ความรู้สัมมาชีพชุมชน

image1

การปลูกกล้วยน้ำว้า

โดย : นายมานัส บุญกาวิน วันที่ : 2017-03-13-11:17:47

ที่อยู่ : 19 ม.9 ต.บ่อแก้ว อ.นาหมื่น จ.น่าน

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

กล้วยน้ำว้าเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศ ผลสุกนอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้แล้ว ยังสามารถนำมาปรุงอาหารคาวหวาน และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปชนิดต่าง ๆ อีกหลายชนิด ได้แก่ กล้วยตาก กล้วยทอด กล้วยบวชชีกระป๋อง กล้วยในน้ำเชื่อมกระป๋อง เป็นต้น ส่วนใบตองสดสามารถนำไปใช้ห่อของ ทำงานประดิษฐ์ศิลปะต่าง ๆ ได้แก่ กระทง บายศรี ใบตองแห้งใช้ทำกระทงใส่อาหาร และใช้ห่อผลไม้ เพื่อให้มีผิวสวยงามและป้องกันการทำลายของแมลงก้านใบและกาบกล้วยแห้งใช้ทำเชือก กาบสดใช้สำหรับการแทงหยวกประกอบเมรุในการฌาปนกิจศพ หัวปลี (ดอกกล้วยน้ำว้า) ยังใช้รับประทานแทนผักได้ดีอีกด้วย สำหรับคุณค่าทางอาหาร กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินเอ แต่การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี  ต้องเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์  การปลูก  การดูแลรักษา 

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อประกอบเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

หน่อกล้วย  ปุ๋ย

อุปกรณ์ ->

จอบ เสียม

กระบวนการ/ขั้นตอน->

          1. การเตรียมดิน ไถพรวน  ตากดินทิ้งไว้ ๑ เดือน เพื่อลดการระบาดของศัตรูพืช คราดเก็บเศษวัชพืชออกจากแปลง

2. วิธีการปลูก

- ใช้หน่อพันธุ์ที่สมบูรณ์ในระยะที่มีใบแคบ  ลำต้นสูง ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร

- ระยะปลูกระหว่างแถวและต้น ๒ x ๒ เมตร  หรือ  ๒.๕ x ๒.๕ เมตร

- ขุดหลุมปลูกขนาด ๕๐ x ๕๐ x ๕๐ เซนติเมตร

- รองก้นหลุมด้วยดินผสมกับปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้ว  อัตรา ๕ กิโลกรัมต่อหลุม  โดยสูงจากก้นหลุมประมาณ ๑ ใน ๓ ของหลุม  หากต้องการไว้ตอ ๒ – ๓ ปี  ควรเพิ่มหินฟอสเฟตอัตรา ๑๐๐ – ๒๐๐ กรัมต่อหลุม

- วางหน่อพันธุ์ที่ก้นหลุมให้ลึกประมาณ ๒๕ เซนติเมตร  โดยจัดวางหน่อพันธุ์ให้ด้านที่ต้นแม่อยู่ในทิศทางเดียวกัน  เพื่อให้มีการออกดอกไปในทิศทางเดียวกัน  สะดวกในการปฏิบัติดูแลรักษา

- กลบดินที่เหลือลงในหลุม  กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่นและคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง

- รดน้ำให้ชุ่ม

3. การดูแลรักษา

- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ๑ ครั้ง  เช่น  ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก่อนปลูก  อัตรา ๓ – ๕  กิโลกรัมต่อหลุม  ใส่ปุ๋ยเคมี ๔ ครั้ง  และใส่ปุ๋ยเคมี ครั้งที่ ๑ และ ๒ หลังจากปลูก ๑ เดือน และ ๓ เดือน เป็นระยะที่กล้วยมีการเจริญเติบโตทางลำต้น ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร ๒๐–๑๐-๑๐ หรือ ๑๕-๑๕-๑๕  อัตรา ๑๒๕ - ๒๕๐ กรัมต่อต้นต่อครั้ง  ครั้งที่ ๓ และครั้งที่ ๔ หลังจากปลูก ๕ เดือน และ ๗ เดือน  เป็นระยะที่กล้วยเริ่มให้ผลผลิต  ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร ๑๒-๑๒-๒๔ หรือ ๑๔-๑๔-๒๑  อัตรา ๑๒๕ - ๒๕๐ กรัมต่อต้นต่อครั้ง

- การให้น้ำในฤดูฝน  เมื่อฝนทิ้งช่วง  สังเกตหน้าดินแห้งและเริ่มแตก  ควรรีบให้น้ำ ในฤดูแล้ง  เริ่มให้น้ำตั้งแต่หมดฝน  ประมาณปลายเดือนมกราคม – พฤษภาคม  วิธีการให้น้ำ  ชาวสวนนิยมปล่อยให้น้ำไหลเข้าไปในแปลงย่อยเป็นแปลง ๆ เมื่อดินมีความชุ่มชื้นดีแล้วจึงให้กับแปลงอื่นต่อไป ปริมาณน้ำที่ให้  สังเกตดินในแปลงเปียกชื้น  แฉะเล็กน้อย  จึงหยุดให้

