดอ่อนและต้องรดน้ำทันทีหลังจากนำกล้าลงแปลงปลูกแล้ว และสำหรับระยะห่างระหว่างกล้า ถ้าเป็นกะหล่ำปลีพันธุ์หนักหัวจะมีขนาดใหญ่ ให้เว้นระยะห่างประมาณ 80-90 เซนติเมตร ถ้าเป็นพันธุ์เบาหัวจะเล็กกว่า ให้เว้นระยะห่างประมาณ 40-50 เซนติเมตร

 

ข้อพึงระวัง ->

สำหรับการให้น้ำ ต้องรดน้ำให้เพียงพอโดยสังเกตว่าต้องให้ดินชื้นอยู่เสมอ โดยเฉพาะกะหล่ำปลีมีรากตื้น ดังนั้นน้ำที่ผิวดินก็มักระเหยไปได้เร็ว จึงควรระวังในการพรวนดิน กำจัดวัชพืช ต้องไม่ให้กระทบกระเทือนราก การป้องกัน การระเหยน้ำจากผิวดิน อาจทำได้โดยการใช้วัสดุ เช่น ฟางคลุมดินด้านหน้า

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดเพชรบูรณ์
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา