ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

          นายสมหมาย  เฉลิมทอง กำนันตำบลทางกลาง เป็นหมอดินอาสาประจำหมู่บ้านและตำบลทางกลาง ได้รับการฝึกอบรมการทำน้ำหมักชีวภาพจากกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำความรู้เรื่องการทำน้ำหมักชีวภาพมาใช้ในการเร่งดอก ใบ ให้ผลผลิตเยอะและกำจัดศัตรูพืช โดยใช้เศษพืชผัก ผลไม้ ซึ่งใช้วัสดุจากธรรมชาติและสารสกัดจากพืชที่ไม่เป็นพิษต่อคนและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้พืชที่เพาะปลูกได้ผลผลิตดี ผู้บริโภคปลอดภัยจากการใช้สารเคมีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม     

วัตถุประสงค์ ->

          1. เพื่อลดการใช้สารเคมีในการทำการเกษตร

          2. เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้สารเคมี

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

    น้ำหมักชีวภาพสำหรับผลิตสารป้องกันแมลงศัตรูพืช

          1. ปุ๋ยอินทรีย์น้ำปลาหรือหอยเชอรี่ (ใช้เวลาหมัก 15 – 20 วัน)

ปลาหรือหอยเชอรี่         ผลไม้             กากน้ำตาล           น้ำ      อัตราส่วน = 3 : 1 : 1 : 1

   (30 กิโลกรัม)                 (10 กิโลกรัม)       (10 กิโลกรัม)     (10 ลิตร)

- สารเร่งซุปเปอร์ พด. ๒  จำนวน 1 ซอง

          2. ปุ๋ยอินทรีย์น้ำผักหรือผลไม้ (ใช้เวลาหมัก 7 วัน)

ผักหรือผลไม้             กากน้ำตาล        น้ำ      อัตราส่วน = 4 : 1 : 1

          (40 กิโลกรัม)           (10 กิโลกรัม)    (10 ลิตร)          

อุปกรณ์ ->

          ถังพลาสติกขนาด 50 ลิตร                   จำนวน 10 ใบ

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. ละลายสารเร่งซุปเปอร์ พด.2 จำนวน 1 ซอง ในน้ำ 10 ลิตร ผสมให้เข้ากันนาน 5 นาที

2. ผสมเศษวัสดุและกากาน้ำตาลลงในถังหมัก ขนาด 50 ลิตร แล้วเทสารละลายซุปเปอร์ พด.2 ในข้อ 1 ผสมลงในถังหมัก

          3. คลุกเคล้าหรือคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง

          4. ปิดฝาไม่ต้องสนิท

          5. หมักทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่กำหนดปุ๋ยอินทรีย์น้ำปลาหรือหอยเชอรี่ (ใช้เวลาหมัก 15 – 20 วัน)

ปุ๋ยอินทรีย์น้ำผักหรือผลไม้ (ใช้เวลาหมัก 7 วัน)

          6. เมื่อครบระยะเวลาหนักที่กำหนด กรองน้ำหมักชีวภาพเอาน้ำหมักไปใช้ได้

อัตราการใช้ ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ : น้ำ = 1 : 500 – 1 : 1,000

7. วิธีการใช้ ฉีดที่ใบและลำต้น 10 วันต่อครั้ง

ข้อพึงระวัง ->

การใส่ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพต้องใส่อย่างสม่ำเสมอจึงจะได้ผลดี และใส่ในอัตราที่กำหนดเท่านั้นถ้าใส่เข้มข้นไปจะเป็นอันตราต่อพืชได้