- การตัดแต่งและดูแลต้นกล้วย  หลังปลูกกล้วย ๑ เดือน พรวนดินเพื่อให้ดินโปร่ง เก็บความชื้นได้มาก และดายหญ้าสม่ำเสมอ การพูนโคน  ในขณะที่ดายหญ้าและพรวนดิน โดยดินเข้าหากอกล้วย ช่วยลดปัญหาโค่นล้มของต้นกล้วยและป้องกันรากของหน่อตาม  โดยเฉพาะกล้วยตอที่เกิดจากหน่อตาม ปีที่ ๒ และปีที่ ๓  หลังจากปลูกกล้วยประมาณ ๕ เดือน  แต่งหน่อตามเพื่อให้ต้นแม่มีความ

4. การเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวหลังตัดปลีประมาณ ๔๕ วัน  กล้วยที่ตกเครือช่วงฤดูหนาวผลจะแก่ช้า  อายุเก็บเกี่ยวประมาณ ๕๐ – ๕๕ วัน  หลังจากตัดปลี วิธีการเก็บเกี่ยวใช้มีดคมตัดเครือกล้วย

ข้อพึงระวัง ->

โรคและแมลงศัตรูที่เกิดขึ้นกับต้นกล้วย ได้แก่

1. โรคใบลาย  เกิดจากเชื้อรา เข้าทำลายใบกล้วยตั้งแต่อายุ ๒ – ๓ เดือน จะเห็นอาการด้านบนของใบล่างมีลักษณะเป็นปื้นหรือแถบสีส้มปนน้ำตาล ส่วนด้านใต้ใบพบกลุ่มเส้นใยและสปอร์จำนวนมาก  ต่อมาใบที่เป็นโรคเปลี่ยนเป็นสีสนิมทั้งใบ และแห้งเป็นสีน้ำตาล จะระบาดช่วงฝนตกชุก ป้องกันโดยกำจัดตัดแต่งใบกล้วยให้มีจำนวนใบต่อต้นที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีใบแน่นทึบ เกิดความชื้นสูง  ซึ่งเหมาะสมกับการระบาดของโรค ใบที่เป็นโรคควรตัดออก  นำไปนอกแปลงปลูกและเผาทำลายเมื่อแห้ง

2. ด้วงงวงกล้วย ระยะหนอนทำความเสียหายแก่ต้นกล้วยมากที่สุด  ตัวหนอนเจาะกัดกินและไชชอนอยู่ภายในเหง้าของกล้วยใต้ระดับผิวดินบริเวณโคนต้น  จึงไม่เห็นการทำลาย  หนอนสามารถทำลายต้นกล้วยได้ทุกระยะ

ระบาดตลอดฤดูปลูก  การป้องกันกำจัดโดยเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีการระบาดของแมลงศัตรูชนิดนี้ ขยายพันธุ์จากหน่อพันธุ์ที่สมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากแมลงศัตรูและโรค รักษาความสะอาดของแปลงปลูกอยู่เสมอ  หากพบกล้วยที่ตายควรเก็บรวบรวมเผาทำลาย การปลูกพืชหมุนเวียนสลับ ๑ ปี หลังปลูกกล้วยติดต่อกันนานกว่า ๓ ปี จะช่วยลดปริมาณแมลงศัตรูชนิดต่าง ๆ ได้

 

3. ด้วงเจาะลำต้น ตัวเต็มวัยวางไข่ตามบริเวณกาบกล้วย  ส่วนของลำต้นที่เหนือพื้นดินขึ้นไปจนถึงประมาณกลางต้น ตัวหนอนกัดกินเซลล์ต้นกล้วยเข้าไปถึงไส้กลางของต้น มองเห็นข้างนอกรอบต้นเป็นรูพรุนทั่วไป  ทำให้ต้นกล้วยตาย  หากเข้าทำลายในระยะใกล้ออกปลีจนถึงตกเครือ จะทำให้เครือหักพับกลางต้น หรือเหี่ยวเฉายืนต้นตายระบาด      ระยะกล้วยที่โตแล้วหรือระยะกล้วยออกปลีจนถึงตกเครือ ป้องกันกำจัดโดยเลือกพื้นที่ปลูกกล้วย ที่ไม่เคยมีการระบาดของโรคและแมลงศัตรู ขยายพันธุ์จากหน่อที่สมบูรณ์  แข็งแรง  ปราศจากโรคและแมลงศัตรู  ไม่ควรวางหน่อกล้วยที่ขุดใหม่บนพื้นดินข้ามคืนเพราะแมลงจะเข้าวางไข่ได้ รักษาความสะอาดของแปลงปลูกเสมอ เก็บฝังหรือเผาทำลายต้นกล้วยหรือปลีที่เน่า การปลูกพืชหมุนเวียนสลับ ๑ ปี หลังปลูกกล้วยติดต่อกันนานกว่า ๓ ปี จะช่วยลดปริมาณแมลงศัตรูชนิดต่าง ๆ ได้

4. หนอนม้วนใบกล้วย หนอนวัยแรกจะกัดกินอยู่ใต้ใบ โดยเริ่มจากขอบใบก่อนและขยายเป็นแถบกว้างเพื่อใช้ม้วนห่อตัว  ระยะหนอน ๒๓ – ๒๕ วัน  เข้าดักแด้ภายในหลอดประมาณ ๑๐ วัน และเป็นผีเสื้อ  ใบกล้วยที่ถูกหนอนกัดกินมากทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากใบกล้วยได้ ระบาดตลอดฤดูปลูก การป้องกันกำจัดโดยเก็บทำลายตัวหนอนม้วนที่พบตามใบกล้วย

 

 

รูปประกอบ -> image1

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดน่าน
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา