ความรู้สัมมาชีพชุมชน

image1

การเลี้ยงกบ

โดย : นายมนตรี กมลแมน วันที่ : 2017-09-13-17:03:14

ที่อยู่ : เลขที่ 8 หมู่ที่ 9 ตำบลเนินหอม

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

แต่เดิมกบเป็นอาหารตามธรรมชาติของมนุษย์ มักจะเจอตามลำห้วย หนอง บึง ท้องนา  แต่ด้วยทุกวันนี้มีการใช้สารเคมีในการเกษตร มีโรงงานเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ระบบนิเวศที่กบเคยอาศัยอยู่ได้เปลี่ยนไป  อีกทั้งความต้องการบริโภคกบก็สูงขึ้น ทำให้การจับกบไม่ได้คำนึงถึงว่าจะต้องปล่อยให้ตัวเล็ก ๆ ได้มีโอกาสเติบโตขยายพันธุ์ต่อไป จับมาขายทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ทำให้จำนวนกบตามธรรมชาติลดน้อยลงเรื่อย ๆ

                เกษตรกรจึงมองเห็นโอกาสที่จะสร้างรายได้จากความต้องการกบเพื่อการบริโภค เพราะกบเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ใช้เวลาไม่มาก ลงทุนน้อย และคุ้มค่า มีการทำฟาร์มเลี้ยงกบหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเลี้ยงกบแบบธรรมชาติ การเลี้ยงกบในขวด การเลี้ยงกบคอนโด แบบบ่อซีเมนต์ ฯลฯ และก็มีบางส่วนที่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากยังขาดข้อมูลสำคัญอยู่ เช่น นิสัยใจคอของกบ พื้นที่ที่เหมาะกับการเลี้ยงกบเป็นต้น

วัตถุประสงค์ ->

1.เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวให้เกิดรายได้ตลอดทั้งปี
2.เพื่อให้มีอาหารเพียงพอแก่การบริโภคภายในครัวเรือนและมีรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1.อาหารกบ   2.น้ำ

อุปกรณ์ ->

1.     ตาข่าย     2.ทุ่นลอยน้ำ   3.ไม้หลัก

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1.ใช้บัญชีครัวเรือนมาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลตนเอง

2.เข้ารับการอบรมความรู้จากหน่วยงานต่างๆเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง

3.ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค้า โดยยึดหลักปลูกเพื่อกินเหลือแจกจ่าย และขาย

ข้อพึงระวัง ->

1. ถ้าใช้เป็นน้ำคลองที่มีการไหลและหมุนเวียนตลอด จะนำมาเลี้ยงกบได้ดีที่สุด กบแข็งแรง ไม่ค่อยมีโรค อัตรารอดสูงกว่า
2. การใช้น้ำบาดาล บางที่นำมาใช้เลี้ยงได้เลย แต่หลายๆที่ยังคงต้องนำมาใส่บ่อพักไว้ก่อน เพื่อตรวจวัดให้ได้คุณภาพที่ดีพอก่อนนำไปใช้
3. น้ำประปา ที่มีคลอรีนไม่มากนัก สามารถนำมาเลี้ยงกบได้ แต่อาจไม่คุ้มค่ามากนัก
4. การใส่กบอย่างหนาแน่น และถ้าน้ำหมุนเวียนดีๆ จะดีกว่าใส่กบจำนวนน้อย เพราะการใส่ให้หนาแน่นกบจะกินอาหารดีและทั่วถึงกว่า(เห็นตัวอื่นๆกิน ก็จะวิ่งมากินตามๆกัน)
5. ผู้ที่เพิ่มเริ่มเลี้ยง แนะนำให้ซื้อลูกพันธุ์กบที่มีตัวโตๆไปทดลองเลี้ยงก่อน เพราะโอกาสรอดจะสูง และแข็งแรงกว่าลูกกบเล็ก
6. ถ้าจะเลี้ยงจริงจัง ในปริมาณมาก แนะนำให้เลี้ยงในบ่อดิน หรือในบ่อปูน หรือในกระชัง จะสะดวกที่สุด
7. ช่วงต้นฤดูฝนใหม่ๆ กบจะเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เช่น โรคตาขาว โรคกระแตเวียน โรคปากแดง โรคเป็นแผลพุพอง จึงต้องระวังในการเลี้ยงเป็นพิเศษ และให้ยาตามความเหมาะสม

รูปประกอบ -> image1

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดปราจีนบุรี
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา