การเลี้ยงกบและขยายพันธุ์กบ
โดย : นายสมนึก เปรมกมล วันที่ : 2017-03-27-14:58:24ที่อยู่ : 79/3 ม.5 ต.บ่อทอง
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
แต่เดิมก็ซื้อลูกกบมาเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริม และสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ต่อมาได้ไปศึกษาดูงานการขยายพันธุ์กบ จึงได้นำความรู้มาเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ และเพาะลูกกบขาย
วัตถุประสงค์ ->
เป็นอาชีพเสริมและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
- พันธุ์กบ
- อาหารเม็ด
อุปกรณ์ ->
บ่อปูนซีเมนต์
กระบวนการ/ขั้นตอน->
-การเลี้ยงกบ
เตรียมสถานที่เลี้ยง ศึกษาสายพันธุ์กบ และธรรมชาติของกบแต่ละพันธ์ุ คัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่ทนต่อสภาพอากาศของบ้านเรา การออกไข่ และทนต่อโรคต่างๆ และความต้องการของตลาด
- การเพาะพันธุ์
• ล้างบ่อให้สะอาดที่สุด แล้วเติมน้ำในบ่อเพาะพันธุ์ ให้ได้ระดับ 5-7 เซนติเมตรหรือท่วมหลังกบ
• ใส่พืชน้ำ หรือหญ้า ลงไป ก่อนใส่ต้องนำมาทำความสะอาดด้วยด่างทับทิมก่อน
• นำกบตัวผู้และตัวเมียพร้อมที่จะผสมพันธุ์ปล่อยลงในบ่อเพาะพันธุ์ช่วงเย็นเพื่อให้กบเลือกคู่กัน โดยบ่อขนาด 3�4 เมตร สูง 1.2 เมตร จะปล่อยพ่อแม่พันธุ์ 4-5 คู่
• ในการผสมพันธุ์กบตัวผู้จะไล่เวียนกบตัวเมีย แล้วใช้ขาหน้าโอบรัดตัวเมีย ทางด้านหลัง เพื่อรีดให้ไข่ออกมา ขณะเดียวกันตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อออกมาผสมทันที
• โดยปกติกบจะผสมพันธุ์ในตอนกลางคืน รุ่งเช้าให้นำพ่อแม่พันธุ์ออกจากบ่อ ปล่อยให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัว ซึ่งจะให้เวลา 18-36 ชม. แล้วรอจนไข่แดงหมดค่อยให้อาหารผงลูกอ๊อด หรือไข่ตุ๋น ก็ได้ จนอายุประมาณ 7 – 10 วันเริ่มให้อาหารเม็ดโฟมลอยน้ำให้กินต่อไปจนเป็นลูกกบเล็ก(หางหด)
• หลังจากผสมพันธุ์แล้วจะต้องเพิ่มระดับน้ำวันละ 5-7 เซนติเมตร จนสูง 30 เซนติเมตร เมื่อลูกอ๊อดหางหดจึงค่อยลดระดับน้ำลง
• ช่วงลูกอ๊อดบอายุ 20-30 วัน ต้องหาไม้กระดาน โฟม แผ่นพลาสติกลอยน้ำ ให้ลูกกบขึ้นไปอยู่
• ไข่ที่ฟักออกมาจะเจริญเติบโตเป็นลูกอ๊อด และพัฒนาเป็นลูกกบเล็กใช้เวลาประมาณ 30-36 วัน หรือ ประมาณ 1 เดือนเศษ
• ถ้าลูกอ๊อดตัวใดโตไว ต้องขยันคัดขนาดไปเลี้ยงแยกในบ่ออนุบาล เพื่อป้องกันลูกอ๊อดกัดกินขาลูกกบเล็ก หรือกัดกินกันเอง
ข้อพึงระวัง ->