การทำน้ำหมักชีวภาพ
โดย : นายอารมณ์ แสงอ่อน วันที่ : 2017-04-02-14:31:13ที่อยู่ : 65 ม.2 ต.ท่าสะแก
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การใช้สารเคมีได้ส่งผลต่อสภาพดิน ทำให้ดินเสื่อมโทรม รวมถึงการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชก็ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพและสภาพแวดล้อมในชุมชน รวมถึงผู้บริโภคผลผลิตทางการเกษตรที่มีสารเคมีตกค้าง ดังนั้นจึงหันมาทำการเกษตรจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชมาใช้น้ำหมักชีวภาพ โดยประยุกต์ใช้วัตถุดิบเหลือใช้ในท้องถิ่นในการผลิต เพื่อการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ช่วยให้ลดต้นทุนการผลิต สามารถพึ่งพาตนเอง และเป็นการทำการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
วัตถุประสงค์ ->
เพื่อลดต้นทางการเกษตร
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. เศษพืชผัก ผลไม้ หรือเศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า
2. กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง
อุปกรณ์ ->
1. ถังสำหรับหมัก
2. มีด
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. นำวัตถุดิบมาสับ บด โขลก หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. บรรจุลงในภาชนะ
3. เติมกากน้ำตาล หรือน้ำตาลทรายแดง และส่วนผสมอื่น ๆ ลงไป ตามอัตราส่วน
4. คนหรือคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาภาชนะ หมักไว้ 7-15 วัน
5. ครอบตามกำหนดปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพจะมีกลิ่นหอม
6. สำหรับปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพถั่วเหลือง และปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพปลาสดหรือหอยเซลรี่ ควรหมักอย่างน้อย 1 เดือน จึงนำไปใช้ได้ และระหว่างหมักให้หมั่นคนส่วนผสมทุกวัน
7. หากมีกลิ่นเหม็นหรือบูดเน่าให้เติมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทราย แล้วคนให้เข้ากันทิ้งไว้ 3-7 วัน กลิ่นเหม็นหรือกลิ่นบูดเน่าจะหายไป
8. การแยกกากและน้ำชีวภาพ โดยใช้ถุงอาหารสัตว์ ถุงปุ๋ยเคมี หรือมุ้งเขียว รองรับกากและน้ำชีวภาพจะไหลลงภาชนะที่เตรียมไว้ และกากที่เหลือนำไปคลุมโคนพืช หรือคลุมแปลงต่อไปได้อีก
ข้อพึงระวัง ->
1. ควรเลือกใช้เศษพืชผัก ผลไม้ หรือเศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า สับหรือบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เช่นถังพลาสติกหรือโอ่ง หากมีน้ำหมักชีวภาพอยู่แล้วให้เทผสมลงไปแล้วลดปริมาณกากน้ำตาลลง ปิดฝาภาชนะทิ้งไว้จนได้เป็นน้ำหมักชีวภาพจากนั้นกรอกใส่ขวดปิดฝาให้สนิทรอการใช้งานต่อไป
2. ในระหว่างการหมัก ห้ามปิดฝาภาชนะจนแน่นสนิทเพราะอาจทำให้ระเบิดได้เนื่องจากระหว่าง การหมักจะเกิดก๊าชต่างๆขึ้นเช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก๊าซมีเทนเป็นต้น
3.ไม่ควรเลือกพืชจำพวกเปลือกส้ม ใช้ทำน้ำหมัก เพราะมีน้ำมันที่ผิวเปลือกจะทำให้จุลินทรีย์ไม่ย่อยสลายการทำน้ำหมักชีวภาพ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องอาศัยเวลาและความอดทน ที่สำคัญน้ำหมักชีวภาพไม่มีสูตรที่ตายตัว เราสามารถทดลองทำปรับเปลี่ยนวัตถุดิบให้เหมาะสมกับต้นไม้ของเรา เพราะสภาพแวดล้อมแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน ต้นไม้แต่และถิ่นก็ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน น้ำหมักชีวภาพจึงจำเป็นต้องมีความแตกต่างกันตามท้องถิ่น