ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

            ในหมู่บ้านนี้ ราษฏรส่วนใหญ่มีอาชีพทางการเกษตร ค้าขายและรับจ้าง  มีพื้นที่ทำกินไม่มากนัก  และมีการปลูกผักสวนครัวกันเกือบทุกครัวเรือน นายศุภกิจ  จันทร์พุ่ม เป็นคนหนึ่งที่ปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง  และมีความสนในการปลูกมะนาว เนื่องจากมะนาวเป็นสิ่งที่ใช้ในการปรุงอาหารในชีวิตประจำวันเป็นประจำ และสามารถขายเป็นรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวได้  แต่พื้นที่บริเวณบ้านไม้มากนัก เห็นว่าการปลูกมะนาวในเข่ง เหมาะสมสำหรับคนที่มีพื้นที่น้อยๆ อีกทั้งการปลูก  การดูแลรักษาก็ง่าย  จึงได้ศึกษาเรียนรู้ หาความรู้เรื่องการปลูกมะนาวในเข่ง เพื่อเป็นอาชีพเสริมให้ครอบครัว

วัตถุประสงค์ ->

- เพื่อเป็นอาชีพเสริม  เพิ่มรายได้  ให้แก่ครัวเรือน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

6.1 เข่ง

     

 1. กิ่งพันธ์มะนาว
 2. ดิน 
 3. ขุยมะพร้าว
 4. เปลือกถั่วเขียว
 5. ปุ๋ยคอก

อุปกรณ์ ->

       1. เข่งพลาสติก
       2. จอบ 
       3. ถังรดน้ำ
       4. ไม้ค้ำยัน
       5. เชือก

กระบวนการ/ขั้นตอน->

           1. ผสมดิน โดยใช้อัตราส่วนผสม 3 : 1 : 1 : 1  คือ ดินปลูก 3 ส่วน , ขุยมะพร้าว 1 ส่วน , ปุ๋ยคอกหมัก 1 ส่วน เปลือกถั่วเขียว 1 ส่วน    นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วนำใส่เข่ง โดยให้เราใส่ดินที่ผสมแล้วให้ได้ประมาณ 3 ส่วน 4 ของเข่ง
           2.  นำกิ่งพันธ์มะนาวที่เตรียมไว้ใส่ลงในเข่ง   จัดให้อยู่ในตำแหน่งกลางเข่ง แล้วใส่ไม้ค้ำ ผูกค้ำกิ่งมะนาวกับไม้ค้ำให้เรียบร้อย เพื่อให้ต้นมะนาวได้รูป ในระหว่างที่นำต้นมะนาวลงเข่งพยายามจัดแต่งต้นมะนาวให้ตรง ไม่ให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
           3. นำดินส่วนที่เหลือ ใส่ให้เต็มเข่ง แล้วพยายามกดให้แน่นพอประมาณ แล้วใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ประมาณหยิบมือเดียว แล้วรดน้ำตามให้ชุ่ม
ข้อดีของการปลูกในเข่ง
               1. ใช้พื้นที่น้อย เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด เพราะการปลูกในเข่งเราจะใช้พื้นที่น้อยกว่าการปลูกโดยปกติ สามารถที่จะปลูกในระยะชิดโดยที่รากไม่ไปรบกวนซึ่งกันและกัน
               2. การปลูกพืชในเข่งจะทำให้พืชนั้นเจริญเติบโตได้เร็วกว่าปลูกลงดิน เพราะดินปลูกมีความร่วนซุย และ โปร่ง  เพราะการปลูกลงเข่งใช้ดินปลูกหรือวัสดุปลูกที่ผสมขึ้นมาใหม่ทั้งหมดทำให้ดินเหมาะสมกับพืชนั้นๆ และ การปลูกในเข่งจะสามารถระบายอากาศได้ดี  รากพืชจึงสามารถดึงเอาธาตุที่มีประโยชน์ในอากาศไปใช้ได้อย่างเต็มที่ ทำให้รากพืชหาอาหารได้ดี
                3.  ให้ผลผลิตเร็วกว่าการปลูกลงดิน 
                4. การปลูกต้นในเข่งจะให้ความสะดวกในการดูแลรักษา ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและกำจัดโรค แมลง วัชพืช และการห่อผลง่าย โดยเฉพาะโรคทางดิน การปลูกในเข่งจะสามารถช่วยได้เป็นอย่างมาก
                 5. สามารถบังคับการออกดอกติดผล ควบคุมคุณภาพ และรสชาติได้ ดีกว่าปลูกลงดิน ไม่ว่าจะเป็นการผลิตในฤดูหรือนอกฤดู เนื่องจากเราสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย น้ำ หรืออื่นๆ ทำให้เราสามารถกำหนดรูปแบบได้ตามต้องการได้
                 6. การปลูกในเข่ง  สะดวกในการเคลื่อนย้าย สามารถเคลื่อนย้ายไปวางไว้ที่ไหนก็ได้

ข้อพึงระวัง ->

- ปุ๋ยคอกที่ใช้ควรหมักไว้อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้ก๊าซในมูลสัตว์หมดจะได้ไม่ทำให้ระบบรากมีปัญหา